เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 454

ไม่ต้องพูดถึงพี่ใหญ่ที่สุดจะทนไหว แม้แต่นางเองก็สุดจะทนเช่นกัน

“คุณหนูสามเสิ่น หากไม่รังเกียจ ข้าขอเรียกท่านว่าพี่หญิงเสิ่น ท่านเองก็อย่าเรียกข้าว่าคุณหนูซูเลย เรียกข้าว่าหวานหว่านก็พอแล้วเจ้าค่ะ”

เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ตนชื่นชอบ ซูหว่านก็ทำตัวสนิทสนมขึ้นมาทันที ท่าทีที่ไม่ถือตัวของนาง ทำให้เสิ่นชิงหลีรู้สึกเกร็งน้อยลงไปมาก

“ย่อมไม่รังเกียจอยู่แล้ว เจ้าเต็มใจเรียกข้าว่าพี่หญิง ข้ายินดียิ่งนัก” เพียงไม่กี่ประโยค เสิ่นชิงหลีก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย

ช่างเป็นกุลสตรีในเรือนโดยแท้

“มาเถิด ข้าจะชงชาให้เจ้าดื่ม นี่เป็นธรรมเนียมรับรองแขกของเมืองหลวงเรา เมื่อมีแขกผู้มีเกียรติมาเยือน จะต้องชงชาหนึ่งจอกด้วยตนเอง เพื่อแสดงถึงการต้อนรับ”

ยามที่เสิ่นชิงหลีเอ่ย วาจาของนางเนิบนาบไม่เร่งรีบ บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มบางเบาอยู่เสมอ

ยิ่งไปกว่านั้น สองมือของนางยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งเรียวงาม ขาวผ่อง เล็บยังถูกตะไบเป็นรูปทรงรี งดงามน่ามองไปทุกส่วนสัด

“รบกวนพี่หญิงเสิ่นแล้ว” ซูหว่านนั่งมองนางชงชาอย่างเงียบ ๆ ตลอดกระบวนการใช้เวลาไปหนึ่งถ้วยชาพอดี ทุกขั้นตอนล้วนเนิบช้าไม่รีบร้อน สุดท้ายนางจึงวาดรูปดอกบัวลงบนฟองชา เป็นอันเสร็จสิ้น

ซูหว่านหวนนึกถึงตนเอง ดูเหมือนว่าแม้แต่การตีฟองชาก็ยังทำได้ไม่ดีนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการวาดลวดลายเลย

“น้องหวานหว่าน รีบชิมเถิด!” เสิ่นชิงหลีเลื่อนจอกชามาตรงหน้านาง

ซูหว่านยกขึ้นจิบหนึ่งคำ กลิ่นหอมกรุ่นของชาอบอวลไปทั่วทั้งปาก

นางรู้สึกเพียงว่าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก คนโบราณไม่เคยหลอกลวงข้า วัฒนธรรมที่บรรพบุรุษสืบทอดกันมาล้วนเป็นสิ่งที่ดีงามอย่างแท้จริง

“อืม อร่อยมากเจ้าค่ะ ฝีมือของพี่หญิงเสิ่นไม่เลวเลย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นชิงหลีจึงยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดปากแล้วหัวเราะออกมา

“น้องหวานหว่าน ชมเกินไปแล้ว”

เมื่อดื่มชาเสร็จ ซูหว่านก็ต้องทำธุระสำคัญ นางกวักมือเรียกหนึ่งครั้ง หลิวอิ๋งก็นำของเข้ามาทันที ทั้งจดหมายและจี้หยกชิ้นนั้น ล้วนถูกบรรจุไว้ในกล่อง

ซูหว่านวางกล่องลงตรงหน้าเสิ่นชิงหลี แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า

“พี่หญิงเสิ่น ที่นัดท่านมาพบในวันนี้ ก็เพื่อนำของแทนใจจากพี่ใหญ่ของข้ามามอบให้ เขาฝากข้ามาบอกท่านว่า ความรู้สึกของท่าน เขารับรู้แล้ว ในนี้มีจดหมายฉบับหนึ่ง เป็นสิ่งที่เขาอยากจะบอกกับท่าน”

ซูหว่านกล่าวอย่างเรียบง่ายและมีความนัย ทว่าก็เพียงพอที่จะทำให้เสิ่นชิงหลีเขินอายจนใบหน้าแดงก่ำ

นางใช้ผ้าเช็ดหน้าซับแก้มที่ร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย หัวใจพองโตเปี่ยมสุขขณะมองกล่องใบนั้น อยากจะเปิดดูเสียเดี๋ยวนี้ให้รู้แล้วรู้รอด

ทว่าซูหว่านยังอยู่ตรงนี้ นางจะเสียกิริยาไม่ได้ เดี๋ยวจะถูกมองว่าไม่สงวนท่าที

แม้นางจะไม่ได้เอ่ยตอบคำของซูหว่าน แต่ปฏิกิริยาของนางก็ได้อธิบายทุกสิ่งแล้ว

จากนั้น เสิ่นชิงหลีก็คลี่ซองจดหมาย เริ่มตั้งใจอ่านจดหมายจากซูจิ่ง ซูหว่านเองก็ไม่รู้ว่าในนั้นเขียนว่ากระไร เรื่องเช่นนี้ไม่สะดวกที่จะไถ่ถาม ด้วยล้วนเป็นถ้อยคำรักใคร่ของหนุ่มสาว

ซูหว่านจึงฉวยโอกาสนี้จิบชาและกินขนมอยู่ด้านข้าง รอคอยอย่างเงียบ ๆ ให้นางอ่านจนจบ

เพียงแต่ เหตุใดอ่านไปอ่านมา ดวงตากลับแดงก่ำขึ้นมาเล่า?

ซูหว่านไม่กล้าเอ่ยถาม ได้แต่เฝ้ามองอยู่ข้าง ๆ

หลังจากเสิ่นชิงหลีอ่านจบ นางก็พับจดหมายกลับดังเดิมอย่างบรรจง สอดคืนลงในซอง แล้วจึงเก็บกลับเข้ากล่องไป

ส่วนจี้หยกชิ้นนั้น นางลูบไล้มันอย่างทะนุถนอมก่อนจะเก็บกลับเข้ากล่องและปิดลงกลอนอย่างดี

เล่อเอ๋อร์ สาวใช้ของนางเห็นดังนั้นจึงคิดจะนำกล่องไปเก็บ ทว่ากลับถูกเสิ่นชิงหลีห้ามไว้ นางใช้มือข้างหนึ่งกดลงบนกล่อง ส่ายหน้าให้เล่อเอ๋อร์เป็นสัญญาณให้ถอยออกไป

“พี่หญิงเสิ่น ตอนนี้ท่านก็รับรู้ถึงความในใจของพี่ใหญ่ข้าแล้ว หากท่านมีสิ่งใดอยากจะบอกเขา ก็เขียนลงเป็นจดหมายเถิด ข้าจะช่วยท่านส่งไปให้เขาเอง”

เสิ่นชิงหลียิ้มพลางพยักหน้ารับคำ แล้วจึงสั่งให้เล่อเอ๋อร์ไปเตรียมกระดาษพู่กันและซองจดหมายมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม