“ท่านหมายถึงเจียงอวี้กับซูเฉินใช่ไหม? ข้าขอเตือนท่าน ถึงแม้ว่าพวกเราสองคนจะมาจากสถานที่เดียวกัน แต่อยู่ในโลกใบนี้ พวกเขาทั้งสองคนเป็นคนสำคัญที่สุดของข้า ท่านห้ามใช้ประโยชน์และทำร้ายพวกเขา”
ซูหว่านจะไม่ตื่นเต้นจนขาดสติ ไม่สนใจแม้แต่พี่ชายแท้ ๆ กับคนที่ตัวเองชอบ
มู่หรงไหวฟังจบก็ยักไหล่
“เหอะ ในสายตาเจ้าพลเมืองที่ดีทั้งสามด้าน ผู้มีการศึกษาครบสิบสองปีตามหลักสูตรบังคับ บวกกับสี่ปีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างเราต่ำช้าขนาดนั้นเลยหรือ?”
เห็นท่าทางกล่าวโทษนี้ของเขา ซูหว่านก็หลุดขำออกมา
นางเข้าใจความหมายของมู่หรงไหวเช่นกัน การตัดสินใจในตอนนั้นของเขา แค่อยากแย่งชิง วางแผนให้ตัวเองเท่านั้น อย่างไรก็ตามในฐานะผู้ชายจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดที่ทะลุมิติมากลายเป็นองค์ชายคนหนึ่ง ไม่มีความทะเยอทะยานและการแสวงหาจะได้อย่างไร?
นอกจากนี้ มู่หรงไหวเป็นคนยุคปัจจุบันคนหนึ่ง ความรู้และกลยุทธ์ของเขาจะเหนือกว่าคนยุคโบราณเป็นธรรมดา
“เปล่า ๆ ข้าเข้าใจความหมายของท่าน แต่ตอนนี้ท่านถือว่าอยู่ขั้วตรงข้ามกับมู่หรงเซิง ท่านต้องระวังหน่อย ตอนนี้ท่านเป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ของเขา ประเภทสร้างภัยคุกคามได้ ไม่แน่ว่าเมื่อไหร่เขาจะเล่นงานท่าน” เขาอยากจะชิงราชบัลลังก์ ซูหว่านจะหยุดได้หรือ?
สถานะของเขาในตอนนี้ พูดได้ว่ามีเหตุผลชอบธรรม ถูกต้องตามกฎหมาย!
สำหรับซูหว่าน ขอแค่ไม่ส่งผลกระทบถึงชีวิตของนาง ก็ไม่เป็นไร
มู่หรงไหวอยากจะช่วงชิงก็ทำไป ถึงอย่างไรนางก็ไม่หวังให้มู่หรงเซิงเป็นฮ่องเต้ หากว่ากู้เย่ว์ได้เป็นฮองเฮา นางคงไม่มีชีวิตที่สงบสุข เช่นนั้นมีแค่วิธีการเดียวก็คือให้มู่หรงไหวเป็นฮ่องเต้
มู่หรงไหวเป็นคนของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ความคิดล้ำสมัย ความเชื่อพื้นฐานก็ล้ำหน้าเช่นกัน ไม่แน่ว่าเมื่อเขาเป็นฮ่องเต้ อาจนำราชวงศ์หนึ่งมุ่งหน้าสู่เส้นทางที่รุ่งโรจน์กว่าได้จริง ๆ
อย่างไรเขาก็เป็นคนยุคปัจจุบัน ความคิดยืดหยุ่นจะไม่ยึดติดกับกฎเก่าเหมือนคนยุคโบราณ
แต่ว่าเขาเหมาะสมจะเป็นฮ่องเต้หรือไม่กันแน่ ยังต้องเฝ้าสังเกตกันต่อไป ถึงแม้ว่าเขาในตอนนี้จะทะลุมิติมาจากในโลกอนาคตเหมือนกับซูหว่าน ซูหว่านก็จะไม่เชื่อเขาร้อยละร้อย
พูดได้เพียงแค่ว่า เห็นอกเห็นใจกัน เมื่อนึกถึงโลกใบนี้ไม่ใช่ตัวเองเป็นคนจากโลกอื่นเพียงคนเดียว ในใจก็รู้สึกสบายใจขึ้น ตอนนี้มู่หรงไหวนับได้ว่าเป็นเพื่อนพิเศษของนาง
“เจ้าวางใจเถอะ หลังจากพบกันวันนี้ พวกเราสองคนก็นับเป็นคนใกล้ชิดกันแล้ว อยู่ต่างโลกแห่งนี้ ช่วยเหลือกันและกันเถอะ มา หลังจากดื่มชาถ้วยนี้ พวกเราก็เป็นเพื่อนที่ดีกันแล้ว เจ้ามีเรื่องก็บอก ฐานะองค์ชายของข้านี้ ยังทำเรื่องได้มากมาย
มู่หรงไหวก็เห็นซูหว่านเป็นเพื่อนเช่นกัน บอกความทะเยอทะยานของตัวเองว่าเขาอยากเป็นฮ่องเต้กับนางโดยตรง
พูดตรงไปตรงมาไม่ปิดบัง ไม่อ้อมค้อม และซูหว่านยังพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ท่านพูดเรื่องขัดต่อกฎเกณฑ์เช่นนี้กับข้า ไม่กลัวข้าทรยศหักหลังท่านหรือ? ฮ่องเต้คนปัจจุบันยังแข็งแรงอยู่ ท่านก็อยากเป็นฮ่องเต้แล้ว”
ซูหว่านกดเสียงต่ำ แขวะออกมาเสียงเบา
มู่หรงไหวยักคิ้ว พูดอย่างไม่เห็นด้วย
“ยังคงเป็นประโยคนั้น ข้าเป็นปลาเค็มที่แสวงหาตัวหนึ่ง เจ้าวางใจ อย่างไรข้าก็แข็งแกร่งกว่ามู่หรงเซิงก็พอแล้ว
และข้าเชื่อว่า พวกเราทั้งสองคนเป็นคนศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดได้รับการศึกษาระดับอุดมศึกษา ถูกกำหนดตำแหน่งเอาไว้แล้ว เป้าหมายของเราแตกต่างกัน ข้าอยากขึ้นที่สูง เจ้าต้องการความสงบสุข วันหน้าหากข้าสำเร็จแล้ว ความฝันเหล่านี้ของเจ้า ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร หลังจากนี้หากข้าตายไปคงไม่เกี่ยว แต่หากข้ายังมีชีวิตอยู่ ตระกูลซูของพวกเจ้าก็จะสามารถสงบสุขต่อไปได้ ข้ารับประกันได้สหาย เจ้าจะมีชีวิตอย่างสบายในต่างโลกแห่งนี้”
เขาใจกว้างจริง ๆ เปิดเผยทุกอย่างกับนางในทันที พูดตรงไปตรงมา ไม่ปิดบัง ไม่อ้อมค้อมดูท่าคงจะไว้ใจนางจริง ๆ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...