เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 97

ระหว่างที่กำลังชมอยู่แล้วก็เผลอคิดอะไรเพลินๆ น้ำบนเตาก็เดือดพล่านแล้ว ไอน้ำฟุ้งกระจายเต็มครัวไปหมด

เจียงอวี้สังเกตเห็นฉากนั้น และเมื่อเห็นว่านางมองจนใจลอยไปแล้ว เขาจึงหยุดแล้วเตือนนาง พร้อมทั้งเอาดาบไว้ด้านหลังด้วยมือเดียว

"คิดอะไรอยู่เนี่ย เกือบจะกลายเป็นเซียนไปแล้วนะ!"

น้ำเสียงของเขาฟังดูสบาย ๆ เต็มไปด้วยความหยอกล้อ คิ้วและดวงตายกขึ้นเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม ทำให้ดูมีชีวิตชีวาและฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น

ซูหว่านพลันรู้สึกตัวขึ้นมาทันที เมื่อนึกได้ว่านางกำลังต้มน้ำอยู่ นางจึงรีบหันหลังกลับไปต้มบะหมี่อย่างทุลักทุเล

แย่จริง! ทุกครั้งที่อยู่กับเขาตามลำพัง นางมักจะทำตัวเปิ่น ๆ อยู่เสมอ

น่าอายสุด ๆ...

นางทำบะหมี่เส้นสดแบบง่าย ๆ ลวกเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ แล้วใช้ซีอิ๊วที่พี่สี่ทำเองมาทำเป็นน้ำซุป รสชาติกลับออกมาอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ

เจียงอวี้กินจนเกลี้ยงชาม ชนิดที่เรียกได้ว่าแทบจะซดน้ำซุปจนหมดเกลี้ยงเลยทีเดียว

ที่เหลือซุปไว้ก็เพื่อรักษาภาพลักษณ์คุณชายผู้สง่างามของเขาเอาไว้ เพื่อไม่ให้ดูมูมมามจนซูหว่านหัวเราะเยาะ

เพราะอยู่ที่ชนบท เจียงอวี้ยังคงต้องระมัดระวังไม่ให้โดดเด่นจนเกินไป กลัวว่าคนสัญจรไปมาจะเห็น เขาจึงรำดาบอยู่แค่ชั่วครู่ แล้วจึงเอาดาบให้ซูหว่านไปเก็บรักษาเอาไว้เหมือนเดิม

อีกเดี๋ยวซูหว่านจะต้องไปเก็บผักสดจากแปลงมาทำอาหาร ดังนั้นพอกินบะหมี่เสร็จ นางก็ถือตะกร้าออกไปนอกบ้านทันที

"เจียงอวี้ ข้าไปเก็บผักแล้วนะ!" นางแค่บอกกล่าวกับเขา แต่กลายเป็นว่าเขาขอตามไปด้วย

“ข้าไปกับเจ้าด้วย”

"ไม่ได้ไปเที่ยวเสียหน่อย แค่ไปเก็บผักเอง ท่านจะตามไปทำไม?" ซูหว่านเอ่ยถามอย่างมีเหตุผล

ตอนนี้สนิทกันแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจเหมือนเมื่อก่อน มีอะไรก็พูดไปเลย ไม่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้

"อยู่บ้านมันน่าเบื่อ อยากออกไปเดินเล่นบ้าง!"

เขาก็เพิ่งจะเดินกลับมานี่ แล้วตอนนี้จะออกไปเดินอีกแล้วหรือ?

แต่นางก็ไม่สามารถไปจำกัดการกระทำของเขาได้

ช่างเถอะ ไปด้วยกันก็ไปด้วยกัน ไม่ได้ทำให้เนื้อหนังหายไปไหนนี่นา นางก็อธิบายไม่ถูกว่าเจียงอวี้แปลกไปตรงไหน แต่ถึงอย่างไรมันก็รู้สึกไม่ปกติอยู่ดี

ทั้งสองคนจึงปิดประตูรั้วไม้ไผ่ที่ล้อมรอบลานบ้านให้เรียบร้อย แล้วเดินออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังแปลงผัก โดยมีคนหนึ่งเดินนำและอีกคนเดินตามหลัง

เดี๋ยวกลับมาก็ต้องทำขนมข้าวซอยตัดอีก ตารางชีวิตเรียกได้ว่าจัดเต็มจริงๆ

มาถึงแปลงผักที่ชาวบ้านร่วมกันบุกเบิกแล้ว ซูหว่านเคยมาที่นี่กับซูอวิ๋น จึงรู้ว่าแปลงผักของบ้านตัวเองอยู่ตรงไหน

ในแปลงมีผักกาดขาวเล็ก ล้วนเป็นผักปลอดสารพิษจากธรรมชาติทั้งนั้น

"รีบกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดเถอะ ระวังจะเป็นไข้หวัด!"

เมื่อเหอเจียวซิ่งได้ยินดังนั้น นางก็มองไปยังทิศทางที่พี่สาวจากไป แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่ปิดไม่มิด สีหน้าก็แสดงความหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด

นางส่ายหน้า ตอนนี้นางยังไม่กล้ากลับบ้าน

"ถึงแม้จะไม่รู้ว่าพวกเจ้าสองพี่น้องมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่เจ้าก็อย่าได้กลัวพี่สาวเจ้าเลย กลับไปบอกพ่อแม่ของเจ้าสิ พวกท่านจะช่วยให้ความเป็นธรรมกับเจ้าเอง"

ซูหว่านเห็นปฏิกิริยาของนางแล้วก็เดาได้ทันทีว่านางกลัวพี่สาว

เมื่อเหอเจียวซิ่งได้ยินดังนั้น แววตาของนางก็มืดหม่นลงอีกครั้ง ซูหว่านไม่รู้เลยว่าพ่อแม่ของนางก็ลำเอียงอย่างมาก ใจของพวกท่านเอนเอียงไปทางพี่สาวทั้งหมด

ถึงบอกไป พวกเขาก็ไม่ช่วยให้ความเป็นธรรมกับนาง มีแต่จะร่วมวงด่าทอนางเสียอีก

นางเป็นใบ้ มีความพิการมาตั้งแต่กำเนิดทำให้นางด้อยกว่าพี่สาวในทุกด้าน เป็นเหตุผลที่ทำให้นางถูกพี่สาวกดขี่อย่างชอบธรรม

ซูหว่านเห็นแววตาของนางเช่นนั้น ก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่นางคิดไว้เลย

แต่นางก็ไม่ชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ใช่ธุระของตัวเอง

"รอก่อนนะ เดี๋ยวข้าจะถอนผักกาดขาวเล็กสักกำนึง ไม่นานหรอก เจ้าจะไปนั่งพักที่บ้านข้าก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้!" สิ่งที่ซูหว่านทำได้ก็มีเพียงเท่านี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม