ในระหว่างที่ซูหว่านพูด น้ำเสียงของนางร่าเริงอย่างบอกไม่ถูก แถมยังแฝงด้วยความภูมิใจเล็กน้อยอีกด้วย
“ได้เลย เจ้าสิ่งนี้เจ้าเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเองงั้นหรือ?” เจียงอวี้ยิ้มจางๆ
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ พอท่านตาหายดีแล้ว ก็จะได้เห็นด้วยตาของตัวเอง แล้วท่านจะรู้ว่าของสิ่งนี้ดีเพียงใด”
“เช่นนั้นข้าก็จะตั้งตารอคอย!”
ซูหว่านยิ้มหวานมาก ถ้าเจียงอวี้มองเห็นรอยยิ้มของนางในตอนนี้ จะต้องตะลึงอย่างแน่นอน
เจียงอวี้ตั้งตารอวันที่ดวงตาของเขาจะกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จะได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าสบู่นมแพะที่นางทำนั้นดีแค่ไหน
หลังจากนั้น บรรยากาศก็กลับมาเงียบอีกครั้ง ซูหว่านเลยรู้สึกอึดอัดอีกแล้ว
จนกระทั่งเจียงอวี้เป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
“พี่รองของเจ้าเล่าว่า วันนั้นที่ศาลเจ้าที่ เป็นเจ้าที่ยืนกรานจะช่วยข้ากลับมา และยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขาช่วยข้าอีก เจ้าคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าอย่างแท้จริง ข้าได้เสนอเงินทอง เครื่องประดับล้ำค่า หรือแม้แต่อาหารเลิศรสให้แก่พี่รองของเจ้า แต่เขากลับปฏิเสธทั้งหมด และเขาก็ได้ให้ข้ามาถามแม่นางซูว่าอยากได้สิ่งใด?”
พอพูดถึงเรื่องนี้ ความสนใจของซูอวิ๋นและซูอี้ก็ถูกดึงดูดมาเช่นกัน ทั้งสองคนมองมาทางนี้พร้อมกัน
ซูหว่านเองก็ตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะพูดถึงเรื่องนี้อย่างกะทันหัน แต่หลังจากนั้นก็คือความตื่นเต้น
ในที่สุดเขาก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาเสียที
ขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินเจียงอวี้พูดต่อว่า
"วันนี้ข้าขอถือโอกาสขอบคุณแม่นางซูอย่างจริงใจ ที่ได้ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ บุญคุณช่วยชีวิตนี้ไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนได้ แม่นางซูอยากได้สิ่งใดขอเพียงบอกมา ตราบใดที่ข้าผู้นี้สามารถมอบให้ได้ ข้าก็ยินดีมอบให้ท่านได้ทุกอย่าง!"
ตอนที่เขาพูดว่า ‘บุญคุณช่วยชีวิตนี้ไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนได้’ ซูหว่านเกือบจะคิดว่าเขาจะหลุดปากพูดออกมาว่า ‘มีเพียงการมอบกายถวายชีวิตเท่านั้น’ แล้วเชียว
ยังดีที่เขาไม่ได้พูดประโยคนั้น พอได้สตินางก็รู้สึกอับอายขึ้นมาทันที นางคิดอะไรอยู่เนี่ย?
“โถ่! พูดอะไรแบบนั้นล่ะเจ้าคะ ท่านได้สัญญาว่าจะจ่ายค่ายาและค่ารักษาให้แก่พี่รองของข้าแล้ว ดังนั้นข้าก็จะไม่ขออะไรตอบแทนจากท่านแล้วเช่นกัน ให้ถือว่าพวกเราเป็นสหายกันแล้วก็พอ!”
นางค่อยๆ ชักนำเขาเข้าสู่กับดัก และกำลังรอคำพูดต่อไปของเขาอยู่
เป็นไปตามคาด เขาต้องยื้ออีกหน่อย แล้วนางค่อยอาศัยจังหวะนั้นให้เขาติดค้างบุญคุณนางคนเดียว
“แต่แม่นางซูช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา หากไม่ขออะไรเลย เกรงว่าข้าจะไม่สบายใจ!”
ใช่ ถูกต้องเลย ซูหว่านรอคำพูดนี้แหละ
“ถ้าอย่างนั้น คุณชายเจียงก็จดจำบุญคุณนี้ไว้ก่อน แล้ววันข้างหน้าหากข้ามีเรื่องขอร้องให้ท่านช่วยท่านก็ค่อยตอบแทนบุญคุณข้า ดีหรือไม่?”
เจียงอวี้ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย ส่วนซูอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ ก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับเช่นกัน

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...