“นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
เจียงอวี้ตักน้ำแกงให้ตนเองถ้วยหนึ่ง แล้วอธิบายด้วยท่าทีสุขุมว่า
“กฎระเบียบของเมืองหลวง เมื่อนายท่านและบุตรสายตรงร่วมโต๊ะอาหาร อนุและบุตรที่เกิดจากอนุจะร่วมโต๊ะด้วยไม่ได้ ทั้งอนุยังต้องคอยปรนนิบัติอยู่ข้าง ๆ ตามกฎแล้ว ตอนนี้เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์นั่งตรงนี้เช่นกัน” เขามองไปยังเจียงเยี่ยน แววตาเต็มไปด้วยความท้าทาย
“ข้ากับท่านแม่ร่วมโต๊ะอาหารกับท่านพ่อมาตลอดหลายปี แม้แต่ท่านพ่อยังไม่เคยเอ่ยถึงกฎเหล่านี้ แล้วเจ้ามีสิทธิ์อันใดมาท้วงติงกัน?” เจียงเยี่ยนยังคงไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ยังกล้ามาขึ้นเสียงกับเขาอีก
สีหน้าของเจียงกั๋วกงเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในทันที
ทว่าเจียงอวี้ยังคงรอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ใช่ยิ้ม เขาเพียงกล่าวแย้งอย่างเชื่องช้า
“ข้าก็เพียงพูดความจริง เจ้าเป็นบุตรของอนุ และหนิงอี๋เหนียงก็เป็นอนุ ย่อมไม่อาจร่วมโต๊ะกับเจ้าบ้านได้อยู่แล้ว”
“ท่าน...” เจียงเยี่ยนโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ก็ไม่อาจโต้แย้งได้ เพราะสถานะของเขากับมารดาในตอนนี้นั้น คือบุตรของอนุและอนุจริง ๆ
ส่วนหนิงเวยที่อยู่ด้านข้างก็โกรธจนกำมือแน่น เล็บแทบจะจิกลงไปในเนื้อผิว แต่พยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บสีหน้าเพื่อไม่ให้ตนเองเสียกิริยา
ดวงตาของนางแดงก่ำขึ้นมาในชั่วพริบตา นางหันไปมองเจียงกั๋วกงแล้วคร่ำครวญว่า
“ท่านพี่ หลายปีมานี้ข้าดูแลจวนกั๋วกงอย่างขยันขันแข็ง ดูแลบ้านช่องบ่าวไพร่ในจวน จัดการงานเลี้ยงรับรองแขกเหรื่อภายนอก ก็ล้วนทำได้อย่างเหมาะสมรอบคอบ ถึงไม่มีคุณความดี ก็ถือว่ามีคุณความชอบ การที่ซื่อจื่อเพิ่งกลับมาก็กล่าววาจาถากถางเช่นนี้ ไม่เป็นการข่มเหงกันเกินไปหน่อยหรือเจ้าคะ”
ช่างเป็นยอดฝีมือในการเสแสร้งน่าสงสารโดยแท้ การแสดงระดับนี้ คิดจะมาก็มาได้ทันที
หากเป็นคนทั่วไปได้ฟังนางพูดเช่นนี้ คงจะต้องใจอ่อนไปบ้างแล้ว แต่เจียงกั๋วกงเป็นใครกัน?
เขาบัญชาการทัพออกรบมานานหลายปี ฝึกฝนจิตใจให้แข็งแกร่งดุจหินผามานานแล้ว อีกทั้งแนวคิดเรื่องบุตรสายตรงและสายรอง เขาก็เคร่งครัดยิ่งนัก
เขาเพียงจิบน้ำแกงอย่างเฉยเมยแล้วกล่าวว่า
“อาอวี้ไม่ได้พูดผิด หลายปีมานี้เจ้าดูแลจวนกั๋วกงก็ลำบากมากจริง แต่ยามที่เจ้าออกไปสังสรรค์ข้างนอก เกียรติและหน้าตาก็มิได้น้อยหน้าใคร ที่ผ่านมาเมื่ออาอวี้ไม่อยู่ ข้าต้องเข้าค่ายทหารแต่เช้ากลับค่ำ พอกลับมาก็ไม่อยากจะถือสาเรื่องพวกนี้กับเจ้า แต่เมื่อวันนี้อาอวี้เอ่ยขึ้นมาแล้ว เจ้าก็จงทำตามกฎระเบียบเถิด ให้คนเตรียมอาหารไปส่งที่เรือนข้าก็ได้ ส่วนมื้ออาหารของเจ้า ต่อไปก็ให้จัดการที่เรือนของตนเองเสีย และก็เจียงเเยี่ย่น เจ้าก็โตแล้ว ยังร่วมโต๊ะกับมารดาทุกวัน ช่างไม่เป็นโล้เป็นพาย ต่อไปให้คนเตรียมอาหารไปส่งให้เจ้าที่เรือนเช่นกัน”
เจียงกั๋วกงเข้าข้างเจียงอวี้อย่างไม่มีเงื่อนไข และในเมื่อเจียงอวี้เป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมาแล้ว เขาย่อมต้องไว้หน้าบุตรชาย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...