องค์ชายเหล่านี้ไม่ได้จัดงานเลี้ยงฉลองอภิเษกสมรส แต่ได้จัดพิธีสถาปนา ตามกฎของบรรพบุรุษ พระชายาเอกจะเข้าตำหนักก่อนสามวัน พระชายารองจะเข้าตำหนักตามหลังสามวัน โดยเข้าทางประตูข้าง ไม่สามารถใส่สีแดงเขียว แต่สามารถใส่สีแดงทั้งชุดได้
หลังจากพักผ่อน บรรดาสาวสูงศักดิ์ที่ยังไม่ได้ถูกเลือกทั้งหมด ยกเว้นพระชายาเอกที่ถูกเลือกไปแล้วสามคน ยังคงยืนเรียงกันเป็นแถวเพื่อรอให้องค์ชายเลือก
มู่หรงเซิงมอบตราพระชายารองให้กับกู้เย่ว์ และลูกสาวของขุนศึกยศสี่ขั้นคนหนึ่ง
มู่หรงไหวก็เลือกธิดาของขุนนางในเมืองหลวงที่มีตำแหน่งไม่สูงนักมาเป็นพระชายารองสองคน
พิธีเลือกพระชายาจึงสิ้นสุดลง ถือว่าผ่านไปด้วยดี มีเพียงกู้เย่ว์เท่านั้นที่รู้สึกถึงความอัปยศอดสู
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น นางก็ยังยอมจำนนต่อโชคชะตา และเลือกที่จะเป็นพระชายารองของมู่หรงเซิง
ซูหว่านก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก กู้เย่ว์ที่เป็นตัวเอกหญิงของเรื่อง กลับรู้สึกว่ามีวิสัยทัศน์ไม่กว้างขวาง ไม่สามารถแบกรับบทบาทนางเอกได้เลย หรืออาจเป็นเพราะการมาของนาง ทำให้เนื้อเรื่องทั้งหมดพังทลายไปแล้ว ตอนนี้นางต่างหากที่เป็นตัวเอก ได้พลิกสถานการณ์และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ส่วนกู้เย่ว์กลับกลายเป็นตัวประกอบ และค่อยๆ เผยให้เห็นถึงข้อบกพร่องทางด้านจิตใจของมนุษย์ออกมา
แต่ว่ามู่หรงเซิงก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนในนวนิยายอีกต่อไปแล้ว เขาเองก็อาจจะถูกอำนาจครอบงำและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มา
งานเลี้ยงเลิกแล้ว ทุกคนต่างกลับบ้านตน เฉินกุ้ยเฟยได้ชวนนางให้อยู่ทานอาหาร มู่หรงไหวก็ชวนนางเช่นกัน ซูหว่านไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงอยู่ในวังจนกระทั่งทานอาหารเย็นเสร็จจึงได้ออกจากวังหลวง
เมื่อออกมาข้างนอกก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว ที่หน้าประตูเซวียนอู่ มีรถม้าคันคุ้นตาจอดอยู่ เป็นรถม้าของเจียงอวี้
อาหนานยืนอยู่ข้างรถม้า เมื่อเห็นซูหว่านมาถึง เขาก็ยกเท้าเดินเข้าไปหา
"จวิ้นจู่ ซื่อจื่อรอท่านนานแล้วขอรับ"
เท่าที่ซูหว่านรู้ บาดแผลที่ก้นของเจ้านี่ก็ยังไม่หายสนิทดี แต่ก็ยังไม่หยุดอยู่เฉยๆ และยังออกไปข้างนอกอีกด้วย
ขณะที่คิดเช่นนั้น ในใจของนางกลับรู้สึกยินดี
นางเหยียบบันไดขึ้นไปบนรถม้า การตกแต่งภายในยังคงเหมือนเดิม เพราะนางชอบนอนบนรถม้า ทำให้รถม้าของเขาปูด้วยผ้าห่มหนานุ่มอยู่เสมอ
เจียงอวี้เอนกายอยู่ข้างใน เมื่อเห็นนางเข้ามา แววตาก็ยิ้มแย้ม
"ท่านหาข้ามีเรื่องอะไรเหรอ" ซูหว่านจำได้ว่าข้อความตอบกลับจากคนของเขาบอกว่ามีเรื่องจะหาเขา
หลังจากที่นางนั่งลง เจียงอวี้ก็เอื้อมมือไปจับมือนางวางไว้ที่ริมฝีปากและจูบเบาๆ ดวงตาคู่ที่เหมือนดอกท้อของเขาทอประกายระยิบระยับราวกับภูติชายที่สามารถดูดกลืนพลังชีวิตของผู้คน
"ไม่มีอะไร แค่คิดถึงเจ้า อยากเจอเจ้ามากๆ เลย เจ้าคนไม่รู้คุณคนนี้ ไม่รู้จักมาเยี่ยมข้าบ้างเลย"
เจียงอวี้ทำหน้างอน ซูหว่านคิดว่า แค่ไม่กี่วันที่พวกเขาไม่ได้เจอกันเอง ทำไมจะต้องขนาดนั้นด้วยนะ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...