นอกจากนี้ การที่เจียเฉิงจวิ้นจู่ปฏิบัติต่อน้องสามเเตกต่างออกไป ทุกคนก็เห็นกันหมด การเชิญพวกเขามาในครั้งนี้ น่าจะต้องการสอบถามความรู้สึกของซูเฉิน เเละบังเอิญว่าเขาในฐานะพี่ใหญ่ก็อยากรู้ว่าน้องสามคิดอย่างไรเช่นกัน
เมื่อเอ่ยถึงเจียเฉิง ซูเฉินก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงใบหน้าที่น่ารักของนาง เเละภาพในบ่ายวันนั้นที่นางจูบมุมปากของเขา
ความรู้สึกสัมผัสนั้น อบอุ่น หอมหวาน ยังคงติดตรึงในความทรงจำ จนกระทั่งทุกครั้งที่นึกถึง ก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกทำให้ร้อนจนสั่นไปหมด
เขาอดไม่ได้ที่หูเเดง เเละเริ่มตอบคำถามของซื่อจื่อด้วยความไม่เป็นธรรมชาติ
“จวิ้นจู่เป็นคนใสซื่อบริสุทธิ์ ร่าเริงสดใส น่ารักมาก นางเป็นคนดีมาก” การที่เขานึกถึงคำคุณศัพท์เหล่านี้ออกมาได้ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากเเล้ว สำหรับคนที่มีอาการกลัวสังคม
ซื่อจื่อเห็นดังนั้น ก็ก้มหน้าลงหัวเราะเบาๆ
“แม่ทัพซู ข้าเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ชอบอ้อมค้อม มีบางคำที่ข้าจะพูดออกไปตรงๆ”
เขาน่าจะพอรู้ท่าทีของซูเฉินที่มีต่อน้องเล็กเเล้ว เเค่เอ่ยถึงก็หน้าเเดงเเละตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว นี่ไม่ใช่ความชอบเเล้วจะเป็นอะไรไปได้
ถ้างั้นก็ง่ายเเล้ว พูดตรงๆไปเลยดีกว่า
“ซื่อจื่อพูดได้เลย” ซูเฉินนั่งตัวตรงมาก สีหน้าเคร่งขรึมจนเเทบจะเข้าร่วมพรรคได้เลย
ซื่อจื่อถูกท่าทางของเขาทำให้หัวเราะออกมาอีกครั้ง ส่ายหน้าอย่างจนใจ
ซื่อจื่ออ๋องเซียงก็เป็นชายหนุ่มรูปงามที่หาได้ยาก ครั้งหนึ่งเกือบจะได้เป็นทองเเผ่นเดียวกันกับจวนมหาบัณฑิต ซื่อจื่อก็เป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่น เป็นบัณฑิตที่มีทั้งความสามารถเเละรูปลักษณ์ที่ยอดเยี่ยม ตอนนี้ซูจิ่งเห็นเขาแล้วยังรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย โชคดีที่ตอนนั้นซื่อจื่อไม่ได้ยืนกรานที่จะเเต่งงานกับชิงหลี ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงไม่มีเรื่องของเขาเเล้ว
“แม่ทัพซู ตอนอยู่ที่สนามล่า ท่านได้ช่วยชีวิตเจียเฉิงไว้ ครอบครัวของเราซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง เจียเฉิงก็ได้เเสดงความรู้สึกออกมาให้พวกเราทราบอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจว่านางชอบท่าน ตอนนี้นางก็ถึงวัยที่ควรจะเเต่งงานแล้ว ข้าเห็นว่าเเม่ทัพซูก็ยังไม่มีคู่ครองเช่นกัน ข้าจึงหน้าด้านขอถามเเทนน้องสาวว่า เเม่ทัพซูยินดีที่จะดองกับจวนอ๋องของพวกเราหรือไม่”
คำพูดนี้ทำให้ซูเฉินรู้สึกมึนงงไปหมด เขามองซื่อจื่อด้วยความตกตะลึงเเละไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เป็นเวลานาน
“ซื่อจื่อพูดอะไร พูดอีกครั้งได้ไหม ข้าได้ยินไม่ชัด”
เขากลัวว่าตัวเองจะได้ยินผิดไป จึงถามซ้ำอย่างโง่ๆ
ซื่อจื่อแอบปิดปากหัวเราะ เเล้วพูดซ้ำอีกครั้ง
“ข้าพูดว่า เเม่ทัพซูยินดีที่จะเกี่ยวดองกับจวนอ๋องของพวกเราหรือไม่ เจียเฉิงชอบท่าน ข้าผู้เป็นซื่อจื่อจึงหน้าหนามาถามเเทนนาง”
คราวนี้ซูเฉินได้ยินชัดเจนเเล้ว หัวใจของเขาก็เต้นระรัว แทบจะหลุดออกมาอยู่ที่คอ เขาทำอะไรไม่ถูก จึงหันไปมองพี่ใหญ่ เเต่ซูจิ่งกลับหันหลังให้เขา ตั้งใจเล่นหมากล้อมอยู่กับท่านอ๋อง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...