เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 458

ยามบ่าย เสิ่นชิงหลีบรรเลงพิณผีผาให้ซูหว่านฟัง แล้วเอ่ยถามว่านางมีเครื่องดนตรีใดที่ถนัดหรือไม่

ซูหว่านเล่นพิณกู่เจิงได้เพียงเล็กน้อย ทั้งยังเป็นเจียงอวี้ที่สอนให้เพียงไม่กี่บทเพลงเท่านั้น แต่เพราะวัน ๆ นางมัวแต่ยุ่งอยู่กับการค้าขาย ครั้นเจียงอวี้ไปยังแนวหน้าแล้ว นางก็แทบไม่เคยได้แตะต้องอีกเลย ที่สำคัญคือไม่มีอาจารย์คอยชี้แนะ

กู่เจิงตัวนั้นนางพกติดตัวไปทุกหนทุกแห่ง แต่วันนี้ไม่ได้นำขึ้นเรือมาด้วย จึงไม่อาจแสดงฝีมือให้อับอายขายหน้าได้

เดิมทีเสิ่นชิงหลีคิดว่าหากเข้ากับซูหว่านไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังสามารถบรรเลงพิณผีผาเพื่อคลายความกระอักกระอ่วนได้ จึงได้นำพิณติดตัวมาด้วย

แต่บัดนี้ พิณผีผาไม่ได้มีไว้เพื่อคลายความกระอักกระอ่วนอีกต่อไป หากแต่มีไว้เพื่อสร้างความรื่นรมย์

“หวานหว่าน ข้าเองก็พอจะรู้เรื่องกู่เจิงอยู่บ้าง หากเจ้าไม่รังเกียจ คราวหน้าข้าสอนให้เจ้าได้”

สมแล้วที่เสิ่นชิงหลีเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่ผู้มีชื่อเสียง เชี่ยวชาญครบถ้วนทั้งดีดพิณ เดินหมาก เขียนอักษร วาดภาพ ตลอดจนบทกวีและเพลง

นางสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง โดยเฉพาะพิณผีผาที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ แม้กระทั่งกู่เจิงและขลุ่ยก็ยังเชี่ยวชาญ

เมื่อเสิ่นชิงหลีเอ่ยปากเช่นนี้ มีหรือที่ซูหว่านจะปฏิเสธ เป็นเรื่องที่นางปรารถนาอย่างยิ่งอยู่แล้ว

“เช่นนั้นต้องขอบคุณพี่หญิงเสิ่นล่วงหน้าแล้วเจ้าค่ะ แต่ว่าข้าหัวช้า ถึงตอนนั้นท่านพี่อย่าได้หัวเสียกับข้าแล้วกัน”

“ไม่หรอก ข้าจะสอนอย่างอ่อนโยน” เสิ่นชิงหลียกชายแขนเสื้อขึ้นปิดริมฝีปากพลางแย้มยิ้ม นัยน์ตาทอประกายงดงามเจิดจรัส

ทั้งสองคนเพลิดเพลินอยู่บนเรือตลอดทั้งวัน ก่อนจะเดินทางกลับเมื่อถึงเวลาอันควร

……

ยามเย็น เมื่อซูหว่านกลับมาถึง นางยังคงฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีพลางเดินไปหาซูอี้เพื่อรายงานความคืบหน้าของภารกิจ

“พี่ห้า วันนี้ข้าทำภารกิจที่พี่ใหญ่มอบหมายให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี ช่างน่าเฉลิมฉลองยิ่งนัก คืนนี้เรามาดื่มกันสักสองจอกดีหรือไม่เจ้าคะ?”

ซูหว่านขยิบตาให้ซูอี้อย่างมีเลศนัยแล้วยื่นฝ่ามือออกไป ซูอี้เข้าใจในทันทีจึงตบฝ่ามือประสานกับนาง

นี่เป็นดั่งรหัสลับและเรื่องส่วนตัวที่รู้กันเพียงสองคนพี่น้อง แม้แต่ซูอวิ๋นก็ยังไม่ล่วงรู้

“ได้ ตามใจเจ้า ดื่มกันสักเล็กน้อย!”

ครู่ต่อมา ห้องครัวก็นำอาหารที่ปรุงเสร็จแล้วมาให้ ลุงหยวนนำสุราดอกท้อล้ำค่าที่เจียงอวี้เก็บสะสมไว้ออกมาให้พวกนางดื่ม

ซูหว่านคออ่อน ดื่มไปเพียงไม่กี่จอกก็เริ่มเมามาย เมื่อเมาแล้ว สายตาก็ปรากฏภาพมายาขึ้น ภาพใบหน้าของเจียงอวี้วนเวียนอยู่ไม่จางหาย

เขากำลังแย้มยิ้มอยู่ตรงนั้น รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของซูหว่านเคลิบเคลิ้มตามไปด้วย

“แหะ ๆ...งามเหลือเกิน”

นางนั่งเท้าคางอยู่โดยมีซูอี้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อได้ยินประโยคนั้น ซูอี้ก็นึกว่านางกำลังชมตนเอง ทำให้เขาถึงกับหน้าแดงขึ้นมา

หลังจากดื่มต่อไปอีกหลายจอก ซูหว่านก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะในที่สุด

แม้แต่ซูเฉินยังรู้สึกหวาดหวั่น ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเจียงอวี้ต้องทนทุกข์กับบาดแผลมามากเพียงใด

ทว่าเจียงอวี้กลับไม่ใส่ใจ เขายังเอ่ยหยอกล้อว่า

“รอยแผลเป็นคือเหรียญตราของลูกผู้ชาย ทั้งหมดนี่คือเครื่องยืนยันว่าข้าดวงแข็งเพียงใด”

ก็นับว่าดวงแข็งจริง ๆ ทั่วทั้งร่างแทบไม่มีผิวหนังดี ๆ เหลืออยู่แล้ว ซูเฉินส่ายหน้าอย่างระอา

“ผู้บัญชาการเจียง ผู้บัญชาการซู พวกท่านอยู่ข้างในหรือไม่?”

ด้านนอกกระโจมมีเสียงบุรุษดังขึ้น ฟังดูก็รู้ว่าเป็นเจ้าเด็กมู่หรงไหวนั่นเอง

เจ้าเด็กคนนี้ช่างน่าประหลาดใจนัก ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นคุณชายเจ้าสำราญที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงอย่างในคำเล่าลือ กลับกัน เมื่อมาถึงสนามรบ แม้วรยุทธ์จะไม่เอาไหน แต่เขากลับเชี่ยวชาญตำราพิชัยสงคราม วางกลยุทธ์จัดทัพเป็นเลิศ ได้เสนอแผนการแก่แม่ทัพใหญ่หลายครั้ง ช่วยให้รบชนะอย่างงดงามมาหลายครา จนทำให้ผู้คนต้องมองเขาใหม่

ไม่รอให้คนทั้งสองเอ่ยปาก เขาก็เลิกม่านกระโจมเดินเข้ามา ในมือหอบหิ้วขวดยาน้อยใหญ่มามากมาย

“ได้ยินว่าพวกท่านบาดเจ็บ ข้ามีโอสถรักษาแผลชั้นดีอยู่ที่นี่ พวกท่านนำไปใช้ได้เลย มิต้องเกรงใจ ตอนข้ามา เสด็จแม่เตรียมไว้ให้ข้าตั้งมากมาย อย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้ใช้”

ความสามารถของมู่หรงไหวอยู่ที่การวางแผนการรบ ดังนั้นเขาจึงทำหน้าที่อยู่เบื้องหลัง ไม่จำเป็นต้องออกรบแนวหน้า

ผู้บัญชาการใหญ่ก็ไม่กล้าให้ชีวิตเขาต้องเสี่ยง เขาเป็นถึงองค์ชาย ทั้งเสด็จแม่ยังเป็นพระสนมองค์โปรด ตัวเขาก็ไม่เป็นวรยุทธ์ ส่งเขาไปก็เท่ากับส่งไปตายมิใช่หรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม