เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 496

ไม่นานนักองค์รัชทายาทก็เสด็จมาถึง เช่นเดียวกับมู่หรงเซิงและบรรดาองค์ชายคนอื่นๆ ก็ทยอยตามมา

ข้อมูลตัวละครมีดังนี้

มู่หรงหมิน องค์ชายใหญ่ โอรสองค์โตของฮองเฮา แต่เนื่องจากองค์รัชทายาทร่างกายไม่แข็งแรง จึงทำให้เหล่าองค์ชายคนอื่นๆ ต่างหมายตาในตำแหน่งนี้

มู่หรงฟู่ องค์ชายรอง โอรสของเต๋อเฟย

มู่หรงรุ่ย องค์ชายสาม โอรสองค์รองของฮองเฮา

มู่หรงถิง องค์ชายสี่ โอรสของเสียนเฟย

มู่หรงเซิง องค์ชายห้า โอรสของซูเฟย

มู่หรงฉี่ องค์ชายหก โอรสของสวีเจาอี๋

มู่หรงไหว องค์ชายเจ็ด โอรสของเฉินกุ้ยเฟย

และยังมีองค์หญิงใหญ่ มู่หรงหย่า ธิดาของฮองเฮา และอภิเษกสมรสแล้ว

องค์หญิงรอง มู่หรงเสวี่ย ธิดาของเต๋อเฟย เมื่อสองปีก่อนนางได้อภิเษกสมรสกับทั่นฮวาบัณฑิตอันดับสามที่เข้าสอบพร้อมกับซูจิ่ง

องค์หญิงสาม มู่หรงหลิน ธิดาของเฉินกุ้ยเฟยและเป็นน้องสาวของมู่หรงไหว นางเพิ่งมีอายุเพียงสิบสองปีเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีเหล่าจวิ้นจู่และซื่อจื่อของตระกูลอ๋องอีกหลายคน จะไม่ขอเจาะลึกในรายละเอียด

ในวันนี้องค์รัชทายาทก็เสด็จมาด้วยซึ่งนับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยพบเห็นนัก เมื่อพวกเขาปรากฏตัว จุดสนใจก็มารวมอยู่ที่บรรดาองค์ชายเหล่านี้ องค์ชายสี่ องค์ชายห้า องค์ชายหก และองค์ชายเจ็ดยังไม่มีพระชายาเอก องค์ชายสี่และองค์ชายหกมีพระชายารองสองคน ส่วนอีกสองพระองค์ยังไม่มีพระชายา

ดังนั้น บรรดาคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์ต่างก็หมายปองและต้องการใกล้ชิดกับสององค์ชายนี้ โดยเฉพาะองค์ชายเจ็ด ผู้เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ที่สุดในเวลานี้

ซูหว่านไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะนางไม่ได้สนใจองค์ชายเหล่านั้นเลย

ซูจิ่งและซูเฉินถูกพาไปที่ศาลากลางทะเลสาบ เวลานั้นจึงเหลือเพียงซูหว่านกับเจียเฉิงเท่านั้น

เจียเฉิงยังต้องไปทักทายองค์ชายและองค์หญิง ไม่สามารถปลีกตัวมาอยู่เป็นเพื่อนกับนางได้ จึงปล่อยให้นางให้อาหารปลาที่ระเบียงตามลำพัง

เวลาผ่านไปครู่หนึ่งเจียเฉิงก็กลับมา นางพาซูหว่านไปยังศาลาที่อยู่กลางทะเลสาบ ที่นั่นมีทั้งองค์ชายและจวิ้นจู่ รวมถึงเหล่าบัณฑิตและหญิงงามจากเมืองหลวงอยู่ด้วย

พวกเขากำลังจัดงานชุมนุมบทกวี และจะแข่งขันประชันกลอนกัน

“ประชันบทกวีหรือ ข้าไม่เอาด้วยหรอก" ซูหว่านยังไม่ทันไปก็ขวัญเสียแล้ว

นางทำได้แค่ท่องจำ แต่ก็เอามาอวดอ้างเป็นของตนไม่ได้หรอก

"ไม่เป็นไรหรอก ข้าก็ไม่เป็นเหมือนกัน แค่ไปร่วมสนุกเท่านั้นเอง ใครกำหนดว่าคนอย่างพวกเราจำเป็นต้องแต่งกลอนเป็นด้วยเล่า เดี๋ยวพวกเราไปหลบอยู่ข้างหลังหน่อย ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเราแล้ว"

เจียเฉิงเป็นคนที่คิดอะไรก็เอ่ยออกมาตรงๆ และซูหว่านก็ชอบที่นางเป็นคนเช่นนั้น

ก็จริงของนางนะ

ดังนั้น ทั้งสองจึงพากันไปยืนอยู่ที่มุมมุมหนึ่ง ซูจิ่งผู้เป็นจอหงวนและบัดนี้ยังเป็นรองเจ้ากรมที่อายุน้อยที่สุด จึงนับเป็นตัวหลักของฝ่ายชาย

แต่เขายังคงสังเกตเห็นจวิ้นจู่ทั้งสองที่แอบมาดูอย่างลับๆ ได้อย่างรวดเร็ว

เหตุใดน้องหญิงทำสิ่งใดก็ดูน่ารักไปเสียหมด

“บทกวีนี้มีชื่อว่าเจียงจิ้นจิ่วข้าจะร่ายให้พวกเจ้าฟัง

หวงเหอไหลมาจากสรวงสวรรค์

สู่สมุทรไม่หวนกลับไม่คืนผัน

ดั่งกระจกสะท้อนเส้นผมที่เคยดำพลัน

กลับขาวนวลชวนให้เศร้าเกินย้อนวัน

ชีวิตนี้สมหวังพึงสำราญ

อย่าปล่อยให้จอกว่างยามต้องแสงจันทร์

ตัวข้ามีพรสวรรค์ฟ้าบันดาล

แม้นเงินหมดก็หาใหม่ได้อีกครา”

เมื่อชื่อของบทกวีนี้ถูกเอ่ยขึ้นมา ซูหว่านก็ชะงักงันในทันใด นางจ้องเขม็งไปที่มู่หรงไหวชายหนุ่มผู้ถือพัดและท่องบทกวีอยู่กลางกลุ่มคน

ในตอนแรกนางคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ จนกระทั่งเขาท่องเนื้อหาบทกวีออกมา ซูหว่านก็พลันรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าในชั่วพริบตา

นี่...นี่คือบทกวีเจียงจิ้นจิ่วของหลี่ไป๋จริงๆ แคว้นจิ้นเป็นราชวงศ์ที่สมมติขึ้นมา เหตุไฉนจึงมีบทกวีนี้ได้

นอกจากนี้ มู่หรงไหวยังบอกอีกว่าเป็นบทกวีที่สหายของเขาเขียนขึ้น ช่างเป็นการอุปโลกน์สหายขึ้นมาอย่างยอดเยี่ยมนัก

อย่างไรก็ตาม หลังจากซูหว่านตั้งสติได้ นางก็ถูกครอบงำด้วยความรู้สึกปลื้มปิติและตื่นเต้นอยู่เต็มอกจนแทบอยากจะรีบวิ่งเข้าไปเพื่อไขข้อสงสัยให้กระจ่างเสียเดี๋ยวนั้นเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม