ซูเฉินเข้าใจประเด็น เขาทำหน้าเป็นห่วงเป็นใยพลางมองไปที่เจียเฉิง อยากจะขอดูมือนางสักหน่อย แต่กลับเห็นว่านางซ่อนมือไว้ด้านหลัง
เมื่อซูเฉินเห็นนางมองมาที่ตนด้วยสายตาคาดหวัง ในแววตาเป็นประกายระยิบระยับ เขาจึงปฏิเสธไม่ลง แต่การที่ชายอกสามศอกอย่างเขาจะต้องมานั่งปอกลิ้นจี่ให้จวิ้นจู่มันดูแปลกๆ อยู่นะ
เขาจึงหันไปมองซูหว่าน หวังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ซูหว่านกลับชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“เดี๋ยวนะ เหมือนข้าจะทำของบางอย่างตกไว้ที่ห้องโถงด้านหน้า ข้าขอไปหาสักครู่ พี่สาม พี่ช่วยดูแลเจียเจียให้ข้าหน่อยนะ ข้าจะรีบไปรีบกลับ”
ซูหว่านพูดจบก็หนีออกจากที่นั่นทันที เจียเจียรู้สึกซาบซึ้งใจมาก สหายรักคนนี้นี่รู้ใจจริงๆ
เมื่อซูหว่านจากไปแล้ว ซูเฉินก็รู้สึกจนปัญญา สตรีที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้คือจวิ้นจู่ อย่างแรกเลย ในฐานะที่เขาเป็นขุนนาง และจวิ้นจู่มีสถานะสูงส่ง เขาจึงไม่อาจละเลยนางได้ อย่างที่สอง ที่นี่คือจวนตระกูลซู และในเมื่อรอบข้างไม่มีคนอื่น เขาจึงต้องดูแลแขกให้ดี นี่คือสิ่งที่ควรทำโดยไม่ต้องสงสัยเลย
ดังนั้น เขาทำได้เพียงวางถาดผลไม้กลับลงบนโต๊ะ ใช้ผ้าขนหนูเปียกเช็ดมือ ก่อนจะหยิบลิ้นจี่ขึ้นมาลูกหนึ่ง ปอกเปลือกออกแค่ครึ่งเดียว แล้วยื่นให้เจียเฉิง
เจียเฉิงมองดูลิ้นจี่ที่อยู่ตรงหน้า นางโน้มตัวเข้าไป แล้วกินลิ้นจี่หมดทั้งคำในคราวเดียว โดยที่เปลือกอีกครึ่งยังคงอยู่ในมือของซูเฉิน
“ขอบคุณท่านแม่ทัพซู ลิ้นจี่ที่ท่านปอกหวานจริงๆ" เจียเฉิงยิ้มอย่างสดใส ดวงตาทั้งคู่เปล่งประกายเจิดจรัส
ทันใดนั้น ซูเฉินพลันรู้สึกแน่นที่หน้าอกขึ้นมาทันที ความรู้สึกหนึ่งที่ทำให้หัวใจของเขารู้สึกไม่สบายได้ผุดขึ้นมา แต่เขากลับไม่ได้เกลียดความรู้สึกนั้น
ซูหว่านแอบมองจากที่ไกลๆ นางคิดในใจ เจียเจียลีลาแพรวพราวจริงๆ หว่านเสน่ห์ขนาดนี้ไม่รู้สึกเขินเลยหรือ
พี่สามผู้เก็บตัวคนนี้ ในที่สุดก็เจอช่วงเวลาที่ผลิบานแล้ว
จากนั้นทั้งสองคนก็พูดคุยอะไรกันเล็กน้อยแต่นางไม่ได้ยิน ทว่านางเลือกเวลาที่เหมาะสมแล้วจึงเดินกลับไป
เจียเจียอารมณ์ดีขึ้นมากหลังจากนั้น และไม่ได้กล่าวถึงเรื่องของหมีหมีอีกเลย ดูเหมือนว่านางลืมผู้หญิงคนนี้ไปแล้วจริงๆ
แต่สิ่งที่เจียเฉิงไม่รู้ก็คือ ซูเฉินได้อธิบายเรื่องนี้ให้หมีหมีฟังอย่างชัดเจนแล้ว นางจึงไม่ได้เอ่ยถึงมันอีก
บุญคุณอันใหญ่หลวงเช่นนี้ ย่อมสมควรได้รับการตอบแทน แต่การที่ให้นางมีที่พักอาศัย ก็ถือว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว
เพราะในครั้งนั้นที่หมีหมีรอดชีวิตมาได้ ก็เป็นเพราะซูเฉินได้เคยช่วยขอร้องไว้ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่รอนางอยู่คือโทษประหารชีวิตที่อาจยกเว้นได้ แต่โทษที่ต้องรับในขณะยังมีชีวิตยังคงไม่อาจหลีกหนี ซึ่งนางถูกลดฐานะเป็นทาส และยังต้องถูกเนรเทศไปไกลถึงสามพันลี้ ต่อให้ไม่ตายระหว่างทางก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น
……
ซูอี้กลับมาในวันรุ่งขึ้น ภารกิจของเขาที่หอหรูอี้สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อวานนี้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...