เมื่อเอ่ยถึงมารดาของเจียงอวี้ เจียงอวี้ก็แค่นเสียงเย็นชา
“ท่านมีสิทธิ์เอ่ยถึงท่านแม่ข้าด้วยหรือ? มาบัดนี้กลับมาต่อว่าข้าเช่นนี้ ปีนั้นมิใช่ท่านหรอกหรือที่ไม่ฟังคำคัดค้านของคนทั้งตระกูล ดึงดันจะแต่งท่านแม่ข้าให้ได้?”
“พอแต่งเข้ามาแล้ว ก็ไม่รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับท่านแม่ รับสตรีนางนั้นเข้าจวน ทั้งยังมีบุตรกับนางอีก ท่านไม่ไม่ละอายใจต่อนางบ้างหรือ?”
“นั่นเป็นเพียงอุบัติเหตุ ข้าถูกบีบบังคับต่างหาก” เจียงกั๋วกงเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ยังเอ่ยแย้ง ทว่าน้ำเสียงก็แผ่วลง
“ถูกบีบบังคับงั้นหรือ? หากท่านไม่ปล่อยให้ท่านย่าอาละวาด ทั้งร้องไห้ฟูมฟาย ทั้งอาละวาด ทั้งขู่จะผูกคอตาย แล้วหลงมัวเมาอยู่กับความกตัญญู เรื่องราวเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น” เจียงอวี้กล่าวพลางลุกขึ้นยืน
ท่านแม่เปรียบเสมือนเกล็ดมังกรของเขา ด้วยเรื่องของนาง ทำให้เขากรุ่นโกรธเจียงกั๋วกงอยู่ไม่น้อย
ในตอนนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงร้องไห้ฟูมฟาย อาละวาด ทั้งขู่จะผูกคอตาย จากนั้นก็อดอาหารประท้วง จึงบีบให้เจียงกั๋วกงยอมจำนนได้ในที่สุด
เดิมทีคิดเพียงว่ารับเข้ามาเป็นของประดับในจวนก็พอ แต่แล้วฮูหยินผู้เฒ่ากลับใช้วิธีที่น่ารังเกียจที่สุด ส่งหนิงเวยขึ้นไปบนเตียงของเขา จนกระทั่งนางตั้งครรภ์
ตามจริงแล้ว เพียงแค่เขามีจุดยืนที่หนักแน่นสักหน่อย ด้วยนิสัยของฮูหยินผู้เฒ่าเจียง นางจะยอมอดตายจริง ๆ หรือ?
มารดาของเจียงอวี้มีปากเสียงกับเจียงกั๋วกงด้วยเรื่องเหล่านี้มิใช่น้อย แต่ภายหลังเมื่อมีบุตรแล้วจึงพยายามปล่อยวาง ทว่าร่างกายกลับทรุดโทรมลงทุกวัน นางเองก็บอกกล่าวกับท่านตาแต่เรื่องดี ๆ ไม่เคยปริปากบอกเรื่องที่น่ากังวล ท้ายที่สุดร่างกายก็ราวกับตะเกียงที่น้ำมันเหือดแห้ง มิอาจยื้อชีวิตไว้ได้อีกต่อไป
เจียงอวี้สงสัยมาตลอดว่าการตายของมารดาต้องเกี่ยวข้องกับหนิงเวยและฮูหยินผู้เฒ่า แต่เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าสิ้นใจไปแล้ว หลายสิ่งก็ยากจะสืบสาวได้
ในตอนนั้น นางไม่ชอบเจียงซินโหรวอย่างยิ่ง ทั้งรังเกียจ ถากถาง และยกยอปอปั้นหนิงเวย การที่คนเราไม่ชอบหน้าผู้ใด ไม่ว่าคนผู้นั้นจะทำสิ่งใดก็ล้วนผิดไปเสียหมด
ท้ายที่สุด สองพ่อลูกก็จบลงด้วยความบาดหมาง เจียงกั๋วกงโกรธจนล้มโต๊ะ ส่วนเจียงอวี้ก็สะบัดแขนเสื้อจากไป
สายสืบที่หนิงเวยส่งไปรู้เพียงว่าสองพ่อลูกทะเลาะกันใหญ่โต แต่ไม่รู้ถึงเนื้อหาการสนทนาเลยแม้แต่น้อย
เจียงอวี้เองก็ไม่ได้ออกจากจวนกั๋วกง เพียงแต่กลับไปยังเรือนของตนเท่านั้น
สำหรับเรื่องนี้ เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ดังที่เขาได้กล่าวไป ต่อให้ต้องสละตำแหน่งซื่อจื่อที่ไม่ได้เรื่องนี้ เขาก็จะแต่งงานกับซูหว่านให้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น สาเหตุที่เจียงกั๋วกงบันดาลโทสะจนถึงกับล้มโต๊ะ ก็เพราะเจียงอวี้เอ่ยประโยคหนึ่งออกมาด้วยความโมโหว่า
“หากท่านไม่ยินยอม ต่อให้ข้าต้องไปเป็นเขยแต่งเข้าตระกูล ข้าก็จะยังอยู่กับนาง”
ว่าด้วยคุณสมบัติของคนคลั่งรักที่ดี เขายังจำได้เสมอว่าครั้งหนึ่งมารดาซูเคยกล่าวไว้ว่า นางไม่อยากให้บุตรสาวต้องออกเรือน หากเป็นไปได้ก็อยากให้เขยแต่งเข้าตระกูล
ทว่า คืนนี้เขาดื่มสุราไปไม่น้อย เรื่องนี้คงต้องโทษฤทธิ์สุราด้วยส่วนหนึ่ง
เมื่อเจียงกั๋วกงได้ยินเช่นนั้น จะทนได้อย่างไร?
เซวียนเล่อจวิ้นจู่นางนั้นมีมนต์วิเศษอันใดกัน? ถึงทำให้บุตรชายผู้เยือกเย็น สุขุม และเย็นชาเสมอมาของเขาต้องหลงใหลได้ถึงเพียงนี้?
แต่ดูเหมือนเขาจะลืมไปว่า ตนเองก็เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน เพียงแต่ชะตาเล่นตลก และโลกนี้ก็ไม่มียาที่ทำให้ย้อนเวลากลับไปได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...