ซูอวิ๋นเห็นนางกลับมา ก็แสดงความดีใจเป็นพิเศษ ดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างแปลกๆ
เขารีบวิ่งไปรับนาง แสดงความดีใจออกมาอย่างเก็บไว้ไม่อยู่
"เย่ว์เย่ว์ เจ้ากลับมาแล้ว!"
ส่วนซูเฉินและซูอี้ไม่ได้แสดงความตื่นเต้นขนาดนั้น ทั้งสองคนยืนอยู่ข้างซูหว่าน ซูอี้เหลือบมองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของซูหว่าน ซึ่งกำลังจ้องมองไปทางกู้เย่ว์อย่างไม่กะพริบตา
นางรับรู้ได้ว่าพี่ห้ากำลังมองสำรวจตนเองอยู่ จึงจงใจก้มหน้าหลบตา แสดงท่าทางหงอยเหงาออกมา
การประชันกันแบบลับๆแบบนี้ นางจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด หากพยายามมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว แต่สุดท้ายทุกคนก็ยังยืนอยู่ข้างกู้เย่ว์ แล้วนางจะไม่กลายเป็นตัวตลกไปหรอกหรือ?
ซูอี้เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารขึ้นมาจริงๆ คิ้วจึงขมวดเล็กน้อย พลันมองซูอวิ๋นที่กำลังตื่นเต้นอย่างไม่พอใจ
รู้สึกว่าเขาไม่มีไหวพริบเอาเสียเลย
ซูเฉินตบไหล่ซูหว่านเบาๆ แล้วยิ้มให้นาง เป็นการปลอบโยนอย่างเงียบๆ
"ข้าคิดถึงพวกท่านแล้ว ก็เลยกลับมาเยี่ยมเยียนพวกท่าน!"
กู้เย่ว์เดินเข้าไปจับมือซูอวิ๋นแล้วแกว่งไปมา เหมือนกำลังออดอ้อน
ตัวนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใบหน้าเล็กๆ แดงเรื่อเหมือนลูกท้อ ดูแล้วสุขภาพผิวพรรณก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ
ซูอวิ๋นเห็นว่าแม้ตอนนี้นางจะกลับไปเป็นคุณหนูตระกูลกู้แล้ว แต่ก็ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเหมือนเดิม เขาก็เลยรู้สึกดีใจออกมาจากใจจริง
"ข้าก็คิดถึงเจ้ามากเหมือนกันนะ เจ้าอยู่ที่ตระกูลกู้สบายดีหรือไม่?" ซูอวิ๋นถามพลางยิ้ม
กู้เย่ว์พยักหน้าอย่างแรง
"ข้าสบายดีเจ้าค่ะพี่สี่ ท่านพ่อท่านแม่ดูแลข้าดีมาก ทุกคนในบ้านก็ดีกับข้ามากเช่นกัน" นางกล่าวพลางเหลือบมองไปทางซูหว่านโดยไม่รู้ตัว
ในตอนนี้นี่เองที่สายตาของซูหว่านและกู้เย่ว์มาบรรจบกันในที่สุด พวกนางจ้องมองปะทะกันอย่างเงียบเชียบดุจสายฟ้าฟาด
กู้เย่ว์จงใจเชิดหน้าขึ้น มองนางด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง แววตาแฝงความไปด้วยไม่เป็นมิตรที่ยากจะสังเกตเห็น
แต่ซูหว่านก็ไม่ใช่คนธรรมดา ใบหน้าของนางเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดใด ทั้งยังยิ้มให้นางเล็กน้อย และพยักหน้าเป็นการทักทาย
อุปนิสัยที่สงบเยือกเย็นแบบนี้ เมื่อเทียบกับท่าทีที่กู้เย่ว์แสร้งทำขึ้นมาแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่าใครเหนือกว่าใคร
กู้เย่ว์พ่ายแพ้ตั้งแต่ยกแรก นางทำได้แต่เพียงยิ้มตอบกลับไป
ซูอี้แต่เดิมก็เป็นคนที่สนิทกับนางน้อยที่สุดในบ้านอยู่แล้ว เขามีนิสัยค่อนข้างเงียบขรึม พออยู่กับซูอวิ๋น ก็เอาแต่ฟังซูอวิ๋นพูดเจื้อยแจ้วทั้งวัน ทำให้ในสายตาของกู้เย่ว์เห็นแต่ซูอวิ๋นเท่านั้น ไม่ว่าจะไปไหนก็ไปด้วยกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงดีที่สุดแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับความห่างเหินของพี่ห้า กู้เย่ว์ก็ไม่ได้ใส่ใจ ในสายตาของนาง ในบรรดาพี่ชายทั้งหมด มีเพียงพี่ห้าเท่านั้นที่สนิทกับนางน้อยที่สุด เขาจะหักหลังหรือไม่หักหลังก็ไม่มีปัญหาอะไร
"พี่สาวหวานหว่าน ข้าได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานแล้ว!"
กู้เย่ว์เดินเข้ามาพูดกับซูหว่านอย่างกระตือรือร้น แถมยังคล้องแขนนางอีก เปิดปากพูดก็เรียกพี่สาวเลย กลิ่นอายของการเสแสร้งเต็มเปี่ยม
"อย่าเรียกแบบนั้นเลย เราสองคนเกิดวันเดียวกัน ไม่ต้องเรียกใครว่าพี่สาวหรือน้องสาวหรอก ดังนั้นอย่าเรียกข้าว่าพี่สาวเลย เรียกชื่อเฉยๆ ก็พอ"
นางปฏิเสธการมาตีสนิทของนาง ไม่ยอมเล่นไปตามเกมส์ของอีกฝ่าย และค่อยๆ ดึงแขนออกจากแขนของกู้เย่ว์อย่างเงียบๆ และเว้นระยะห่าง
กู้เย่ว์รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย จึงใช้รอยยิ้มซ่อนความรู้สึก
"ก็ได้ จริงๆ แล้วที่ข้ากลับมาในครั้งนี้ ก็เพื่อเอาของกลับมาให้เจ้า เสื้อผ้าเครื่องประดับที่เจ้าทิ้งไว้ที่บ้านไม่ได้เอากลับมานี่เลยสักชิ้น ไม่มีคนใส่ก็น่าเสียดาย ข้าก็เลยบอกท่านแม่ว่าจะเอามาคืนให้เจ้า เห็นว่าอากาศเริ่มเย็นแล้ว เกรงว่าเจ้าจะไม่มีเสื้อผ้าใส่ที่ชนบท ท่านแม่เองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน ก็เลยเก็บของของเจ้าเอาไว้ให้ แล้วให้ข้าเอามาคืนให้เจ้า เดี๋ยวข้าให้คนไปยกมาให้นะ!"
กู้เย่ว์ยังคงยิ้มอยู่ พูดเสียงเล็กเสียงน้อย ดูค่อนข้างจะเสแสร้ง
นางโบกมือเรียกสาวใช้ข้างๆ ให้ไปยกของ แต่กลับถูกซูหว่านห้ามเอาไว้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...