หลังจากแยกกันที่ป่าเหมยก็ผ่านมาแล้วสามวัน เจียงอวี้คิดถึงนางมาก จึงส่งบัตรเชิญไปยังจวนตระกูลซู แต่กลับไม่ได้รับการตอบกลับ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด
อีกไม่นานเขาจะต้องเดินทางไปจงโจว ก่อนหน้านั้นเขาอยากพบหน้าซูหว่านสักครั้ง
เมื่อไม่มีการตอบกลับ เขาก็จำต้องใช้วิธีอื่นแทน
ค่ำคืนนั้นซูหว่านกำลังนั่งเหม่ออยู่ในเรือนของตน หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จไม่นาน ซุนหลิงเอ๋อร์ก็มานั่งเล่นคุยเป็นเพื่อนอยู่สักพัก แล้วจึงกลับไป
รอให้พิธีแต่งตั้งของซูหว่านเสร็จสิ้นแล้ว ทางซูจิ่งก็จะไปยังจวนมหาบัณฑิตเพื่อทำการสู่ขอ โดยได้หาแม่สื่อไว้เรียบร้อยแล้ว จะต้องผ่านพิธีสามหนังสือหกพิธี จากนั้นร่างหนังสือหมั้น ยื่นขึ้นทะเบียนต่อทางการ แล้วจึงสามารถเลือกฤกษ์แต่งงานได้
เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นหน้าที่ที่พี่ชายและท่านพ่อท่านแม่ต้องจัดการ ซูหว่านไม่ต้องกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
“หลิวอิ๋ง เอากู่เจิ้งของข้ามา ข้าอยากจะบรรเลงสักสองเพลง!” วันนี้ซูหว่านอารมณ์ดี เลยอยากสร้างบรรยากาศให้มีเสียงดนตรีขึ้นมาบ้าง
หลิวอิ๋งรีบไปยกหรูกู้มาทันที
สองปีมานี้ซูหว่านไม่ได้ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า นางไปหาปรมาจารย์มาสอนตนเอง ทุกวันนี้ฝีมือการดีดกู่เจิ้งก็เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ยังถือว่าอยู่ในระดับสมัครเล่น ไม่ถึงขั้นมืออาชีพ
ทางด้านเจียงอวี้ เขาค่อยๆ คิดทบทวนเหตุผล ในที่สุดก็พบว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล ซูเฉินกับซูจิ่งตั้งใจทำแบบนั้น เหตุผลไม่ใช่อื่นใด เพราะเขาดันไปชอบน้องสาวของพวกเขา เลยถูกท้าทายให้มาแข่งขัน
ส่งเทียบเชิญไปหลายครั้ง ก็ทำเหมือนมองไม่เห็นเสียอย่างนั้น
ช่างเถอะ อย่างไรก็เป็นพี่เขย อีกหน่อยก็ต้องกลายเป็นคนในครอบครัวเดียวกันอยู่ดี หากเขาอยากแต่งงานกับหวานหว่าน ก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากพี่ชายทั้งหลายก่อน
ในเมื่อหนทางตรงไปไม่ได้ เขาก็จำต้องเลือกทางเสี่ยง เพื่อที่จะได้พบหวานหว่าน ถึงจะต้องเสี่ยงก็ยอม
คืนนั้นเจียงอวี้แอบลอบเข้าไปในจวนสกุลซู ทุกวันนี้จวนสกุลซูมีเหล่ายามเฝ้าอยู่ไม่น้อย แต่ก็ขวางเจียงอวี้ไม่ได้ ชายผู้นี้เชี่ยวชาญการเหาะเหินเดินอากาศ ฝีเท้าของเขาเบามาก เพียงไม่กี่อึดใจก็เข้าไปถึงด้านในจวน
เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าเรือนของซูหว่านอยู่ตรงไหน จวนสกุลซูก็ไม่ใช่เล็กๆ ต้องค่อยๆ หา
แต่ไม่นานเขาก็เจอ เพราะในเรือนของซูหว่านมีเสียงกู่เจิ้งดังแว่วออกมา เขาฟังเพียงครู่เดียวก็จำได้ทันทีว่าเป็นเสียงของหรูกู้ที่เขาเป็นคนปรับแต่งสายให้กับนางด้วยตัวเอง
ซูหว่านกำลังดีดเพลงหงส์ตามคู่ที่เขาเคยสอนนางด้วยตัวเอง ทุกวันนี้ซูหว่านสามารถบรรเลงเพลงนี้ได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว เสียงดนตรีไพเราะกังวาน นิ้วมือมั่นคง เป็นที่ประจักษ์ว่าตลอดหลายปีที่เขาไม่อยู่ นางทุ่มเทฝึกฝนไม่น้อย
เขาเดินตามเสียงดนตรีมาถึงหอฝูหรง ยืนอยู่บนกำแพง ก่อนจะกระโดดลงมาอย่างแผ่วเบา
ซูหว่านนั่งอยู่ริมหน้าต่าง กำลังบรรเลงด้วยความตั้งใจ ข้างๆ มีหลิวอิ๋งยืนอยู่ทางขวา ส่วนหลิวอวิ๋นเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเจียงอวี้แตะถึงพื้น ทั้งสองก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติและระมัดระวังตัวขึ้นมาทันใด

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...