ซูหว่านยกถ้วยน้ำชาขึ้นอย่างจริงจังและดื่มจนหมดในอึกเดียว ราวกับกำลังได้รับคำสั่งทางทหาร
ซูจิ่งและซูอี้หัวเราะเสียงดังกับท่าทางของนาง ภายในเรือนเล็กๆ มีเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขเป็นระยะอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สามคนพี่น้องพูดคุยกันจนดึกจึงกลับห้อง เช้าวันต่อมาซูจิ่งเหมือนกับที่พูดกันเมื่อคืน เขาพาซูหว่านกับซูอี้ไปที่เรือนบนเขื่อน
เรือนของเขามีห้องว่างอยู่ห้าหกห้อง ซึ่งเพียงพอที่พวกเขาจะพักอาศัยกัน พวกองครักษ์เบียดกันสักหน่อย ทนลำบากสักสองวัน
ก่อนที่จะเดินทางไปพวกเขายังไปซื้อของกันในตัวอำเภอ จากนั้นสองสามวันพวกเขาจำต้องหุงหาอาหารเอง ซูจิ่งเองก็ไม่อยากให้น้องสาวเดินทางมาไกลแล้วกินอยู่อย่างไม่ดี
ยามเช้าหม่าอวี้อิ๋งยังจะมากับพวกเขา แต่ซูจิ่งปฏิเสธด้วยเหตุว่าห้องไม่เพียงพอ
หม่าอวี้อิ๋งทำอะไรไม่ได้ นางมองพวกเขาจากไปด้วยสีหน้าเศร้าโดยไม่หันหลังกลับ
ซูหว่านนั่งบนรถม้าอันโยกเยกไปตลอดทางเกือบครึ่งชั่วยามถึงจะถึงเขื่อน
นางเห็นกระแสน้ำของแม่น้ำเสวียนมาแต่ไกล ดินทรายทำให้น้ำของแม่น้ำกลายเป็นสีเหลือง แม้ว่าจะไม่ใช่ฤดูน้ำหลาก แต่กระแสน้ำยังคงแรง ถ้าหากว่ามนุษย์ไปยืนใกล้ๆ คงจะรู้สึกเหมือนถูกน้ำพัด
บนเขื่อนมีไม้ไผ่และท่อนไม้ที่รวมกันเป็นโครงจำนวนมาก เหล่าคนงานกำลังเคาะตีพวกมันอยู่
ด้านในมีทหาร ชาวบ้าน พวกเขาเปลือยท่อนบนและเดินบนสะพานไม้ที่ถูกประกอบเสร็จแล้ว
ซูจิ่งชี้แจงแนวคิดของตัวเองให้พวกนางฟังตลอดทาง ซูหว่านกับซูอี้เองก็ฟังอย่างตั้งใจ
ตอนนี้เริ่มเห็นเขื่อนเป็นโครงแล้ว รอให้ทำเสร็จอย่างน้อยต้องใช้เวลาสองปี ทุกปีจะมีฤดูน้ำท่วมสองเดือน สองเดือนนี้จะหยุดการก่อสร้าง ด้วยคำนึงถึงความปลอดภัยของคนงาน
บริเวณส่วนกลางและส่วนล่างของแม่น้ำ เขาได้ออกคำสั่งให้เหล่าขุนนางพาชาวบ้านปลูกป่าทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ
บริเวณต้นน้ำเป็นพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติรุนแรงที่สุด เขาจึงขุดต้นไม้จากที่อื่นมาปลูกโดยตรงที่ริมแม่น้ำทั้งสองฝั่ง
ต้นไม้ปรับสภาพมาหนึ่งปีแล้ว ประกอบกับริมฝั่งแม่น้ำทั้งสองฝั่งไม่ขาดนั้น รากต้นไม้จึงสามารถหยั่งรากลึกลงไปในพื้นดินได้
เมื่อมองจากไกล บนพื้นดินตรงข้ามกับแม่น้ำเสวียนได้มีต้นไม้จำนวนมากที่ถูกย้ายมากปลูก แต่โครงการใหญ่เช่นนี้ล้วนพึ่งพาอาศัยการรวมใจของชาวบ้าน
จุดประสงค์เพื่อสามารถรับแรงน้ำและดินทรายในยามที่ถึงฤดูน้ำหลากได้เมื่อน้ำจำนวนมหาศาลซัดมา บริเวณใกล้กับหมู่บ้านก็จะได้รับความเสียหายน้อยลง
อย่างไรเสียชาวบ้านทำงาน ราชสำนักไม่เพียงแต่ลดรายจ่ายแต่ยังให้ค่าแรง เหตุใดจึงไม่ยินดีกัน
แต่อยู่ด้านบนแล้ว ก็ไม่เสียดายที่ได้เห็นภาพทิวทัศน์ตรงหน้า
เรือนหลังเล็กเมื่อมองจากตีนเขาแล้วเล็กมาก แต่เมื่อขึ้นมาด้านบนแล้วถือว่ากว้างทีเดียว ห้องหับสะอาดสะอ้านอย่างไม่เคยมีใครพักอาศัยมาก่อน ยกเว้นแต่ห้องเดิมของซูจิ่ง
สี่จื่อและจู๋จื่อได้รออยู่ภายในเรือนแล้ว และได้ทำความสะอาดเรือนอย่างสะอาดเอี่ยม
เหล่าชาวบ้านบนภูเขาเมื่อได้ยินว่าครอบครัวใต้เท้าซูมาก็พากันเอาของดีที่บ้านมามอบให้
มีทั้งเป็ด ไก่ เนื้อตากแห้ง อีกทั้งยังมีผักสดที่เพิ่งเก็บ
ปกติแล้วเหล่าชาวบ้านจะทำอาหารหม้อใหญ่ให้กับเหล่าคนงาน เมื่อได้ยินว่าใต้เท้าซูมีน้องสาวที่งามราวกับบุปผาก็พากันมาแอบดู
ซูหว่านเองก็ให้พวกนางมองอย่างใจกว้าง อีกทั้งยังให้หลิวอวิ๋นกับหลิวอิ๋งนำลูกกวาดที่นำมาแบ่งให้พวกนางกิน
“คุณหนูซูงามจริงๆ”
“จริงด้วย ข้าอยู่มาหลายสิบปีแล้วไม่เคยเห็นแม่นางที่ไหนงามเช่นนี้เลย”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...