ซูหว่านคลี่ยิ้มอย่างสง่าผ่าเผย ในเมื่อทุกคนปรารถนาจะฟังนางก็จะร่ายให้ฟัง อย่างไรเสียนางก็เอ่ยไปแล้วว่าเป็นบทกวีของสหาย หาได้เกี่ยวอะไรกับตัวนางไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือก็เพื่อเปิดเผยตัวตนคนบ้านเดียวกัน
"บทกวีที่สหายของข้าแต่งไว้เป็นเช่นนี้ ขอพวกท่านตั้งใจฟังให้ดี!"
ซูหว่านเปิดเผยปริศนาที่ปกปิดไว้ นางกระแอมไอกระแอมอีกครั้ง ทุกคนต่างเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
“ลมแรงฟ้าสูงเสียงลิงโศก
ปักษาโบกกลับรังพลันเหว่ว้า
ใบไม้ร่วงโรยไม่สิ้นทิวา
แม่น้ำเชี่ยวไหลบ่าหลั่งริน
หมื่นลี้พลัดถิ่นในยามเศร้า
ร้อยปีป่วยเหงาสู่หอคอยเดียวดายยิ่ง
ความยากลำบากจนผมขาวพรั่งพริ้ง
ต้องหยุดดื่มทุกสิ่งจิตระทม!”
สำหรับบทกวีชื่อ ‘เติงเกา’ นี้ ซูหว่านรู้สึกว่าเทียบเคียงกับเจียงจิ้นจิ่วได้ เมื่อนำบทกวีทั้งสองมาเทียบกันแล้วก็ถือว่าไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
หากมู่หรงไหวสามารถอุปโลกน์สหายขึ้นมาได้ นางก็สามารถทำได้เช่นกัน
ตอนที่นางกำลังร่ายกวีนั้น ก็มีผู้คนนำกระดาษและปากกาออกมาจดบันทึกเอาไว้
เมื่อทุกคนได้ฟังจบก็เผยสีหน้าตกตะลึง เพราะกวีบทนี้มีความหมายลึกซึ้งและชวนให้ตีความ
โดยเฉพาะมู่หรงไหว ในตอนแรกสีหน้ายังคงเป็นปกติ แต่เมื่อได้ฟังบทกวีจบ สีหน้าของเขาก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงมาเลยทีเดียว
จากสีหน้าปกติ ก็กลายเป็นตกใจ ตามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ สุดท้ายก็ลุกขึ้นยืนอย่างทำอะไรไม่ถูกแล้วก็นั่งลงอีกครั้ง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หากไม่ใช่เพราะมีคนมากมายอยู่ที่นี้จะเป็นการไม่เหมาะสม มู่หรงไหวคงจะเดินเข้าไปหาซูหว่านเพื่อขอความกระจ่างแล้ว
โอ้พระเจ้า! อยู่ในยุคนี้มาหลายปี ในที่สุดก็เจอพวกเดียวกันแล้ว
เดิมทีเคยคิดว่ามีแค่ตัวเขาเท่านั้นที่เดินทางทะลุมิติมา ไม่นึกเลยว่าจะมีคนอื่นด้วย
ความจริงแล้วในวันนี้ที่เขาเผยแพร่บทกวีนี้ออกมา ก็แค่ต้องการตามหาพวก และอยากรู้ว่ายังมีคนเดินทางข้ามมิติเช่นเขาอยู่อีกไหม ขอเพียงเป็นคนที่เคยร่ำเรียนมาบ้างย่อมต้องคุ้นเคยกับบทกวี ‘เจียงจิ้นจิ่ว’ เป็นอย่างดีแน่นอน
ต่อให้เป็นคนที่ไม่ได้ร่ำเรียนมามากนัก อย่างไรก็คงต้องเคยได้ยินบทกลอนอมตะที่เขาว่ากันมาบ้างไม่มากก็น้อย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...