เหล่าพี่ชายต่างหลีกทางให้ พร้อมทั้งเชิญนางเข้าไปข้างในอย่างนอบน้อม
ท้ายที่สุด กลายเป็นว่าทำเอาจียเฉิงรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง ซูหว่านมองออกถึงความไม่เป็นตัวของตัวเองของนาง จึงตัดสินใจพานางไปยังเรือนของตนเอง
พอออกมาจากห้องโถงใหญ่นั้นแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น
หญิงสาวทั้งสามนั่งเล่นอยู่ในเรือน พูดคุย ดื่มชา และแลกเปลี่ยนเรื่องซุบซิบกัน
เมื่อพูดคุยกันไป หัวข้อสนทนาก็วนมาถึงเรื่องของซูเฉิน
“เอ่อ หวานหว่าน ช่วงนี้ท่านแม่ทัพซูไม่ต้องเข้าประจำการที่กองรักษาการณ์เมืองหรือ?”
ทันใดนั้นเอง พี่สามก็ถูกดึงเข้ามาในวงสนทนา แถมคำถามนี้ยังมาจากปากของเจียเฉิงอีก ทำให้ทั้งซูหว่านและซุนหลิงเอ๋อร์ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วครู่
แม้จะอย่างไร แต่หากเจียเฉิงจะชอบพี่สามของนางจริง ๆ ก็ดูเหมือนจะน่าลุ้นไม่น้อย
“เขาลาสามวัน พรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปเข้าประจำการแล้วเจ้าค่ะ” ซูหว่านตอบตามความจริง
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียเฉิงก็พยักหน้ารับอย่างกึ่งเข้าใจกึ่งไม่เข้าใจ ก่อนจะเอ่ยถามต่อว่า
“พี่สามของเจ้าอายุเท่าใดแล้ว? ได้ยินมาว่าในสนามรบเขาเก่งกาจอย่างยิ่ง เพียงได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม เหล่าศัตรูก็ขวัญหนีดีฝ่อแล้ว วรยุทธ์ของเขาต้องสูงส่งมากเป็นแน่ การเหินหลังคาเดินบนกำแพงเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขาใช่หรือไม่?”
พอพูดถึงเรื่องนี้ แววตาของจียเฉิงก็เปล่งประกายระยิบระยับ
“ปีนี้เขาอายุยี่สิบสามแล้วเจ้าค่ะ วรยุทธ์ของพี่สามข้าสูงส่งจริง ๆ ทั้งขี่ม้า ยิงธนู และการต่อสู้ล้วนไม่เป็นรองผู้ใด การเหินหลังคาเดินบนกำแพงก็สามารถทำได้เช่นกัน”
เมื่อซูหว่านเอ่ยถึงพี่สามของตน ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าก็เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ
คำพูดของนาง ทำให้แววตาของจียเฉิงเปลี่ยนเป็นความชื่นชมเลื่อมใส
“ว้าว ฟังดูยอดเยี่ยมจริง ๆ เดือนหน้าก็จะถึงเทศกาลล่าสัตว์หลวงประจำปีแล้ว เป็นการล่าสัตว์ที่ภูเขาจวินซานเป็นเวลาห้าวัน ถึงตอนนั้นฝ่าบาทจะทรงนำเหล่าองค์ชาย รวมทั้งบุตรชายบุตรสาวสายตรงของตระกูลแม่ทัพไปด้วยกัน ท่านแม่ทัพซูก็น่าจะได้ไปเช่นกัน ส่วนหวานหว่าน เจ้าก็เป็นคนในตระกูลแม่ทัพ ย่อมไปได้เหมือนกัน ทุกปีข้าตั้งตารอเทศกาลนี้ที่สุด ถึงเวลานั้น คงจะได้ยลโฉมฝีมืออันน่าเกรงขามของท่านแม่ทัพด้วยตาตนเอง”
นับตั้งแต่ที่ได้เห็นฝีมือของซูเฉินบนถนนคราวนั้น นางก็มั่นใจว่าวรยุทธ์ของเขาต้องสูงส่งอย่างแน่นอน ตั้งแต่เล็กจนโตนางก็สนใจเรื่องการต่อสู้พวกนี้เป็นพิเศษ
แน่นอนว่า สนใจในตัวบุคคลด้วยเช่นกัน
พอซูหว่านได้ฟังเรื่องเทศกาลล่าสัตว์หลวง ก็รู้สึกว่าคล้ายกับที่มีในละครย้อนยุคทุกเรื่อง เป็นงานที่จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
นางยังไม่เคยเห็นมาก่อน จึงรู้สึกแปลกใหม่และอยากไปร่วมสนุกด้วยเช่นกัน
“เขาเป็นรองผู้บัญชาการประจำกองรักษาการณ์เมือง ต่อให้ได้ไป ก็คงไปในฐานะผู้คุ้มกันฝ่าบาทและพิทักษ์ลานล่าสัตว์กระมัง?” ซูหว่านคาดเดา
“ไม่สำคัญหรอก ขอเพียงได้ไปก็พอแล้ว ถึงตอนนั้นเขาก็สามารถร่วมล่าสัตว์ตามเสด็จฝ่าบาทได้เช่นกัน”
เจียเฉิงกำลังคิดอะไรอยู่ ซูหว่านเองก็เดาไม่ออก แต่เห็นได้ชัดว่านางกำลังมีความสุขอย่างมาก
ทว่าที่แน่ใจได้อย่างหนึ่งก็คือ นางสนใจในตัวพี่สามของนางอย่างยิ่ง
……

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...