ในขณะที่ซูหว่านยังคงจมดิ่งอยู่ในโลกแห่งจินตนาการของตน หลิวอวิ๋นและหลิวอิ๋งกลับก้มหน้างุดด้วยท่าทีร้อนตัว
“หวานหว่าน ทำอันใดลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่รึ?”
ซูหว่านได้ยินเสียงจึงเพิ่งรู้สึกตัว นางสะดุ้งเฮือก รีบยืนตัวตรงในทันที
ยามซูอี้แย้มยิ้ม มักให้ความรู้สึกว่าเขามองทุกสิ่งทะลุปรุโปร่ง เขายิ้มจนดวงตาหรี่ลง ดูเผิน ๆ ราวกับไม่เป็นพิษเป็นภัย ทว่ากลับแฝงไว้ซึ่งความร้ายลึก
เขารู้อยู่แล้วว่านังหนูคนนี้ต้องแอบมาสอดแนม จึงเตรียมใจไว้แล้วว่านางจะต้องรู้ความจริง
เพียงแต่ว่านี่ก็เกือบหนึ่งเดือนแล้ว นางเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าต้องมาสืบเรื่องนี้ ช่วงก่อนหน้านี้มัวแต่ออกไปเที่ยวเล่นกับเจียงอวี้จนลืมโลก นึกว่านางลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว!
จริงดังคาด ซูอี้ยังคงเข้าใจนางที่สุด ความอยากรู้อยากเห็นของนาง แม้จะมาช้าไปบ้าง แต่ก็มาจนได้
“พี่ห้า ท่านนั่นแหละที่ช่วงนี้ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ? ถึงกับหัด‘ซุกซ่อนโฉมงามในตำหนักทองแล้วหรือเจ้าคะ?”
เมื่อซูหว่านล่วงรู้ความลับของเขาแล้ว จึงกล้าที่จะย้อนถามกลับไป
ซูอี้ได้ยินดังนั้น ก็ก้มหน้าหัวเราะเบา ๆ
เพียงแต่โฉมงามที่อยู่ในห้อง เมื่อได้ยินประโยคซุกซ่อนโฉมงามในตำหนักทอง หัวใจพลันเต้นรัวไม่เป็นส่ำ
นางรู้ดีว่า ซูหว่านจำนางได้แล้ว
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าสงสัย แต่เดิมก็มิได้คิดจะปิดบังเจ้า เพียงแต่ช่วงนี้เจ้ากำลังสุขจนลืมกลับบ้านมิใช่หรือ? จึงไม่อยากไปรบกวนเจ้า”
นี่เขาจงใจพูดกระทบว่านางกับเจียงอวี้หวานชื่นกันจนเกินงาม ซูหว่านพลันหน้าแดงก่ำขึ้นมา
สุขจนลืมกลับบ้าน ช่างเลือกใช้คำเสียนี่กระไร นางไม่เห็นด้วยหรอกนะ
“เอาเถิด ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่?” ซูหว่านเดินตรงเข้าไปในห้องตำราทันที
ลั่วซีจู๋เห็นซูหว่านก้าวเข้ามา ก็รู้ว่ามิอาจปิดบังได้อีกต่อไป จึงเป็นฝ่ายถอนสายบัวคารวะอย่างคุณหนู
“ถวายบังคมจวิ้นจู่เจ้าค่ะ!”
อยู่ที่ตระกูลซูมาหนึ่งเดือนแล้ว นางย่อมทราบฐานะในปัจจุบันของซูหว่านดี อีกฝ่ายเป็นถึงจวิ้นจู่ ส่วนนางเป็นเพียงสามัญชน
“คุณหนูลั่ว ไม่ได้พบกันเสียนาน”
ซูหว่านจดจำตัวตนของนางได้อย่างแม่นยำ
เมื่อได้ซักถามจนกระจ่างแล้วจึงได้รู้ว่า ลั่วซีจู๋เดินทางมาเมืองหลวงเพียงลำพัง หลังจากมาถึงก็เข้าพักที่โรงเตี๊ยม

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...