เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 75

“ข้าคิดอย่างนี้ ตามต้นทุนวัตถุดิบที่เราซื้อมานั้น ราคาคงตั้งให้ต่ำเกินไปไม่ได้ ต้องมีกำไร หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องไม่ขาดทุน เรื่องนี้ข้าจะลองคิดดูให้ดีก่อนแล้วค่อยมาบอกพวกท่าน

ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกสองเดือนกว่าจะถึงวันตรุษจีน เราสามารถแบ่งกำลังเป็นหลายสายได้ ด้านหนึ่งให้นำไปขายที่ตลาด อีกด้านหนึ่งให้นำไปเร่ขายตามหมู่บ้านใกล้เคียง เราจะทำธุรกิจกับคนในเมืองอย่างเดียวไม่ได้ คนชนบทก็ต้องให้พวกเขารู้จักขนมข้าวซอยตัดนี้ด้วย รอจนกว่าตลาดใหญ่ช่วงตรุษจีนจะเปิด เมื่อทุกคนพากันหลั่งไหลไปซื้อของเตรียมงานตรุษจีนที่ตัวอำเภอ เราค่อยนำขนมข้าวซอยตัดไปขายรวมกันที่ตลาด"

ขั้นแรกให้เราไปเร่ขายตามหมู่บ้านและตำบลต่าง ๆ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักก่อน ให้หมู่บ้านละแวกอำเภอชิงเหอแถบนี้ได้รู้จักว่ามีขนมข้าวซอยตัดนี้อยู่

ไปแค่ครั้งเดียวก็พอ ถ้าไปบ่อยเกินไป คนเขาจะกินจนรู้สึกเบื่อแล้วก็จะไม่รู้สึกแปลกใหม่อีก พอถึงเวลาที่เราเอาขายที่ตลาด เมื่อพวกเขาไปตลาดแล้วเห็นว่ามีขาย คนที่อยากกิน คนที่ชอบกิน เขาจะยังห้ามปากตัวเองได้อยู่อีกหรือ?

ก็ไม่ใช่ของที่แพงอะไรเป็นพิเศษ ทุกคนกินได้ ช่วงตรุษจีนก็แค่อยากได้ความครึกครื้นก็เท่านั้น!

“หาบของไปขายที่หมู่บ้านอื่นหรือ?” ซูเฉินได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้วถาม

ซูหว่านพยักหน้า

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ถึงตอนนั้นพี่สามก็ต้องลำบากสักสองสามวันนะเจ้าคะ ท่านแรงเยอะก็ให้ท่านหาบไปขาย พอได้เงินมาก็จะแบ่งส่วนหนึ่งให้ท่านเก็บไว้เป็นเงินส่วนตัว!”

ซูเฉินไม่ได้ไม่เต็มใจหรอก แต่หลักๆ แล้วเขาเป็นคนพูดน้อย ถ้าพูดแบบสมัยใหม่ก็คือ เป็นคนกลัวการเข้าสังคม ถ้าให้เขาไปตะโกนขายของ นั่นคงจะทำให้เขาลำบากใจอยู่บ้าง

"เรื่องเงินข้าไม่ติดอะไร เพราะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เพียงแต่ข้าจะทำได้หรือ? ข้าตะโกนเรียกลูกค้าไม่เป็น กลัวว่าไปแล้วจะขายไม่ออก!"

ซูหว่านรู้ถึงความกังวลของเขา แต่คนเราต้องกล้าก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง นางจึงปลอบใจเขาว่า

"ไม่ต้องกังวลหรอกพี่สาม พวกเราก็แค่ทำหน้าหนาๆ หน่อย พอไปถึงหมู่บ้านอื่น ก็เอาไปตั้งไว้ที่คนเยอะๆ ไม่ต้องให้พี่ตะโกนหรอก หมู่บ้านไหนจะไม่มีป้าๆ ช่างเจรจาบ้างล่ะ ก็เหมือนกับป้าๆ ช่างพูดช่างคุยข้างบ่อน้ำในหมู่บ้านเรานั่นแหละ ไม่ต้องให้พี่พูด พวกเขาก็จะเข้ามาถามเอง ถึงตอนนั้นเดี๋ยวข้าเตรียมขนมข้าวซอยตัดให้พี่เอาไปให้ลูกค้าชิม พี่ก็แค่ให้พวกเขาชิมดู ชอบก็ซื้อ ไม่ชอบก็เดินจากไป พวกเราก็ไม่ได้บังคับใครนี่ ใช่ไหมเล่า?"

“ถ้ายังไม่ไหวอีก พี่ก็เอาหน้ากากของเจียงอวี้มาใส่ บังหน้าไว้ จะได้ไม่เขิน พวกเราหาเงินด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง มีอะไรน่าอายกัน?”

ซูเฉินถูกคำพูดของนางทำให้หัวเราะ ส่วนซูอวิ๋นก็รู้สึกว่าสิ่งที่นางพูดนั้นน่าสนใจดี

“ซูหว่าน เจ้าฉลาดมากเลยนะ เรื่องแบบนี้เจ้ายังคิดขึ้นมาได้”

นั่นไม่ใช่การคุยโวเลย การรู้จักพิจารณาในวัยเพียงเท่านี้ ถือว่าเก่งในการควบคุมใจคนจริงๆ

“เช่นนั้นข้าจะลองดูนะ ถ้าไม่ได้ผล เจ้าห้ามโทษข้านะ!” ซูเฉินเกาหัวเล็กน้อย ดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไร

เจียงอวี้ไม่ได้ล้อเล่น เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ ท่าทางกวนๆ กับใบหน้าของเขา ทำให้ซูหว่านนึกถึงคำว่า 'สุภาพบุรุษจอมปลอม' ขึ้นมา

“ข้ามาอยู่ที่นี่ก็นานแล้ว บาดแผลภายนอกก็หายเกือบหมดแล้ว รบกวนพวกท่านมาก็มาก ถึงเวลาที่ข้าควรจะออกแรงช่วยงานบ้างแล้ว!”

พวกพี่ชายต่างก็มองหน้ากัน ซูหว่านก็ลังเลเล็กน้อย

เจียงอวี้เห็นนางไม่พูด ก็จ้องมองนางด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม

"ข้าไม่คิดค่าแรงด้วยนะ แบบนี้ยังไม่ได้อีกหรือ?”

“ท่านหน้าตายังกับปีศาจเจ้าเสน่ห์ ข้ากลัวว่าถ้าท่านไปแล้วจะทำให้เกิดความวุ่นวาย!” ซูหว่านเอ่ยความรู้สึกที่แท้จริงของตนออกมาโดยไม่ทันคิด

พูดจบ นางก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้

“โอ๊ย ไม่ใช่ๆๆ ข้าหมายถึงท่านหน้าตาดีเกินไป ข้ากลัวว่าท่านจะบดบังรัศมีขนมของข้า ถึงตอนนั้นบรรดาสาวๆ ก็จะมัวแต่จ้องมองท่าน แล้วใครจะมาซื้อขนมข้าวซอยตัดของข้ากันเล่า!" ซูหว่านก้มหน้าก้มตาอธิบายอย่างรู้สึกผิด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม