ซูหว่านคิดในใจว่า แน่นอนสิ ขนมข้าวซอยตัดในยุคสมัยใหม่เป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่ประชาชนระดับรากหญ้า
เรียกได้ว่าเป็นขนมคลาสสิกเลยทีเดียว
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าวัตถุดิบธรรมดาๆ กับขั้นตอนการทำที่ง่ายๆ จะสามารถทำขนมที่อร่อยขนาดนี้ออกมาได้ อร่อยกว่าขนมโก๋ถั่วเขียวจริงๆ ด้วย!” ซูอี้กินเสร็จแล้ว ก็เอ่ยปากชมตามสมควร
สำหรับเขา ขนมถั่วเขียวมีรสชาติจืดชืด มีเนื้อสัมผัสเดียว กินแล้วยังฝืดคออีกด้วย
สรุปแล้ว ไม่มีขนมใดที่ทำให้เขาทึ่งได้เท่าขนมข้าวซอยตัดเลย
ส่วนซูเฉินนั้น เขาก็แค่บอกว่า "อร่อย" คำพูดสวยหรูอะไรก็พูดไม่เป็น
ซูหว่านหันไปมองเจียงอวี้ เขาเริ่มกินชิ้นที่สองแล้ว เป็นการกระทำที่พิสูจน์ว่าขนมชิ้นนี้รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว
แต่นางก็ยังอยากจะถามว่า
“เจียงอวี้ ท่านมีความรู้กว้างขวาง ท่านคิดว่าขนมของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
เจียงอวี้เป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองหลวง มีสองฐานะ ของอร่อยที่เขาเคยกินมานั้น มีมากกว่าเส้นทางที่เจ้าเคยเดินเสียอีก
เจียงอวี้เลิกคิ้วขึ้น พลางพินิจขนมข้าวซอยตัดครึ่งชิ้นในมือแล้วเริ่มกล่าวว่า "อย่างที่เจ้าว่า ขนมชิ้นนี้แปลกใหม่นัก ผู้คนไม่เคยเห็นมาก่อน วิธีทำก็ไม่เหมือนใคร ขนมที่ทำด้วยการทอด ข้าเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ข้าเคยกินขนมมาไม่น้อยในเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นขนมเปี๊ยะดอกไม้ ขนมถั่วกวน หรือขนมหลีต๋ากุ่น ล้วนเป็นขนมที่พบเห็นได้ทั่วไป และเป็นที่ชื่นชอบของสามัญชนคนธรรมดา
ยังมีขนมดอกท้อ ขนมรากบัว ขนมซานเย่าไส้พุทรา และขนมเซี่ยเฝิ่นซู ขนมชาววังเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่ชื่นชอบของขุนนางและพ่อค้า ซึ่งทำออกมาได้วิจิตรและอร่อยเลิศรส แต่มันมีอยู่แค่ในเมืองหลวง และขนมที่ข้าพูดถึงก็เป็นเพียงขนมที่มีชื่อเสียงบางส่วนเท่านั้น
อำเภอชิงเหอแม้จะไม่นับว่ายากจน แต่ก็ไม่ใช่อำเภอที่ร่ำรวยอะไร สิ่งที่ชาวบ้านต้องการก็คือขนมที่ทุกคนชื่นชอบและสามารถหาซื้อได้ ขนมข้าวซอยตัดนี้ก็ค่อนข้างตอบโจทย์ความต้องการของชาวบ้าน ขอเพียงตั้งราคาให้เหมาะสม ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีผู้ใดมาอุดหนุน!”
คำวิจารณ์ของเขานั้นเป็นกลาง ครอบคลุมทุกประเด็นแล้ว
“ท่านพูดถูกเจ้าค่ะ ตราบใดที่ราคาเหมาะสม ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครมาอุดหนุน!” ซูหว่านยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย
“ก็มีแต่พวกคนมีการศึกษาอย่างพวกท่านนั่นแหละที่พูดจาเก่ง" ซูเฉินยิ้มออกมาอย่างซื่อ ๆ เผยให้เห็นฟันขาวซี่ใหญ่ ดูเรียบง่ายและจริงใจเป็นอย่างยิ่ง
"เจียงอวี้ ท่านมาจากเมืองหลวงงั้นหรือ? แล้วบ้านท่านทำอาชีพอะไรหรือ?"
ซูอวิ๋นพอได้ยินว่าเจียงอวี้มาจากเมืองหลวง ก็แสดงท่าทีอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก
เขานั้นใฝ่ฝันถึงโลกที่กว้างใหญ่กว่า และอยากเห็นความรุ่งเรืองของเมืองหลวงเช่นกัน เมื่อได้ยินว่าเจียงอวี้มาจากเมืองหลวง เขาก็เลยอยากถามเรื่องสถานที่ที่มีของกินอร่อยกับสถานที่ที่น่าเที่ยวในเมืองหลวง และเรื่องราวแปลกใหม่ที่น่าสนใจต่างๆ
เจียงอวี้พยักหน้า แล้วอธิบายว่า


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...