เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 74

ซูหว่านคิดในใจว่า แน่นอนสิ ขนมข้าวซอยตัดในยุคสมัยใหม่เป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่ประชาชนระดับรากหญ้า

เรียกได้ว่าเป็นขนมคลาสสิกเลยทีเดียว

“ไม่น่าเชื่อเลยว่าวัตถุดิบธรรมดาๆ กับขั้นตอนการทำที่ง่ายๆ จะสามารถทำขนมที่อร่อยขนาดนี้ออกมาได้ อร่อยกว่าขนมโก๋ถั่วเขียวจริงๆ ด้วย!” ซูอี้กินเสร็จแล้ว ก็เอ่ยปากชมตามสมควร

สำหรับเขา ขนมถั่วเขียวมีรสชาติจืดชืด มีเนื้อสัมผัสเดียว กินแล้วยังฝืดคออีกด้วย

สรุปแล้ว ไม่มีขนมใดที่ทำให้เขาทึ่งได้เท่าขนมข้าวซอยตัดเลย

ส่วนซูเฉินนั้น เขาก็แค่บอกว่า "อร่อย" คำพูดสวยหรูอะไรก็พูดไม่เป็น

ซูหว่านหันไปมองเจียงอวี้ เขาเริ่มกินชิ้นที่สองแล้ว เป็นการกระทำที่พิสูจน์ว่าขนมชิ้นนี้รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว

แต่นางก็ยังอยากจะถามว่า

“เจียงอวี้ ท่านมีความรู้กว้างขวาง ท่านคิดว่าขนมของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

เจียงอวี้เป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองหลวง มีสองฐานะ ของอร่อยที่เขาเคยกินมานั้น มีมากกว่าเส้นทางที่เจ้าเคยเดินเสียอีก

เจียงอวี้เลิกคิ้วขึ้น พลางพินิจขนมข้าวซอยตัดครึ่งชิ้นในมือแล้วเริ่มกล่าวว่า "อย่างที่เจ้าว่า ขนมชิ้นนี้แปลกใหม่นัก ผู้คนไม่เคยเห็นมาก่อน วิธีทำก็ไม่เหมือนใคร ขนมที่ทำด้วยการทอด ข้าเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ข้าเคยกินขนมมาไม่น้อยในเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นขนมเปี๊ยะดอกไม้ ขนมถั่วกวน หรือขนมหลีต๋ากุ่น ล้วนเป็นขนมที่พบเห็นได้ทั่วไป และเป็นที่ชื่นชอบของสามัญชนคนธรรมดา

ยังมีขนมดอกท้อ ขนมรากบัว ขนมซานเย่าไส้พุทรา และขนมเซี่ยเฝิ่นซู ขนมชาววังเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่ชื่นชอบของขุนนางและพ่อค้า ซึ่งทำออกมาได้วิจิตรและอร่อยเลิศรส แต่มันมีอยู่แค่ในเมืองหลวง และขนมที่ข้าพูดถึงก็เป็นเพียงขนมที่มีชื่อเสียงบางส่วนเท่านั้น

อำเภอชิงเหอแม้จะไม่นับว่ายากจน แต่ก็ไม่ใช่อำเภอที่ร่ำรวยอะไร สิ่งที่ชาวบ้านต้องการก็คือขนมที่ทุกคนชื่นชอบและสามารถหาซื้อได้ ขนมข้าวซอยตัดนี้ก็ค่อนข้างตอบโจทย์ความต้องการของชาวบ้าน ขอเพียงตั้งราคาให้เหมาะสม ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีผู้ใดมาอุดหนุน!”

คำวิจารณ์ของเขานั้นเป็นกลาง ครอบคลุมทุกประเด็นแล้ว

“ท่านพูดถูกเจ้าค่ะ ตราบใดที่ราคาเหมาะสม ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครมาอุดหนุน!” ซูหว่านยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย

“ก็มีแต่พวกคนมีการศึกษาอย่างพวกท่านนั่นแหละที่พูดจาเก่ง" ซูเฉินยิ้มออกมาอย่างซื่อ ๆ เผยให้เห็นฟันขาวซี่ใหญ่ ดูเรียบง่ายและจริงใจเป็นอย่างยิ่ง

"เจียงอวี้ ท่านมาจากเมืองหลวงงั้นหรือ? แล้วบ้านท่านทำอาชีพอะไรหรือ?"

ซูอวิ๋นพอได้ยินว่าเจียงอวี้มาจากเมืองหลวง ก็แสดงท่าทีอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก

เขานั้นใฝ่ฝันถึงโลกที่กว้างใหญ่กว่า และอยากเห็นความรุ่งเรืองของเมืองหลวงเช่นกัน เมื่อได้ยินว่าเจียงอวี้มาจากเมืองหลวง เขาก็เลยอยากถามเรื่องสถานที่ที่มีของกินอร่อยกับสถานที่ที่น่าเที่ยวในเมืองหลวง และเรื่องราวแปลกใหม่ที่น่าสนใจต่างๆ

เจียงอวี้พยักหน้า แล้วอธิบายว่า

ครึ่งแรกเป็นเรื่องจริง ส่วนครึ่งหลังจริงบ้างเท็จบ้างจนแยกไม่ออก

แต่ก็เพียงพอที่จะโน้มน้าวซูเฉินได้แล้ว

ส่วนซูอวิ๋นที่เป็นคนไม่ละเอียดอ่อน ความสนใจของเขาไม่ได้อยู่ที่เรื่องนี้เลย จะไปสนทำไมว่าเจียงอวี้จะพูดจริงหรือเท็จ?

มีเพียงซูอี้ที่ยังคงยิ้มแย้ม แม้จะไม่ได้พูดแทรกอะไร แต่แค่เห็นแววตาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังจงใจปกปิดฐานะไว้อยู่

เขามองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่แค่ไม่พูดออกไปก็เท่านั้น

ซูหว่านเองก็รู้ว่าเจียงอวี้มีฐานะไม่ธรรมดา เขาไม่ชอบให้คนอื่นซักถามมากนัก และเขาก็ไม่มีหน้าที่ต้องบอกเรื่องเหล่านี้กับพวกเรา ดังนั้นนางจึงพูดเปลี่ยนเรื่อง

“เอาล่ะ อย่าถามเรื่องครอบครัวของเจียงอวี้อีกเลย พวกเรากลับมาคุยเรื่องขนมข้าวซอยตัดกันต่อดีกว่า!”

“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเราต้องคิดว่าจะหาเงินยังไงก่อน พอมีเวลาแล้ว เจียงอวี้ท่านค่อยเล่าเรื่องสนุกๆ ในเมืองหลวงให้ข้าฟังทีนะ ได้ไหม?” ซูอวิ๋นมองเจียงอวี้อย่างคาดหวัง พร้อมทั้งขยิบตาให้เขา

เจียงอวี้ยิ้มและตอบตกลง ดูท่าเจ้าหมอนี่จะลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ยังแข่งกับเขาอยู่เลย อีกทั้งยังคอยพูดจาเสียดสีเขาอยู่ทุกวัน เพราะเห็นเขาคุยเล่นกับซูหว่าน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม