เรือลอยลำอยู่อย่างเงียบสงบบนทะเลสาบ แสงแดดด้านนอกสาดส่องลงมา
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งหนึ่ง รอจนกระทั่งเสิ่นชิงหลีเขียนจดหมายเสร็จและใส่ซองเรียบร้อยแล้ว จึงยื่นให้ซูหว่านด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ
บนซองจดหมายเขียนไว้ว่า พี่ซูโปรดเปิดด้วยตนเอง
โอ้โอ้โอ้ เรียกพี่ซูแล้วหรือนี่? ซูหว่านทำหน้าเหมือนได้เห็นฉากรักหวานชื่น
“พี่หญิงเสิ่นวางใจเถิด ข้าไม่แอบดูหรอกเจ้าค่ะ” นางเอ่ยหยอกเย้าอย่างจงใจ
เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นชิงหลีก็หัวเราะออกมาอย่างเขินอาย นางรู้ดีว่าซูหว่านเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้น
ซูหว่านหันไปส่งจดหมายให้หลิวอวิ๋น สั่งให้นางเก็บไว้ให้ดี รอเมื่อขึ้นจากเรือแล้วค่อยหาคนส่งกลับไปยังอำเภอโยว
“เพื่อเรื่องของเราสองคน ยังต้องรบกวนให้เจ้าเดินทางมาถึงเมืองหลวงด้วยตนเอง เดินทางมาตลอดทางคงเหนื่อยมากใช่หรือไม่?”
เสิ่นชิงหลีคิดว่าซูหว่านตั้งใจมาเมืองหลวงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ซูหว่านไม่ได้เห็นนางเป็นคนนอก จึงยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า
“มิใช่เพียงเพื่อเรื่องนี้อย่างเดียวเจ้าค่ะ ที่ข้ามาเมืองหลวง ส่วนหนึ่งก็เพื่อนำของแทนใจมาให้พี่ใหญ่ อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อมาทำการค้า สองเดือนนี้ข้าอาจจะต้องอยู่ที่เมืองหลวงตลอด คงต้องรอให้ถึงก่อนปีใหม่จึงจะได้กลับ หากพี่หญิงเสิ่นรู้สึกเบื่อหน่าย ก็มาหาข้าที่เรือนน้อยฝูหรงได้ทุกเมื่อ ครั้งนี้พี่ห้าของข้าก็มาด้วย แต่เพราะเป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบท่าน จึงเกรงว่าจะเสียมารยาทไป เลยไม่ได้ให้พี่ห้าตามมาด้วยเจ้าค่ะ”
ภาพแรกของซูหว่านในสายตาเสิ่นชิงหลีนั้นช่างไม่ธรรมดา ทั่วทั้งร่างของเด็กสาวผู้นี้แผ่กลิ่นอายของความสดใสร่าเริง หรือควรกล่าวว่า นางคือตัวแทนของความสดใสโดยแท้
ทั้งงดงาม มีชีวิตชีวา มีไหวพริบ ทั้งยังบริสุทธิ์สดใส ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำที่ใช้อธิบายความเป็นซูหว่านได้
โดยเฉพาะยามที่นางยิ้ม ช่างหวานจับใจ ทำให้ผู้คนอยากเข้าใกล้ชิด
ที่สำคัญที่สุดคือ ซูหว่านไม่เหมือนเหล่าคุณหนูสูงศักดิ์ในเมืองหลวง ที่ไปที่ใดก็มักจะวางท่าทีสูงส่งอยู่เสมอ นางไม่มีความรู้สึกเย่อหยิ่ง ถือตัว เข้าถึงง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนละเอียดรอบคอบและรู้จักกาลเทศะ
เพียงแค่การที่นางไม่ได้พาพี่ห้ามาด้วยในครั้งนี้ ก็เห็นได้ชัดแล้วว่านางใส่ใจในความรู้สึกของนางอย่างแท้จริง
“ก่อนหน้านี้ก็ได้ยินพี่ซูพูดถึงเจ้าอยู่บ่อยครั้ง เขาว่าเจ้าเป็นแม่ค้าที่เก่งกาจ มีความคิดแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มักจะคิดเรื่องสนุกออกมาได้เสมอ และเป็นเพราะมีเจ้า เขาจึงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมที่จะก้าวเดินบนเส้นทางเข้าเมืองหลวงเพื่อสอบเป็นขุนนาง” เสิ่นชิงหลีนึกถึงยามที่ซูจิ่งเอ่ยถึงน้องสาวของตน คิ้วของเขามักจะขยับอย่างมีชีวิตชีวา แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ
เมื่อซูหว่านได้ฟังดังนั้น ก็เกิดความคิดขึ้นมา นางอยากจะรู้ยิ่งนักว่าในสายตาของพี่ใหญ่ ตนเองเป็นคนเช่นไร


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...