เจียงอวี้พยักหน้า แล้วชี้ไปที่ปลายจมูกของตัวเองเพื่อบอกนาง รอยยิ้มที่มุมปากก็ยิ่งชัดเจนขึ้น
ซูหว่านเผลอเช็ดจมูก ผลก็คือยิ่งเช็ดก็ยิ่งเลอะ แป้งติดจมูกเพิ่มขึ้น จมูกและรอบปากขาวไปหมด
ซูอวิ๋นมองนางแล้วหัวเราะลั่น
“หวานหว่าน เจ้าเหมือนนักแสดงงิ้วเลย!”
พี่สามซูเฉินกับพี่ห้าซูอี้ก็หัวเราะอย่างเงียบ ๆ ซูหว่านเลยเม้มปาก พลางคิดในใจว่า ช่างเถอะ อยู่ในสภาพนี้ไปก่อนก็แล้วกัน!
เมื่อนวดแป้งก้อนแรกเสร็จแล้ว นางก็สอนซูอวิ๋นให้นวดแป้งให้บาง แล้วยื่นไม้นวดแป้งให้เขา เพื่อให้เขาลงมือทำเอง
แป้งที่นวดจนเนียนนุ่มถูกย้อมเป็นสีเหลืองอ่อนด้วยไข่แดง นางยืนดูอยู่ข้าง ๆ เมื่อรู้สึกว่าใกล้ได้ที่แล้วก็สั่งให้หยุด แล้วจึงสอนเขาให้หั่นเป็นเส้นเล็ก ๆ
หลังจากนั้นก็เป็นการเคี่ยวน้ำตาล ไฟต้องไม่แรงจนเกินไป มิเช่นนั้นน้ำตาลจะไหม้และมีรสขม
เจียงอวี้ก็เอาแต่โยนฟืนเข้าเตาจนไฟลุกโชน นี่มันใช้ไม่ได้
“เจียงอวี้ ทำให้ไฟเบาลงหน่อย!”
เจียงอวี้ได้ยินดังนั้น ก็เชื่อฟัง ดึงฟืนออกไปสองสามท่อน
“ไม่! ต้องเบาลงกว่านี้อีก!”
เขาดึงออกไปอีกสองท่อน แต่ไฟก็ยังแรงอยู่ดี ไฟลุกเต็มเตาเลย
ซูหว่านปัดแป้งออกจากมือ แล้วเดินเข้ามา ก้มตัวลงจัดการเอง
ทันทีที่นางก้มตัวลง กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวนางก็โชยมา เป็นกลิ่นของดอกฝูหรง
ตอนที่ซูหว่านซื้อเครื่องหอม นางก็ได้ซื้อถุงหอมดอกฝูหรงสองถุงมาด้วย แล้วนำไปใส่ในตู้เสื้อผ้าเพื่ออบร่ำชุดให้หอม เพียงไม่กี่วันเสื้อผ้าของนางก็มีกลิ่นหอมของดอกฝูหรง กลิ่นหอมสะอาดยิ่งนัก
เจียงอวี้เองก็ชื่นชอบดอกฝูหรงมากที่สุด ดังนั้นเมื่อกลิ่นหอมนี้โชยมา เขาก็รู้สึกวูบไหวในใจอย่างกะทันหัน
จากมุมที่เขามองเห็น เปลวไฟสะท้อนใบหน้าของหญิงสาวจนเป็นสีเหลืองนวล ใบหูเล็กจิ้มลิ้มและแดงระเรื่อ ด้านหลังใบหูมีไฝแดงเม็ดเล็ก ๆ ไม่รู้เพราะเหตุใด สิ่งนี้กลับทำให้นางดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจอยู่หลายส่วน
เจียงอวี้รีบส่ายหัว ตำหนิตัวเองว่าคิดอะไรแบบนี้ได้อย่างไร นางยังเด็กนัก จะไปมีเสน่ห์ดึงดูดใจได้อย่างไร
ซูหว่านลุกขึ้นยืน บังเอิญเห็นเขาส่ายหน้าพอดี จึงเอ่ยถามว่าเขาเป็นอะไรไป
“ท่านเป็นอะไรไปหรือ ไม่สบายอีกแล้วหรือเจ้าคะ?”
"เปล่า... อาจเป็นเพราะไฟแรงเกินไป ใบหน้าเลยรู้สึกร้อนผ่าว!" เจียงอวี้ก้มหน้าอธิบาย ขนตายาวงอนทอดต่ำลง
ขั้นตอนสุดท้ายคือการขึ้นรูป ใช้ไม้นวดแป้งกดขนมข้าวซอยตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม แล้วใช้มีดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
"ตอนใช้มีดหั่น ก็ต้องให้คมอยู่เสมอ ต้องเช็ดคราบน้ำบนมีดให้สะอาดหมดจด มิเช่นนั้นมันจะติดกัน แล้วจะหั่นได้ไม่ดี"
"เรียบร้อยแล้ว ทำเสร็จแล้ว ทุกคนลองชิมกันดูนะ ง่าย ๆ แค่นี้เอง!”
ซูหว่านหั่นขนมข้าวซอยตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ขนมข้าวซอยตัดสีทองมีงาดำ พุทราแดงหั่นเต๋า และองุ่นแห้งโรยหน้า ดูน่ากินเป็นพิเศษ ชวนให้น้ำลายสอ
งาดำที่คั่วแล้ว จะหอมเป็นพิเศษ
ขนมข้าวซอยตัดที่เพิ่งออกจากกระทะร้อน ๆ เป็นช่วงที่อ่อนนุ่มหอมหวานที่สุด พอเย็นลงก็จะแข็งขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อรสชาติ
ทุกคนหยิบกันคนละชิ้นมาลองชิม เพิ่งออกจากกระทะก็จะติดมือเล็กน้อย แต่แค่ได้กลิ่นก็หอมแล้ว
ซูอวิ๋นเป็นคนแรกที่ลองชิม ไม่เหมือนขนมโก๋ถั่วเขียวที่เขาเคยกินมา แม้ขนมโก๋ถั่วเขียวจะนุ่ม แต่รสชาติก็ไม่เข้มข้นเท่านี้
ความหวานกำลังดี ความนุ่มกำลังดี หัวใจสำคัญอยู่ที่ส่วนผสมเล็กๆ อยู่ด้านใน ทั้งความหอมของงาดำคั่ว รสเปรี้ยวอมหวานขององุ่นแห้ง พุทราแดงไม่หวานมาก แต่พุทราแดงแห้งที่เอาเมล็ดออกแล้วก็จะอร่อยเป็นพิเศษ
ซูอวิ๋นจัดการกินไปหนึ่งชิ้นอย่างรวดเร็ว พลางยกนิ้วโป้งให้
“อร่อยมาก อร่อยกว่าขนมโก๋ถั่วเขียวกับขนมงาเยอะเลย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...