ส่วนชายชราก็กลับไปเฝ้าประตูแล้ว พอซูจิ่งออกมาก็รีบรับของจากมือนางทันที
“หวานหว่านเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? แถมยังเอาของมาเยอะขนาดนี้?”
เขาพานางไปนั่งที่ศาลาซึ่ง เป็นที่สำหรับบัณฑิตของสำนักศึกษาใช้พบปะญาติ
“ช่วงนี้ข้ากับพี่สี่และคนอื่น ๆ ทำสบู่ขายได้เงินมาเยอะเลย ก็เลยซื้อผ้ามาทำชุดใหม่ให้พี่สองชุด ทำตามแบบชุดที่พี่ใส่อยู่เลยเจ้าค่ะ อากาศมันหนาวแล้วมิใช่หรือ? สำนักศึกษาไม่เหมือนที่บ้าน พี่เรียนก็เหนื่อย ช่วงนี้ห้ามเป็นหวัดเด็ดขาด ไม่งั้นจะเสียเวลาทบทวนบทเรียนนะเจ้าคะ
มาที่ตัวอำเภอคราวนี้ ข้าน่ะหาเงินได้ตั้งห้าสิบสี่ตำลึงเต็ม ๆ ก็เลยทำชุดฤดูหนาวให้ตัวเองและพี่ชายทุกคนคนละสองชุด เตรียมพร้อมรับลมหนาวอย่างสนุกสนานแล้วเจ้าค่ะ!”
ซูหว่านอธิบายไปยิ้มไป ดวงตาเป็นประกายเหมือนมีดวงดาวอยู่ในนั้น ฟังแล้วใจของซูจิ่งก็รู้สึกเหมือนถูกอะไรบางอย่างมาเติมเต็มจนแน่นไปหมด
“หวานหว่านเก่งจริง ๆ เลย แต่เจ้าจะสิ้นเปลืองเงินไปทำไมกัน? พี่ใหญ่ก็มีชุดใส่อยู่แล้ว ยังต้องให้น้องสาวอย่างเจ้ามาเป็นห่วงอีกหรือ เจ้าสามกับคนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน ไม่รู้จักห้ามปรามเจ้าบ้างเลยหรืออย่างไร เจ้าเก็บเงินไว้เป็นสินสอดจะไม่ดีกว่าหรือ?”
ดูสิ ซูจิ่งก็พูดเหมือนกับพี่ชายคนอื่น ๆ เลย
ตัดชุดสองชุดก็หลายตำลึงแล้ว ในหนึ่งปีครอบครัวของพวกเขาหาเงินได้ไม่มากนัก แถมยังต้องเอาไปจุนเจือครอบครัวอีก
“ข้าไม่ชอบฟังคำพูดแบบนี้ของพี่ใหญ่เลย หรือว่าในอนาคตถ้าท่านประสบความสำเร็จในการสอบขุนนาง ก็จะไม่เตรียมสินสอดไว้ให้ข้าเจ้าคะ?” ซูหว่านกล่าวอย่างงอน ๆ
“แน่นอนว่าต้องเตรียมให้อยู่แล้ว เจ้าคือน้องสาวคนเดียวของบ้านเรา ถ้าพวกเราที่เป็นพี่ชายไม่เตรียมสินสอดให้เจ้า แล้วจะให้ใครเตรียมให้กันเล่า?”
ซูหว่านได้ยินซูจิ่งบอกว่านางคือน้องสาวเพียงคนเดียวก็ดีใจ และรีบถามต่อว่า
“ข้าเป็นน้องสาวคนเดียวของพี่ แล้วกู้เย่ว์เล่า?”
เมื่อพูดถึงกู้เย่ว์ รอยยิ้มของซูจิ่งก็หม่นลงเล็กน้อย กู้เย่ว์นับตั้งแต่กลับจากชนบทเมื่อครั้งที่แล้วก็ไม่มีข่าวคราวอีกเลย คาดว่าพ่อแม่แท้ ๆ คงตามใจ และยุ่งอยู่กับการสร้างความสัมพันธ์ จนไม่มีเวลาคิดถึงพวกเขาแล้ว
“ตอนนี้นางไม่ได้ขาดคนรักใคร่เสียหน่อย อีกทั้งฮูหยินกู้ก็รักและทะนุถนอมนางราวกับไข่มุกล้ำค่า วันข้างหน้าคงไม่ทำให้นางต้องลำบากหรอก แต่เจ้าไม่เหมือนกัน ตอนนี้เจ้าก็เหลือแค่พวกเราที่เป็นพี่ชายให้พึ่งพาแล้วนะ!”
ยังคงเป็นพี่ใหญ่ที่ดีที่สุด เขาเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างถ่องแท้ ซูหว่านก็ไม่ถือว่าเสียความจริงใจไปเปล่า ๆ แล้ว
“ร้านตัดชุดตัดให้ตามขนาดตัวของท่านเลยเจ้าค่ะ นี่ก็ซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาให้ท่านด้วย ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่จะชอบหรือไม่ แต่อย่างไรก็ซื้อมาแล้ว ถึงไม่อยากใส่ก็ต้องใส่แล้วเจ้าค่ะ
แล้วก็เกี๊ยวเปี่ยนสือร้านสวีจี้อันนี้ ข้าแวะซื้อระหว่างทาง กินกับพวกพี่ชายมาแล้วหนึ่งชุด อร่อยมากเลยเจ้าค่ะ!”
เกี๊ยวเปี่ยนสือก็คือเกี๊ยวนึ่งนั่นแหละ เพียงแต่ข้างในเป็นไส้กุยช่ายกับไข่ เพราะเนื้อสัตว์มันแพงนั่นเอง!
“แล้วก็กระดาษพวกนี้ ซื้อมาให้พี่ใหญ่ใช้เขียนบทความเจ้าค่ะ ตอนอยู่ที่บ้านเห็นหมึกของพี่ก็ใกล้จะหมดแล้ว ก็เลยซื้อแท่งหมึกแท่งใหม่มาให้พี่อีกแท่งด้วย!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...