เสนาบดีกรมขุนนางอายุมากแล้ว อีกไม่กี่ปีก็จะเกษียณอายุกลับสู่ภูมิลำเนา ฮ่องเต้จะต้องหาผู้สืบทอดที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งนี้เป็นแน่
เสนาบดีเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นหนึ่งชั้นโท ส่วนขุนนางขั้นหนึ่งชั้นเอก ได้แก่ สมุหราชเลขาธิการ มหาบัณฑิตสำนักราชเลขา มหาราชครู และอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายและขวา ซึ่งสองตำแหน่งหลังไม่ได้สังกัดในสำนักราชเลขาโดยตรง
สมุหราชเลขาธิการก็คือเสนาบดีหกกรม ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดดูแลกรมทั้งหก
หลังจากที่ซูจิ่งได้รับตำแหน่งขุนนางชั้นสูง ก็ได้รับพระราชทานจวนขุนนางเป็นรางวัล เนื่องจากครอบครัวมีสมาชิกจำนวนมาก จวนที่ได้รับจึงต้องมีขนาดใหญ่พอสมควร ฮ่องเต้จึงได้พระราชทานจวนใหญ่เทียบเท่าจวนขุนนางขั้นหนึ่งชั้นเอกให้เป็นกรณีพิเศษ นั่นหมายความว่าเมื่อครอบครัวซูย้ายเข้ามายังเมืองหลวง ทุกคนจะมีเรือนส่วนตัวแยกกันไปคนละเรือน อีกทั้งยังจัดให้มีเรือนปีกตะวันออกและตะวันตกอีกด้วย
ส่วนซูหว่านได้มอบกิจการที่เมืองเซียงโจวให้แก่น้าชายดูแล จากนั้นจึงพาพ่อซูและแม่ซูรวมถึงคนในครอบครัวย้ายมายังเมืองหลวง
ด้านซูอวิ๋นได้มอบหมายให้ผู้อื่นช่วยดูแลเฉิงโหลวของเขา และวางแผนที่จะมาเปิดเฉิงโหลวอีกแห่งที่เมืองหลวงแห่งนี้
ส่วนซูอี้ก็เริ่มจะเป็นที่รู้จักในเจียงหนานเช่นกัน เนื่องจากเป็นดาวรุ่งในหมู่คนรุ่นใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากฉีอันจวีซื่อ
ไม่เพียงแต่ตระกูลซูเท่านั้นที่ย้ายมายังเมืองหลวง แต่ยังมีตระกูลกู้ด้วย พวกเขาเดินทางมาถึงได้หนึ่งปีแล้ว ปัจจุบันกิจการของพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก และขึ้นชื่อว่าเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใด
ช่วงสองปีที่ผ่านมา กู้เย่ว์ก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย นางได้สั่งสมเกียรติยศและชื่อเสียงอยู่ตลอดเวลา เริ่มจากการบริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ภายหลังที่เกิดโรคระบาดในแถบจงโจว นางก็ได้บริจาคยารักษาโรคและเสบียงจำนวนมากเพื่อช่วยแก้ไขสถานการณ์ด้วย
ในช่วงสงคราม กองทัพแนวหน้าขาดเสบียง ขณะที่ท้องพระคลังว่างเปล่า นางจึงต้องออกรวบรวมเสบียงจากทุกสารทิศเพื่อส่งไปยังแนวหน้า ช่วยให้กองทัพได้รับชัยชนะและให้การสนับสนุนด้านวัตถุดิบ
ชื่อเสียงของนางทราบไปถึงหูของฮ่องเต้ พระสนมซูเฟยได้ทูลเรื่องนี้ให้ฮ่องเต้ทรงทราบและยุยงเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้เมื่อปีที่แล้ว ฮ่องเต้จึงแต่งตั้งกู้เย่ว์เป็นหวยหมินเสี้ยนจู่ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หมายถึง นางเป็นผู้มีจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและห่วงใยราษฎร
บัดนี้ กู้เย่ว์เปรียบเสมือนพระโพธิสัตว์ที่มีชีวิตในสายตาของชาวบ้าน มีชื่อเสียงโด่งดังเลื่องลือ
อีกทั้งการที่นางได้รับตำแหน่งเสี้ยนจู่ ทำให้นางสามารถเข้าสู่แวดวงชนชั้นสูงในเมืองหลวงได้อย่างสง่าผ่าเผย ทุกวี่วันนางเข้าร่วมงานชุมนุมกวีและบุปผชาติในฐานะสตรีผู้เปี่ยมด้วยปัญญา
ทว่า ตอนนี้ผู้ที่โดดเด่นที่สุดในเมืองหลวงกลับเป็นซูจิ่งรองเจ้ากรมขุนนางคนใหม่ ผู้สอบจอหงวนได้อันดับหนึ่ง และผู้สร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำเซวียนเหอจนแล้วเสร็จ ทั้งยังเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ มีอายุเพียงยี่สิบสี่ปีแต่กลับได้เลื่อนตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นสองแล้ว ที่สำคัญยังเป็นชายโสดอีกด้วย
ชายหนุ่มจอหงวนผู้สง่างามประดุจแสงจันทราและผุดผ่องราวหยกบริสุทธิ์ นับเป็นที่หมายปองของหญิงงามนับไม่ถ้วน บัดนี้ตระกูลใดมีบุตรีที่ถึงวัยออกเรือน ต่างก็พยายามอย่างยิ่งที่จะผูกสัมพันธ์เกี่ยวดองกับเขา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...