สิ่งที่เจียงอวี้พูดนั้นเกินความคาดหมายของทุกคนจริงๆ พวกเขาไม่คิดเลยว่าเขาจะเตรียมการและความจริงใจไว้มากมายขนาดนี้ เพื่อที่จะได้เเต่งงานกับหวานหว่าน
เรื่องที่จะย้ายมาอยู่ข้างๆจวนซู ซูอวิ๋นเป็นคนเเรกที่แสดงความเห็นด้วย
“การได้อยู่ข้างบ้านเป็นเรื่องดี ข้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง หลังจากนี้เรายังเคยได้เจอหวานหว่านทุกวัน หากมีใครรังเเกนาง ก็จะสามารถปกป้องนางได้ทันที”
ส่วนเรื่องที่จะมีใครรังเเกซูหว่านนั้นเป็นไปไม่ได้เลย หลังจากนี้ถ้าซูหว่านไม่ไปรังเเกเจียงอวี้ก็ดีแล้ว หลังจากแต่งงาน เเละย้ายมาอยู่ที่นี่ นางก็จะเป็นใหญ่ที่สุด ไม่ต้องทำตามคำสั่งใคร เเละไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับใคร เเละทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ
พอพูดถึงตรงนี้ ซูอี้ที่เงียบมาตลอดก็พูดขึ้น เขาหัวเราะเยาะ
“ซื่อจื่อพูดง่ายไปหน่อย เจ้าอาจจะยอมสละตำแหน่งซื่อจื่อเพื่อหวานหว่านได้ เเต่เจียงกั๋วกงอาจจะไม่ยอม ท่านเป็นลูกหลานสายตรงของจวนกั๋วกง เเล้วเขาจะยอมให้ท่านสละตำเเหน่งนี้ได้อย่างไร”
อีกอย่าง เว้นแต่จะตัดความสัมพันธ์กันไปเลย ถ้าเเค่สละตำแหน่งในสายตาคนอื่น เจ้าก็ยังเป็นลูกชายของเขาอยู่ดี มันก็เหมือนกับการซ่อนเงินสามร้อยตำลึงไว้ที่นี่ (อารมณ์ประมาณว่าทำอะไรมีพิรุธ)นั้นเเหล่ะ”
คำพูดของซูอี้เฉียบเเหลมเสมอ ทำให้เจียงอวี้เงียบไป ไม่รู้จะตอบอย่างไร
แต่นี่ก็เป็นความจริง ที่ว่าเจียงกั๋วกงรักภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วเเละลูกชายสายตรงมาก ซึ่งเป็นที่รู้กันดีในเมืองหลวง เเม้ว่าเจียงอวี้จะไม่ใช่ซื่อจื่อแล้ว เขาก็ยังคงเป็นลูกชายของเจียงกั๋วกงอยู่ดี มันก็เหมือนกับการทำตัวมีพิรุธจริงๆ
“พี่ห้า ข้ารู้ว่าท่านกังวลอะไรอยู่ เเต่ขอเวลาให้ข้าหน่อย ข้าจะเเก้ปัญหาทั้งหมดให้ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ทั้งจวนเจียงกั๋วกงเเละจวนซูปลอดภัย เเละไม่ส่งผลกระทบต่อใคร ไม่นานเกินรอแน่นอน”
เจียงอวี้รู้สึกหนักใจเป็นครั้งเเรกกับสถานการณ์ปัจจุบัน เขารู้สึกไร้กำลังที่จะแก้ไขมัน
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสนใจสถานการณ์ในเมืองหลวงเลย เเต่ตามที่เจียงกั๋วกงเคยพูดไว้ ชีวิตของคนนับร้อยในตระกูลเจียง รวมถึงสายรองด้วย เขาต้องคำนึงถึงมัน
“หวานหว่านอายุสิบเเปดเเล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน ข้ากลัวคนอื่นจะเอาไปนินทา ทำให้ชื่อเสียงของนางเสียหาย หวังว่าซื่อจื่อจะทำตามที่พูด อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้เรื่องนึ้ได้รับการแก้ไขก่อนจะหมดปีนี้ได้ไหม”
ความคิดของซูอี้ลึกซึ้งเเละคิดเยอะ เเต่ในบรรดาพี่น้องทั้งห้าคน เขาเป็นคนที่เด็ดขาดและใจแข็งที่สุด อย่างไรก็ตาม การเพิ่มแรงกดดันให้บ้างเป็นสิ่งจำเป็น
“ไม่ต้องนานขนาดนั้น ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้ากลับจากสนามรบ ข้าปฏิเสธการพระราชทานรางวัล เเละขอพระราชทานพรเป็นพิเศษอย่างหนึ่ง ข้าคิดไว้เเล้วว่าจะต้องมีวันนี้ วันนี้ถึงเวลาเเล้วที่จะใช้มัน ข้าจะหาโอกาสเข้าเฝ้า”
เมื่อกี้เขายังเป็นคนใจเย็นอยู่เลย เเต่ตอนนี้เขากล้าพูดแบบนี้กับฝ่าบาท เขาเป็นคนเเรกเลยที่กล้าทำเช่นนี้ คำพูดของกษัตริย์ตรัสเเล้วคืนคำไม่ได้
ถ้าฝ่าบาทรู้ว่าเขาใช้เล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ คงจะโกรธมากเเละคนที่ซวยก็คือเจียงกั๋วกงผู้พ่อนั่นเอง
เขาเป็นลูกชายที่น่ารักของพ่อจริงๆ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...