เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 88

คนในครอบครัวนี้เป็นดั่งมังกรในหมู่คน แล้วจะมาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แบบนี้ไปตลอดชีวิตได้อย่างไร?

เจียงอวี้ที่เติบโตมาในหมู่คนฉลาดหลักแหลม มองคนได้แม่นยำมาก ตัวเขาเองก็เป็นคนฉลาดหลักแหลม

ซูหว่านไม่ได้ซักไซ้เขาอีกต่อไป เพราะเมื่อมาถึงตลาด นางก็รีบไปจับจองแผงขายของในทำเลที่ดี และนำขนมข้าวซอยตัดมาวางขายพร้อมกับเจียงอวี้

นางหยิบขนมข้าวซอยตัดออกมาสองห่อ นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ววางไว้ให้ลูกค้าชิม

เมื่อครู่ตอนที่นั่งอยู่บนเกวียนก็ขายไปได้สี่ห่อแล้ว และกินไปหนึ่งห่อ ตอนนี้เอาออกมาอีกสองห่อ ก็เหลืออีกเก้าสิบสามห่อ

พอเอาของพวกนี้ออกมาวาง ก็มีคนจำนวนมากมามุงดู เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน จึงรู้สึกสงสัยใคร่รู้

“นี่คืออะไรงั้นหรือ?”

“ขนมที่เราทำเองที่บ้านเจ้าค่ะ ชื่อว่าขนมข้าวซอยตัด สะอาด ถูกสุขอนามัย นุ่มหนึบ หอมหวาน เครื่องก็เยอะ ถ้าใครสนใจลองชิมดูได้นะเจ้าคะ ถ้าอร่อยก็ซื้อกลับไปให้ผู้ใหญ่กับเด็กๆ ที่บ้านชิมได้นะ หรือจะซื้อฝากญาติก็ได้!”

ซูหว่านเห็นลูกค้ามาก็เริ่มแนะนำขนมอย่างคุ้นเคย พร้อมกับหยิบขนมข้าวซอยตัดชิ้นเล็กๆ ที่เพิ่งหั่นเสร็จให้ทุกคนลองชิมดู

ตลาดมีคนพลุกพล่าน ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างก็มารวมตัวกันที่นี่ และไม่นานนักก็มีคนมามุงกันเต็มไปหมด

หลังจากที่ได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว ทุกคนก็พูดว่าอร่อย และเริ่มถามราคา

"ชิ้นละสิบห้าอีแปะเท่านั้น! ซื้อไปไม่มีทางขาดทุน ไม่มีทางถูกหลอกแน่นอน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ซื้อแล้วรับรองไม่ผิดหวัง!"

ซูหว่านหยิบตาชั่งออกมา แล้ววางขนมข้าวซอยตัดลงไป ชั่งให้ทุกคนดูหลายห่อติดต่อกัน น้ำหนักก็ใกล้เคียงกันหมด

นี่คือเหตุผลที่นางเอาตาชั่งออกมา จุดประสงค์หลักคือเพื่อแสดงความจริงใจ

เมื่อทุกคนเห็นว่าไม่มีความคลาดเคลื่อน พวกเขาก็ยิ่งเต็มใจที่จะซื้อมากขึ้น จะไม่เกิดการพูดว่าราคาเท่ากัน แต่ปริมาณไม่เท่ากัน

“สิบห้าอีแปะแพงไปหน่อยนะ แม่หนูเอ๊ย ลดราคาลงอีกหน่อยได้ไหม?”

ในกลุ่มคน ตอนนั้นมีบางคนรู้สึกว่าแพงไป อยากจะต่อรองราคา แต่ซูหว่านจะยอมลดราคาง่ายๆ ได้อย่างไร?

นี่คือจุดยืนที่ต้องรักษาไว้ให้ได้ เมื่อยอมรับการต่อรองราคาครั้งแรก ก็จะมีครั้งที่สองตามมา

“พี่สาว ขนมนี่ไม่แพงเลยนะเจ้าคะ ขนมของข้าอร่อยกว่าที่ขายในตลาด แถมปริมาณยังเยอะกว่า คุ้มค่ามากเลยนะ แล้วดูวัตถุดิบที่ข้าใช้สิ ต้นทุนสูงมากเลย อย่างไรเสียท่านก็ต้องให้พวกเราได้กำไรบ้างไม่ใช่หรือ?”

ที่ซูหว่านพูดถึง ‘ในตลาด’ ไม่ได้ระบุว่าเป็นร้านขนมหลิวฟางไจ จึงไม่ได้ถือว่าเป็นการล่วงเกินใคร

สำหรับคนที่มีเงินหน่อย ก็รู้สึกว่าราคานี้ดีทีเดียว จึงควักเงินซื้ออย่างรวดเร็ว

“เอาให้ข้าสองห่อก่อน”

ตอนนี้ยังเหลืออีกประมาณสามสิบห่อ คนไม่เยอะเหมือนตอนแรกแล้ว ขายไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน!

เจียงอวี้เห็นว่าไม่ยุ่งแล้ว จึงบอกซูหว่านว่าจะออกไปสักครู่

“หวานหว่าน ข้าขอตัวไปสักครู่นะ” เขาไม่ได้บอกเหตุผล เขารู้ว่าซูหว่านจะไม่ซักถามให้มากความ

เป็นดังคาด ซูหว่านพยักหน้าโดยไม่ถามอะไรเลย

“ข้าจะรีบกลับมา รอข้าด้วยนะ!”

เจียงอวี้ยังคงลังเลเล็กน้อย การปล่อยนางไว้คนเดียวที่นี่ ก็กลัวว่านางจะเจอเรื่องลำบาก

“ไปเถอะ ข้าไม่เป็นไร!”

ซูหว่านรู้ว่าเขายังมีลูกน้องอยู่ในอำเภอชิงเหอ น่าจะไปจัดการธุระและแจ้งข่าวว่าปลอดภัย เพราะเขาหายไปนานกว่าสองเดือนแล้ว

ชาวบ้านในอำเภอชิงเหอล้วนเป็นคนเรียบง่ายและอบอุ่น ที่นี่มีข้าราชการที่ดีปกครอง ดังนั้นนอกจากจะมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายแล้ว ความปลอดภัยก็ดีเยี่ยมด้วย เนื่องจากชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านโดยรวมก็ถือว่าพอกินพอใช้ คนที่ทำเรื่องไม่ดีจึงมีไม่มากนัก

หลังจากที่เจียงอวี้จากไปแล้ว ก็มีคนทยอยมาอีกหลายกลุ่ม ทำให้ขนมข้าวซอยตัดที่เหลือขายหมดเกลี้ยง ไม่มีเหลือเลยสักชิ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม