เมื่อซูหว่านได้ล่วงรู้ถึงความพยายามที่เสิ่นชิงหลีกระทำเพื่อพี่ใหญ่ นางก็แทบจะซาบซึ้งใจอย่างมาก
นางยอมทนทุกข์และเสียชื่อเสียง เพียงเพื่อรอคอยพี่ใหญ่ ความรักที่ต่างฝ่ายต่างมุ่งมั่นเช่นนี้ ช่างน่าอิจฉานัก
เดิมทีมหาบัณฑิตคิดว่านางคงไม่อาจเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านได้ทุกวันโดยไม่ไปไหนเลย แต่คาดไม่ถึงว่าบุตรสาวของเขาจะทำได้จริง ๆ นางเก็บตัวอยู่แต่ในบอกโดยไม่ออกไปที่ใดเลย
“พี่หญิงเสิ่น ท่านต้องลำบากแล้วจริง ๆ วางใจเถิดเจ้าค่ะ ด้านพี่ใหญ่อย่างมากก็อีกไม่เกินสองปี จะต้องได้กลับมาเมืองหลวงอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”
ซูหว่านเองก็รู้ดีว่า สองปีสำหรับเสิ่นชิงหลีนั้นทำให้นางต้องลำบากใจเกินไป แต่บางครั้งความรักก็เป็นเรื่องของความเห็นแก่ตัว นี่คงไม่นับว่าเป็นการให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ หรอกกระมัง?
ด้วยความสามารถของพี่ใหญ่แล้ว เขาจะต้องทำได้อย่างแน่นอน
“ตราบใดที่พี่ซูไม่ทอดทิ้งข้า ข้าก็จะไม่มีวันทอดทิ้งเขา ไม่ว่าจะนานเพียงใด ข้าก็จะรอ!” แววตาของเสิ่นชิงหลีแน่วแน่ยิ่งนัก
ในวันข้างหน้า จะต้องชดเชยให้พี่หญิงเสิ่นให้ดี
การมาเยือนของซูหว่านในครั้งนี้ ไม่ได้นำมาเพียงของแทนใจจากพี่ใหญ่เท่านั้น แต่นางเองก็ได้เตรียมของขวัญมาด้วย
นางนำขี้ผึ้งปิงจีมาสองขวด และสบู่นมแพะอีกสองกล่อง
“พี่หญิงเสิ่น ขี้ผึ้งปิงจีนี้เป็นของบำรุงผิวที่ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมที่สุดในเซียงโจวบ้านเกิดของข้า ว่ากันว่าใช้ดีเป็นพิเศษ สามารถทำให้ผิวขาวนวลเนียนละเอียดได้ยาวนาน ยามเข้าสู่ฤดูหนาวในเมืองหลวง อากาศทั้งเย็นทั้งแห้ง ท่านต้องได้ใช้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”
“ส่วนสบู่นมแพะเหล่านี้ ล้วนเป็นของที่บ้านข้าทำขึ้นเอง ข้าไม่ทราบว่าท่านชอบกลิ่นหอมแบบใด จึงหยิบมาให้ลองทุกกลิ่นเลยเจ้าค่ะ สบู่พวกนี้ใช้สำหรับอาบน้ำ ชำระล้างร่างกายเสร็จแล้วจะมีกลิ่นหอมกรุ่นติดกาย ส่วนก้อนนี้สามารถใช้สระผมได้ ดีกว่าจ้าวเจี่ยวและว่านหางจระเข้เป็นไหน ๆ เจ้าค่ะ”
เสิ่นชิงหลีเคยได้ยินซูจิ่งพูดว่าสบู่นมแพะที่น้องสาวของเขาทำนั้นใช้ดีมาก ในเมื่อซูหว่านมีน้ำใจมอบให้ นางย่อมต้องรับไว้อย่างยินดี
“ขอบใจน้องหวานหว่านมากที่นึกถึงข้าเสมอ ข้าเองก็เตรียมของขวัญมาให้เจ้าเช่นกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าจะชอบสิ่งใด ทั้งยังเตรียมการมาพบเจ้าอย่างรีบร้อน หวังว่าเจ้าจะไม่รังเกียจ”
เสิ่นชิงหลีเองก็มีเวลาเตรียมของขวัญไม่มากนัก ด้วยเพราะนางร้อนใจอยากรู้เหตุผลที่ซูหว่านมาหา จึงได้นัดหมายเวลาพบเจอกันอย่างเร่งด่วน
นางมอบกำไลหยกมันแพะเนื้อดีคู่หนึ่งให้แก่ซูหว่าน ซึ่งเป็นของขวัญที่ฮองเฮาได้ประทานให้แก่นางในพิธีปักปิ่น นับเป็นของที่มีค่าและเปี่ยมด้วยความจริงใจ แสดงให้เห็นว่านางให้ความสำคัญและยินดีที่ได้รู้จักซูหว่านเพียงใด
ของขวัญนั้นสำคัญที่ใจ นี่เป็นถึงของพระราชทานจากฮองเฮา ทั้งยังเป็นของขวัญในพิธีปักปิ่นซึ่งนับว่าล้ำค่าอย่างยิ่งสำหรับเสิ่นชิงหลี แต่นางกลับเต็มใจมอบให้ซูหว่าน ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่านางรักใคร่ในตัวซูจิ่งอย่างแท้จริง เมื่อรักบ้านก็ต้องรักอีกา จึงเผื่อแผ่ความรักมาถึงคนในครอบครัวของเขาด้วย
มีเพียงความสัมพันธ์เช่นนี้จึงจะยืนยาว ไปได้ไกล และโบยบินได้สูงขึ้น
หญิงสาวทั้งสองสนทนากันบนเรือสำราญ ซูหว่านเป็นคนเข้ากับผู้อื่นง่ายและสามารถสร้างบรรยากาศที่ดีได้ ส่วนเสิ่นชิงหลีที่แม้จะเป็นคนเปิดใจช้า ก็ยังถูกนางชักนำให้เข้ากับบรรยากาศได้เป็นอย่างดี
คนหนึ่งสดใสร่าเริง อีกคนสงบเสงี่ยมนุ่มนวล เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วช่างเข้ากันได้ดี เป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน
ยิ่งมองซูหว่านก็ยิ่งชื่นชอบว่าที่พี่สะใภ้คนนี้ และเสิ่นชิงหลีก็ยิ่งมองยิ่งถูกชะตากับว่าที่น้องสามีผู้นี้เช่นกัน
ช่วงกลางวัน บนเรือได้เตรียมสำรับอาหารไว้ ซูหว่านจึงเอ่ยชวนเสิ่นชิงหลีว่าคราวหน้าให้ไปเยือนที่เรือนน้อยฝูหรงของนาง นางจะลงมือทำอาหารรสเลิศให้ทาน และจะแนะนำเมนูเด็ดของพี่สี่ให้นางได้ลิ้มลอง
เพราะตอนที่ออกมาจากบ้าน นางกลัวว่าอาหารข้างนอกจะจืดชืดเกินไป อาจจะคิดถึงรสชาติอาหารที่บ้านขึ้นมา จึงได้พกผงพริกและซีอิ๊วมาด้วยมากมาย
เสิ่นชิงหลีรับปาก พอกลับไปแล้วนางจะบอกเรื่องที่นางและคุณชายซูได้มอบสัญญารักต่อกันให้ท่านพ่อท่านแม่ได้รับรู้ เมื่อถึงเวลานั้น นางก็จะสามารถไปมาหาสู่กับซูหว่านได้อย่างอิสระ
ซูหว่านเป็นสตรี การไปไหนมาไหนด้วยกันย่อมไม่มีผู้ใดนำไปนินทาได้ อีกทั้งการแจ้งให้บิดามารดาทราบก็เป็นเรื่องที่สมควรทำ เพื่อให้พวกท่านได้วางใจ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...