การแต่งตั้งจวิ้นจู่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้
ยิ่งไปกว่านั้นเงินหนึ่งแสนสองหมื่นตำลึงนี้ก็เป็นเงินปลอบขวัญ ถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง
ตระกูลซูนั้นไม่ธรรมดา ลูกชายสองคนได้เป็นขุนนาง ซ้ำยังมีจวิ้นจู่อีกหนึ่งคน
ฐานะจวิ้นจู่ของซูหว่านนั้นมีเพียงหนึ่งเดียวในเมืองหลวง โดยปกติแล้วจะมีเพียงบุตรสาวของชินอ๋องเท่านั้น ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจวิ้นจู่ ซึ่งมีเกียรติรองจากองค์หญิง
ซูหว่านไม่ได้มีสายเลือดเชื้อพระวงศ์ แต่ได้ตำแหน่งมาจากผลงานความดีความชอบ ทำให้ฐานะและเกียรติของนางสูงขึ้นอย่างมาก
มีทั้งบรรดาศักดิ์ มีทั้งตระกูลสนับสนุน ชาติกำเนิดเช่นนี้ถือว่าไร้เทียมทานเลยทีเดียว
ซูหว่านขึ้นชื่อว่าเป็นคนเงียบๆ แต่ทำเรื่องใหญ่เสมอ พิธีแต่งตั้งของนางจะต้องเข้าไปในวัง และฮองเฮาจะเป็นคนสวมมงกุฎด้วยพระองค์เอง
จวิ้นจู่จะมีเครื่องราชสำนักและมงกุฎที่สั่งทำพิเศษ ซึ่งล้วนเป็นสัญลักษณ์แห่งฐานะและเกียรติยศ
ส่วนมารดาของซูหว่าน ได้รับพระราชทานตำแหน่งเป็นฮูหยินตราตั้งขั้นที่สาม โดยไม่ต้องมีพิธีการใดๆ เพียงแค่มีขันทีจากวังนำราชโองการพร้อมเครื่องราชสำนักประจำตำแหน่งมามอบให้เท่านั้น
ขันทีผู้นั้นถือราชโองการสองฉบับ เดินทางมาที่ตระกูลซูพร้อมกับซูจิ่ง แล้วอ่านราชโองการต่อหน้าทุกคน
คนทั้งตระกูลซูคุกเข่ารับพระราชโองการ เมื่อแม่ซูได้รับราชโองการและเครื่องแต่งกายก็ถึงกับตะลึงงันไปชั่วขณะ
หลังจากนั้น ซูจิ่งก็มอบถุงเงินให้ขันทีที่มาอ่านราชโองการ แล้วจึงไปไปส่งด้วยตนเอง
แม่ซูอุ้มพระราชโองการไว้ในมือ แล้วอุทานออกมา
“ข้าเองก็ได้รับพระราชทานด้วยหรือ? ข้าได้แต่งตั้งเป็นฮูหยินตราตั้งหรือ?”
ความจริงแล้ว ตำแหน่งฮูหยินตราตั้งนั้นถือว่าต้องมีอยู่แล้ว เพียงแต่ปกติซูจิ่งต้องเป็นผู้ยื่นเรื่องขอให้ แต่ว่าตอนนี้เขาเป็นขุนนางขั้นสอง ซ้ำยังมีความดีความชอบ ภรรยาเอกและมารดาย่อมสามารถขอรับตำแหน่งนี้ได้อยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้ ฝ่าบาททรงมีพระเมตตา ประทานให้พร้อมกันเสียเลย ซูจิ่งก็ไม่ต้องลำบากไปขอ เป็นการทำให้เรื่องง่ายขึ้น
“ใช่แล้ว เจ้าตอนนี้คือฮูหยินตราตั้ง ส่วนลูกสาวเจ้าก็กลายเป็นจวิ้นจู่แล้ว” พ่อซูเอ่ยด้วยความดีใจ
ตระกูลซูของพวกเขาราวกับได้รับพร มีทั้งขุนนางฝ่ายบุ๋น ขุนนางฝ่ายบู๊ และล้วนเป็นขุนนางใหญ่ ซ้ำตอนนี้ยังมีจวิ้นจู่อีกด้วย
สำหรับคนเป็นพ่อแม่แล้ว เมื่อลูกๆ ประสบความสำเร็จ จะบอกว่าไม่ภาคภูมิก็คงเป็นไปไม่ได้
ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าทั้งตัวเปล่งประกายดั่งทองคำ
ตำแหน่งจวิ้นจู่มีเกียรติรองจากองค์หญิง อยู่ในขั้นที่สอง เครื่องราชสำนักปักลวดลายเหยี่ยว
ก่อนหน้านี้ซูหว่านก็ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพวกหมังจ้งเรื่องสัญญาเลิกทาส
พวกนางคือกลุ่มคนกลุ่มแรกที่ซูหว่านซื้อตัวกลับมา และอยู่กับนางมานานที่สุด ทั้งหกคนได้รับหนังสือสัญญาเลิกทาสแล้วตั้งแต่ที่เข้ามาในเมือง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาต่างก็ได้ตั้งครอบครัวกันไปแล้ว หลังจากออกจากอวี้เหยียนถังงก็ได้กลายเป็นสามัญชน และใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ทางฝั่งของท่านลุงก็ยังคงเป็นผู้ดูแลสาขาในเมืองเซียงโจวเช่นเดิม เพียงแต่เจ้าของกิจการเปลี่ยนไปเป็นราชสำนักเท่านั้นเอง
วันถัดมาราชสำนักก็ส่งพ่อค้าหลวงมา ซูหว่านมอบเอกสารกองใหญ่ให้เขาตรวจสอบได้ตามสะดวก แล้วก็ให้คนของเขาไปทำการส่งมอบกิจการในแต่ละพื้นที่
นางไม่ต้องทำอะไรแล้ว
แม้จะอยู่เงียบๆ แต่นางกลับทำเรื่องใหญ่สำเร็จหนึ่งเรื่อง ข่าวนี้แพร่ไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจวนเจียงกั๋วกง
เมื่อเจียงอวี้ได้ยินข่าว เขาก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
สตรีของเขาช่างเก่งกาจ อาศัยเพียงความสามารถของตนเอง ก็คว้าสิ่งที่อยากได้มาได้ทั้งหมด
เขาได้เข้าใจแล้วว่า เหตุใดในตอนนั้นนางถึงยืนกรานจะสร้างกิจการขึ้นมาเอง แท้จริงแล้วก็เพื่อรอวันนี้นี่เอง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...