เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 472

เมื่อซูมู่พูดเช่นนั้น แม่ซูก็ไม่ยอมทันที! ผู้หญิงวัยเดียวกับนางหลายคนมีหลานวิ่งเล่นไปมากันหลายคนแล้ว นางมีลูกชายตั้งห้าคนและทุกคนก็ล้วนมีอนาคตที่ดี แต่กลับยังไม่มีภรรยาเลยสักคน นางอยากจะอุ้มหลานเร็วๆ แล้วจะทำไม

มันผิดตรงไหน

ซูมู่ขัดใจนางไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะหมอเทวดาซุนกับคุณยายเย่ก็มองซูมู่เป็นเขยมานานแล้ว รอเพียงแค่ตระกูลซูมาสู่ขอเมื่อไหร่ พวกท่านก็พร้อมจะยกหลานสาวให้แต่งงานทันที

ทว่าท่านหมอเทวดาซุนได้เอ่ยคำไว้ก่อนหน้าแล้วว่า ภายภาคหน้าเมื่อทั้งสองได้ร่วมเรียงเคียงหมอนแล้ว หวังว่าพวกเขาสามารถย้ายไปอยู่ที่เมืองจงโจว เพื่อจะได้ดูแลปรนนิบัติเขาในยามแก่เฒ่าได้ ในช่วงสองสามปีแรกนี้สามารถพำนักอยู่ที่เมืองหลวงเป็นการชั่วคราวไปก่อน แต่ภายหน้าเมื่อเขาล้มหมอนนอนเสื่อ ก็หวังจะกลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายที่เมืองจงโจว ให้ซูมู่ดูแลพวกเขาไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

เรื่องเหล่านี้ไม่มีปัญหาเลย พ่อซูและแม่ซูต่างก็ตอบตกลงเต็มที่ ขอแค่ลูกทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและรักใคร่กันก็พอแล้ว

ทางด้านซุนหลิงเอ๋อร์เองก็ไม่มีญาติสนิทมิตรสหายที่นี่ งานแต่งงานของนางสามารถจัดให้ช้าหน่อยได้ และนางก็ไม่ต้องการให้มันเอิกเกริก ขอแค่จัดอย่างเรียบง่ายก็พอแล้ว

หนึ่งเดือนหลังจากที่ครอบครัวสกุลซูอาศัยอยู่ที่เมืองหลวง ในที่สุดกองทัพใหญ่ก็เดินทางมาถึง ฮ่องเต้เสด็จออกมาต้อนรับพวกเขาที่ประตูเมืองด้วยตัวเอง คนในสกุลซูก็เข้ามาปะปนอยู่ในกลุ่มคนด้วยเช่นกัน พวกเขาพยายามมองหาซูเฉิน พร้อมทั้งมองหาเจียงอวี้ด้วย

ทั้งสองอยู่ข้างกายเจียงกั๋วกง สวมเกราะสีเงินและขี่ม้าเข้ามา แม้จะมองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจนนัก แต่ก็สามารถจดจำได้ทันที อีกทั้งเจียงอวี้ยังสวมหน้ากาก จึงทำให้จดจำได้ไม่ยาก

คนสกุลซูไม่รู้เลยว่าซูเฉินต้องเผชิญกับอะไรมาบ้างที่ชายแดน พวกเขารู้เพียงแต่เขากลับมาพร้อมกับเกียรติยศอันยิ่งใหญ่

พวกเขาตามเจียงกั๋วกงเข้าสู่พระที่นั่งไท่เหอเพื่อหารือเรื่องการปูนบำเหน็จความชอบ ซูเฉินได้รับความดีความชอบสูงสุด ท่านแม่ทัพเจียงนั้นเป็นถึงโหวเจวี๋ยชั้นหนึ่งและเป็นแม่ทัพใหญ่จึงไม่มีอะไรจะสามารถมอบให้ได้อีก นอกจากมอบป้ายอาญาสิทธิ์ยกเว้นโทษประหารหนึ่งชิ้นให้แก่ตระกูลเจียง พร้อมทั้งพระราชทานเครื่องประดับและเงินทองจำนวนมาก

ทว่าเวลานี้ท้องพระคลังหลวงนั้นว่างเปล่าจริงๆ บรรดาพระสนมในวังหลังต่างแต่งกายเรียบง่ายกว่าที่เคยเป็นมา ฮ่องเต้เองก็ต้องกัดฟันอดทน แต่สิ่งที่ควรจะให้ก็ยังคงต้องให้

ฝ่ายที่พ่ายแพ้ในสงครามได้นำสมบัติล้ำค่าแปลกตามากมายมาถวาย ซึ่งตอนนี้ฮ่องเต้ก็ได้ใช้ทั้งหมดเพื่อเป็นรางวัลและมอบให้แก่ขุนนางแล้ว

วีรกรรมอันเกรียงไกรของซูเฉินโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งจนไม่อาจมองข้ามได้เลย เมื่อฮ่องเต้ทรงทราบว่าเขาเป็นน้องชายแท้ๆ ของรองเจ้ากรม ก็รู้สึกทึ่งเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดเลยว่าพี่น้องสองคนในตระกูลนี้จะอุทิศตนเพื่อแผ่นดินถึงเพียงนี้ คนหนึ่งบุ๋นอีกคนหนึ่งบู๊ ทั้งคู่ล้วนเป็นผู้มีความสามารถระดับเสาหลักแห่งแผ่นดินและสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ไว้ชั่วลูกชั่วหลาน

ฮ่องเต้ทรงปรีดาเป็นอย่างยิ่ง เขาหัวเราะร่าและกล่าวสรรเสริญพี่น้องทั้งสองไม่หยุดปาก ทรงแต่งตั้งให้ซูเฉินเป็นแม่ทัพทหารม้าขุนนางขั้นสี่ชั้นเอก พระราชทานจวนขุนนางหนึ่งหลัง และแต่งตั้งให้เขาเป็นรองผู้บัญชาการประจำกองรักษาการณ์เมือง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจจริงในการควบคุมดูแลความมั่นคงของเมืองหลวง และมีทหารใต้บังคับบัญชาหลายพันนาย

ตั้งแต่บัดนั้น ทิศทางของเมืองหลวงก็เปลี่ยนไป หากจะถามว่าตอนนี้ตระกูลใดที่โดดเด่นที่สุด

นั่นย่อมเป็นตระกูลซูอย่างแน่นอน หนึ่งตระกูลมีขุนนางใหญ่สองคน หนึ่งฝ่ายบุ๋นและหนึ่งฝ่ายบู๊ ต่างก็มีคุณงามความดีที่สืบทอดไปนับพันๆ ปี

หลังจากได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ฮ่องเต้ก็จัดงานเลี้ยงฉลองในวังหลวง โดยมีขุนนางและสมาชิกในครอบครัวสามารถเข้าร่วม เหล่าบุรุษจะจัดเลี้ยงอยู่ส่วนหน้า ส่วนเหล่าสตรีจะอยู่วังหลังโดยอยู่ภายใต้การดูแลของฮองเฮา

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม