เมื่อเจ้าอาวาสกล่าวเช่นนั้น เจียงอวี้และซูหว่านก็สบตากัน ซูหว่านเชื่อว่าหากนางเสียชีวิตไปก่อน เจียงอวี้จะตามนางไปโดยไม่ลังเล
แต่ถ้าอายุสักเจ็ดสิบแปดสิบปี ก็ยังพอว่า ถ้าเกิดตายก่อนวัยอันควรล่ะ นางอาจจะทำใจไม่ได้
เอ๊ย ไม่ๆๆ นางคิดอะไรอยู่ เจียงอวี้จะไม่ตายก่อนวัยอันควร พวกเขาทั้งสองจะต้องอายุยืนยาว
ทั้งสองต่างเข้าใจกันโดยปริยาย เจ้าอาวาสพูดเช่นนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าถูกล่วงละเมิด เจียงอวี้กุมมือซูหว่านประสานนิ้วเข้าด้วยกัน แล้วทั้งสองก็คำนับเจ้าอาวาสพร้อมกัน
“ขอบพระคุณไต้ซือที่ชี้แนะ”
เมื่อคนทั้งสี่เดินออกจากพระอุโบสถ ซูจิ่งจึงเอ่ยกับคนทั้งสองว่า “คำพูดของเจ้าอาวาสเมื่อครู่นี้ พวกเจ้าฟังหูไว้หูก็พอ อย่าเก็บมาคิดจริงจังเลยนะ!”
อาจเป็นเพราะซูจิ่งเชื่อเพียงพรหมลิขิตในชาตินี้ สนใจแค่ชาตินี้ ไม่มองชาติหน้า!
เรื่องแบบนี้ หากเป็นคนอื่นก็คงแค่ฟังผ่านๆ น้อยคนนักที่จะเชื่ออย่างจริงจัง
ยิ่งไปกว่านั้น ความรักมั่นคงตราบชั่วฟ้าดินสลายแบบนี้ ก็มีให้เห็นน้อยนักบนโลกใบนี้
ทว่า ซูหว่านจะไม่เชื่อก็คงไม่ได้ เจ้าอาวาสผู้นี้มีความสามารถจริงๆ ดังนั้นสิ่งที่เขาพูดจึงมีความน่าเชื่อถือสูง
ส่วนเจียงอวี้นั้นเชื่ออย่างสนิทใจ เขากุมมือของซูหว่านแน่นขึ้น
เมื่อเดินไปถึงขั้นบันได ซูหว่านก็สะบัดมือออก เพราะนางต้องการกลับไปสอบถามให้แน่ใจอีกครั้ง
เจียงอวี้เห็นดังนั้น จึงมองนางด้วยความรู้สึกสับสน “หวานหว่าน เป็นอะไรไป”
ซูจิ่งและเสิ่นชิงหลีก็มองนางด้วยความงุนงง
“ข้ามีเรื่องต้องถามท่านเจ้าอาวาสอีกสักหน่อย พวกท่านรอข้าอยู่ที่นี่นะ ไม่ต้องตามมา”
พูดแล้ว ซูหว่านก็ยกกระโปรงวิ่งกลับไป
แม้จะไม่รู้ว่าซูหว่านเป็นอะไรไป มีเรื่องใดที่อยากจะถามอีก แต่พวกเขาก็เคารพการตัดสินใจของนาง
เจียงอวี้รู้ว่าซูหว่านมีความลับ เป็นความลับที่เปิดเผยไม่ได้ แต่เขายินดีที่จะปกป้องนาง รวมถึงปกป้องความลับของนางด้วย
ทั้งสามคนจึงรออยู่ด้านล่าง ไม่มีใครตามขึ้นไป
ดูเหมือนเจ้าอาวาสจะรู้ว่าซูหว่านจะกลับมา จึงยังรออยู่ในพระอุโบสถไม่ได้ไปไหน
ซูหว่านวิ่งกลับมา หายใจหอบเล็กน้อย เจ้าอาวาสมองนางด้วยความเมตตา
“สีกายังมีเรื่องใดอยากถามอีกหรือ”
ซูหว่านสงบสติอารมณ์ลง แล้วทำความเคารพต่อเจ้าอาวาส

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...