สุดท้ายเขาก็พยักหน้า เลียนแบบพี่ใหญ่ ลูบหัวซูหว่านเบาๆ
“ขอบคุณนะหวานหว่าน!”
ซูหว่านไม่ได้ทำเรื่องเหล่านี้เพียงเพื่อหวังจะเอาชนะใจพวกเขาเท่านั้น นางโหยหาความรักความผูกพันในครอบครัวอย่างแท้จริง ดังนั้นทุกสิ่งที่นางทำล้วนมาจากใจจริง
อาจเป็นเพราะร่างกายนี้มีสายเลือดเดียวกันกับพวกเขา นางจึงไม่อาจละเลยความรู้สึกสนิทสนมนี้ได้
ซูเฉินรู้ขนาดรองเท้าของพี่น้องแต่ละคน เจ้าของร้านก็หารองเท้าให้ทีละคู่ รองเท้าทรงยาวเตรียมไว้สำหรับพี่ใหญ่ เสื้อคลุมยาวต้องใส่คู่กับรองเท้าแบบนี้ถึงจะดูดี
รองเท้าของพี่ใหญ่ก็วางไว้ที่นี่ก่อน พอถึงเวลาจะมารับชุด ก็ค่อยเอาไปส่งที่สำนักศึกษาพร้อมกันเลย
รวมแล้วใช้เงินไปเกือบเจ็ดตำลึงเงิน เหลืออยู่สิบหกกว่าตำลึงเงิน ยังมีของอีกมากมายที่ต้องซื้ออีก
นางซื้อแป้งสาลีมาอีกยี่สิบชั่ง ครั้งนี้น้ำมันเมล็ดซิ่งซื้อมาถึงยี่สิบชั่งเลย ซื้อหมูสามชั้นสดสามชั่งและซี่โครงหมูสามชั่ง
ต่อไปจะใช้น้ำมันเมล็ดซิ่งแทนน้ำมันหมู ซึ่งราคาใกล้เคียงกัน แต่น้ำมันเมล็ดซิ่งจะดีกว่าน้ำมันหมู
จากนั้นก็ไปซื้อดอกไม้แห้งกลับมาอีกเล็กน้อย ตอนนี้ไม่มีแหล่งดอกไม้สด การทำสบู่สระผมต้องมีกลิ่นหอมถึงจะขายดี ก็เลยใช้วิธีง่ายๆ ตรงไปตรงมา คือไปซื้อเครื่องหอมมาบดเป็นผงแล้วผสมลงในสบู่
แล้วก็ต้องซื้อกระดาษไขสำหรับห่อด้วย
แค่ช่วงเช้าก็ใช้เงินไปสิบตำลึงเงินแล้ว ตอนนี้เหลืออยู่สิบสามตำลึงเงิน เมื่อรวมกับสองตำลึงเงินที่มีอยู่เดิม ก็รวมเป็นสิบห้าตำลึงเงิน
ซูเฉินก็รับบทเป็นคนแบกหามอย่างเต็มใจ ทำงานโดยไม่ปริปากบ่นเลย
จริงสิ! นางยังรับปากเจียงอวี้ว่าจะซื้อไก่กลับไปกินด้วยนี่นา แต่จะไปหาซื้อไก่ได้ที่ไหนกันล่ะเนี่ย?
กำลังคิดจะถามว่าจะหาซื้อไก่ได้จากที่ไหน แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกนางจากด้านหลัง
“พี่สาว! พี่สาว!”
ซูหว่านหันกลับไปมอง เด็กผู้หญิงที่เรียกนางดูคุ้นตามาก พอนึกดูดีๆ ก็จำได้ว่า เป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวกับที่มาขายลูกเจี๊ยบกับหญิงชราเมื่อครั้งก่อน
“เจ้าเองหรือ วันนี้เจ้ากับท่านยายมาขายลูกเจี๊ยบที่ตลาดอีกแล้วหรือ?” ซูหว่านก้มตัวลงพูดคุยกับนาง
เด็กหญิงส่ายหน้า
“เปล่าเจ้าค่ะ ลูกเจี๊ยบขายหมดแล้ว วันนี้ข้ามากับท่านย่าเพื่อซื้อยาเจ้าค่ะ!”
“ไปที่จีซ่านถังงั้นหรือ?” ซูหว่านเอ่ยถาม
เด็กหญิงพยักหน้าต่อไป เช่นนั้นก็ดีเลยสิ นางก็กำลังจะไปจีซ่านถังเหมือนกัน เพื่อเอารองเท้าไปให้พี่รอง
“พอดีเลย ข้าเองก็จะไปจีซ่านถังเหมือนกัน เราไปพร้อมกันได้เลย!”
หญิงชรามองไม่เห็น แต่มีหลานสาวคอยช่วยพยุงอยู่
“เจ้าคือ…เด็กสาวที่เคยซื้อลูกเจี๊ยบจากข้าใช่หรือไม่?” นางจำเสียงของซูหว่านได้
“ดีเลย ขอบคุณนะหวานหว่าน!” เขาไม่ได้พูดอะไรมาก รับมาอย่างไม่อิดออด วางไว้ในมือแล้วลูบๆ ผิวสัมผัสดีมากเลย
“เจ้ารู้ขนาดรองเท้าของข้าได้อย่างไร?”
“ข้าไม่รู้หรอกเจ้าค่ะ แต่พี่สามรู้!” ซูหว่านเลิกคิ้วมองซูเฉิน ซูเฉินก็หัวเราะตาม
“จริงสิ ดวงตาของเขาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” ซูมู่ไม่ลืมที่จะถามถึงเจียงอวี้ แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อของเจียงอวี้ออกมา
“ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากเจ้าค่ะ แต่ก็ยังมองเห็นไม่ค่อยชัด” ซูหว่านตอบตามตรง
ซูมู่ได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว คิดในใจว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ตาของเขาไม่ได้สาหัสมาก ตามหลักแล้วตอนนี้ก็น่าจะมองเห็นชัดแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าลองใช้น้ำยาสมุนไพรทำความสะอาดตาให้เขาอีกสักสองวันนะ ถ้ายังไม่ได้ผล ข้าจะขอลาพักกลับไปดูอาการเขาด้วยตัวเอง!"
เขาเป็นผู้ป่วยคนแรกของเขา เขาย่อมให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
พอยายไช่ได้ยามาแล้ว ก็ถามซูหว่านว่าจะกลับบ้านเลยหรือไม่ ซูหว่านบอกว่ายังอยากจะไปซื้อไก่อีกสองตัว แต่ไม่รู้ว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน
ยายไช่ที่ได้ยินดังนั้นก็รีบพูดว่า
“จะซื้อไก่ก็มาหาข้าสิ ข้าจะลดราคาให้ด้วย ที่อื่นชั่งละสิบสองอีแปะ ข้าขายให้เจ้าสิบอีแปะ ไก่บ้านที่ข้าเลี้ยงเอง เนื้ออร่อยเชียวล่ะ!”
เช่นนั้นก็ดีเลยสิ ประหยัดได้ตั้งหลายอีแปะ จริงๆ แล้วไก่ในสมัยโบราณไม่ได้เลี้ยงด้วยอาหารสัตว์อยู่แล้ว แต่ไก่ที่ปล่อยเลี้ยงตามชนบท เนื้อน่าจะอร่อยกว่า

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...