“ร้านเฉิงโหลวของท่านยังไม่ดังพออีกหรือ? ตอนนี้เวลาชาวเมืองหลวงเชิญแขกไปกินข้าวก็ไปที่เฉิงโหลวทั้งนั้น อีกทั้งเมืองหลวงก็มีคนอยู่แค่นี้เอง โดยพื้นฐานแล้วก็รู้กันหมดแล้ว ท่านยังต้องการให้ดังไปมากกว่านี้อีกหรือ?”
ซูอี้เหน็บแนมอยู่ข้างๆ พี่ใหญ่เคยบอกไว้ตั้งนานแล้วว่า ร้านเฉิงโหลวชาตินี้เปิดได้แค่สองสาขาเท่านั้น จะเปิดสาขาเพิ่มไม่ได้อีกแล้ว ต้นไม้ใหญ่ย่อมรับลมแรง ถ้าหากโดดเด่นสะดุดตาเกินไป เบื้องบนก็จะไม่พอใจ ถึงเวลานั้นความพยายามของหวานหว่านจะไม่สูญเปล่าหรอกหรือ?
"ดังก็ดังอยู่หรอก แต่ชื่อเสียงมันยังไม่มั่นคงสมบูรณ์เลยนี่ พวกเจ้าลองคิดดูสิ ตอนนี้ข้าได้ลงมือทำอาหารให้ฝ่าบาทและฮองเฮาเสวยเองเลยนะ นี่มันไม่แสดงว่าร้านเฉิงโหลวของเรามีฝีมือจริงหรอกหรือ? ถึงเวลานั้นทุกคนก็จะรู้ว่าข้าเคยย่างเนื้อให้ฝ่าบาทเสวยแล้ว แต่ละคนก็ยิ่งต้องเชื่อมั่นในการตัดสินพระทัยของฝ่าบาทไม่ใช่หรือ?”
ซูอวิ๋นผู้นี้คิดคำนวณแผนการอย่างดีจนลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้าแล้ว
เจ้าเก่งจริงๆ ที่ใช้ฝ่าบาทองค์ปัจจุบันเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจ
แต่ก็เป็นเรื่องจริง ไม่ว่าเวลาใดหรือยุคสมัยใด ก็มีผู้ที่ทำตามกระแสเสมอ อาหารที่ดาราดังไปเช็คอิน หรือสินค้าที่พวกเขาเป็นพรีเซนเตอร์ แฟนๆ ก็จะให้การสนับสนุน
ฮ่องเต้คือบุรุษผู้ทรงเกียรติที่สุดในยุคสมัยนี้ เป็นที่จับตามองอย่างมาก มีอิทธิพลแบบดารา เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ทันสมัยจำนวนมากก็แพร่หลายมาจากเชื้อพระวงศ์และขุนนาง ประชาชนก็ทำตามกระแสโดยไม่รู้ตัว โดยถือเอาการแต่งกายในชีวิตประจำวันของพวกเขาเป็นแฟชั่นที่นิยมชมชอบ
ซูจิ่งจัดการที่พักให้เขา หลังจากพักผ่อนเล็กน้อยแล้ว เขาก็พาผู้ช่วยสามคนที่นำมาเองพร้อมกับบรรดาเครื่องมือต่างๆ ตรงไปยังบริเวณที่จัดเตรียมไว้สำหรับทำอาหารในเขตล่าสัตว์
ฝ่าบาทตรัสแล้วว่า คนของห้องเครื่อง เขาสามารถสั่งการได้ตามสบาย ขอแค่ทำอาหารสำหรับงานเลี้ยงรอบกองไฟในคืนนี้ให้อร่อยก็พอ
คนในห้องเครื่องมีรวมกันทั้งหมดห้าสิบคน โดยมีผู้หญิงมากกว่า พอเขามาถึงก็ทำการตรวจนับจำนวนคนโดยคร่าว ๆ และลงทะเบียนว่าแต่ละคนถนัดทำอาหารและปรุงอาหารประเภทใด เพื่อที่จะจัดสรรหน้าที่ให้แต่ละคนอย่างเป็นระเบียบว่าควรทำสิ่งใด และต้องเตรียมเครื่องปรุงชนิดไหน
เขายังนำส่วนผสมสำหรับทำของหวานมาด้วย เนื่องจากมาถึงแล้ว ก็ต้องสร้างความประทับใจที่แตกต่างให้ทุกคน เพื่อที่พวกเขาจะได้นึกถึงอาหารรสชาตินี้ไปอีกนาน และมาสนับสนุนร้านเฉิงโหลว
คนที่หั่นเนื้อก็หั่นเนื้อ คนที่ล้างผักก็ล้างผัก การกินเนื้อย่างก็ต้องห่อด้วยใบผักไม่ใช่หรือ?
นี่เป็นวิธีการกินที่ซูหว่านคิดค้นขึ้นมาเอง นางว่าการกินแต่เนื้ออย่างเดียวมันเลี่ยนเกินไป ต้องกินคู่กับผักควบคู่ไปด้วย จะได้กินไปพร้อมกับช่วยลดความเลี่ยนไปด้วย
ซูอวิ๋นลองทำตามดู โอ้โห วิธีการกินแบบนี้ช่างดีจริงๆ น่าสนใจมาก และมีรสชาติที่แปลกใหม่อีกด้วย
ปฏิเสธไม่ได้เลย ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ มันอร่อยมาก และสนุกจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ ในเมนูของร้านเฉิงโหลวจึงมีอาหารเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งอย่างคือถาดรวมเนื้อย่าง ซึ่งเป็นเมนูที่มีคนสั่งค่อนข้างมาก
หลังจากหั่นเนื้อแล้ว ก็ต้องนำไปหมัก โดยใช้เครื่องปรุงทั้งหมดที่เขานำมาจากร้านเฉิงโหลว


ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...