ซุนหลิงเอ๋อร์กลับมิได้รู้สึกอะไร ยิ่งแสดงท่าทีไม่เป็นธรรมชาติเท่าไรก็ยิ่งน่าสงสัยเท่านั้น
ถึงกระนั้น นางก็รู้สึกยินดีไม่น้อย เด็กคนนี้ประสีประสาเรื่องความรักเสียที
เมื่อวานก็เพิ่งจะครึกครื้นกันไป วันนี้ทั้งครอบครัวจึงอยู่เป็นเพื่อนนางที่บ้าน ฉลองวันเกิดกันอย่างเรียบง่าย กว่าที่ทุกคนในครอบครัวจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เมื่อวานนี้ ซูหว่านได้บอกกับเจียเฉิงไว้แล้วว่าให้นางมาที่จวนอีกครั้งในวันนี้ เพราะเป็นวันเกิดของนาง จึงเชิญนางเป็นแขกพิเศษเพียงคนเดียว
พอเจียเฉิงจวิ้นจู่ได้ยินว่าตนเป็นแขกเพียงหนึ่งเดียวของซูหว่าน ก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง บอกว่าวันนี้จะต้องมาให้ได้ และต้องเตรียมของขวัญวันเกิดมาอย่างดีที่สุดด้วย
ท่านอ๋องเซียงและพระชายาสนับสนุนให้นางคบหากับเซวียนเล่อจวิ้นจู่ยิ่งนัก ยามนี้ตระกูลซูรุ่งโรจน์ ฐานะของซูหว่านเองก็นับว่าสูงศักดิ์ การที่ทั้งสองสนิทสนมกันย่อมเป็นเรื่องที่เหมาะสมมิใช่หรือ?
ประจวบเหมาะกับที่นิสัยของเจียเฉิงไม่เหมือนเหล่าคุณหนูสูงศักดิ์ทั่วไปในเมืองหลวง ปกตินางจึงเข้ากับคนเหล่านั้นไม่ค่อยได้ แต่เมื่อดูแล้ว กลับดูจะถูกชะตากับเซวียนเล่อจวิ้นจู่เป็นอย่างดี
เมื่อวานนี้ ซุนหลิงเอ๋อร์ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเจียเฉิงจวิ้นจู่มานานแล้ว ทุกครั้งที่นางเห็นซูเฉิน ก็มักจะเผลอหลบสายตาทั้งใบหูยังขึ้นสีแดงระเรื่อ นี่หมายความว่ากระไร?
ก่อนหน้านี้เมื่อกลับจากงานเลี้ยงวันเกิดของพระชายาที่จวนเซียงอ๋อง ซูว่านก็ได้มาซุบซิบเรื่องที่ซูเฉินกับเจียเฉิงพบกันโดยบังเอิญกับนางแล้ว นี่มิใช่วีรบุรุษช่วยโฉมงาม แม่ทัพหนุ่มพบเห็นความไม่ชอบมาพากลก็ชักดาบเข้าช่วยเหลือ ส่วนจวิ้นจู่ผู้ใสซื่อก็ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบหรอกหรือ?
เมื่อซูหว่านได้ฟังนางบรรยายเช่นนั้น ก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างเช่นกัน
เจียเฉิงกับพี่สาม ฟังดูแล้วก็เข้ากันดีอยู่ เพียงแต่ว่า หากตระกูลพวกเขาต้องเกี่ยวดองกับทั้งจวนมหาบัณฑิตและจวนเซียงอ๋อง เบื้องบนจะไม่ทรงระแวงเอาหรือ?
มิหนำซ้ำ ยังมีเรื่องของนางกับเจียงอวี้ที่ดึงเอาจวนเจียงกั๋วกงเข้ามาพัวพันอีก ขุมกำลังนี้ก็เทียบเท่ากับการก่อกบฏเชียวนะ!
“เอ่อ... พี่สะใภ้รอง ท่านแน่ใจหรือว่าหากตระกูลเราเป็นเช่นนี้ จะไม่ดูมีอำนาจมากเกินไปหน่อย?”
บัดนี้ซูหว่านเรียกนางว่าพี่สะใภ้รองแล้ว ไหน ๆ ก็เหลืออีกแค่ไม่กี่เดือนแล้ว เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
ซุนหลิงเอ๋อร์ครุ่นคิดอย่างละเอียด ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
ทว่า นั่นเป็นเพียงสัญชาตญาณของนางเท่านั้น ยังมิได้ปักใจเชื่อเสียทีเดียว
วันนี้เป็นวันเกิดของซูหว่าน คนในครอบครัวต่างเตรียมของขวัญไว้ให้ ซุนหลิงเอ๋อร์ได้ลงมือทำหมอนยาที่ช่วยให้จิตใจสงบหนึ่งคู่ด้วยตนเอง ข้างในบรรจุบุปผานานาพันธุ์ ไม่มีกลิ่นยาจีนที่ฉุนรุนแรง แต่กลับมีกลิ่นหอมสะอาดที่ทำให้รู้สึกสบาย
แม้จะไม่ใช่ของล้ำค่าอันใด แต่ก็เป็นสิ่งที่ซุนหลิงเอ๋อร์ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำขึ้นมา
ซูมู่และซุนหลิงเอ๋อร์ได้ยินดังนั้นก็สบตาและยิ้มอย่างรู้ใจ ก่อนที่ซูมู่จะหยิบตำรับยาแผ่นหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ
“ข้าเตรียมไว้ให้เจ้าตั้งนานแล้ว รับไปเถิด!”
เด็กคนนี้คิดว่าเขาไม่รู้หรือไร ขี้ผึ้งอวี้เหยียนที่ซุนหลิงเอ๋อร์เป็นผู้ปรุงขึ้น บัดนี้โด่งดังไปทั่วแล้ว ก่อนหน้านี้ซุนหลิงเอ๋อร์ได้ยินข่าวจึงลองไปซื้อมาหนึ่งตลับ พอกลับมาดูก็พบว่าเป็นตำรับยาของตนเอง จึงไม่ยากที่จะคาดเดา
อีกอย่าง ชื่อปิงจีถังกับอวี้เหยียนถัง ก็ฟังดูแล้วก็มีความคล้ายคลึงกันมิใช่หรือ?
ใกล้จะถึงวันเกิดซูหว่านแล้ว พวกเขาสองคนจึงได้ปรึกษากันและคิดค้นตำรับขี้ผึ้งขึ้นมา
เรื่องราวดำเนินไปอย่างราบรื่น ทั้งยังเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วอีก เมื่อซูหว่านได้รับตำรับยามาไว้ในมือ จึงรู้สึกเหมือนไม่เป็นความจริง
แต่เหตุใดสีหน้าของพี่รองและพี่สะใภ้รองถึงได้ดูแปลกพิกล?
ลำดับถัดไปคือพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่ เสิ่นชิงหลีก็เตรียมของขวัญไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ตอนที่นางลงมือปักชุดเจ้าสาวของตนเอง ก็ได้ถือโอกาสปักชุดให้ซูหว่านไว้หนึ่งชุดด้วย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...