ซุปเปอร์ครูฝึก นิยาย บท 13

บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด แม้กระทั่งเสียงเข็มตกกระทบลงกับพื้นก็ยังได้ยิน

ลูกเตะธรรมดา ๆ แค่ลูกเตะธรรมดาเพียงครั้งเดียว กลับทำให้ลูกศิษย์ที่นับว่ามีฝีมือโดดเด่นคนหนึ่ง ถูกเตะจนลอยกระเด็นออกไป กระดูกขาหัก กระดูกซี่โครงหัก กระอักเลือด และหมดสติลงที่พื้น !

อะไรที่เรียกว่าน่าเกรงขาม ?

เช่นนี้จึงจะเรียกว่าน่าเกรงขาม !

หวู่เถิงที่วินาทีก่อนหน้ายังคงอวดเบ่งว่าจะเอาชนะเซียวหยุนหลงให้ได้ภายในกระบวนท่าเดียว แต่วินาทีถัดมากลับถูกเซียวหยุนหลงเตะลอยกระเด็นออกไป นี่ช่างเป็นความแตงต่างที่ชัดเจนขนาดไหนกัน ?

เหตุการณ์ทั้งสองเกิดห่างกันเพียงแค่เสี้ยววินาที

ลูกเตะของเซียวหยุนหลงควรถูกเรียกว่ากระสุนปืนใหญ่ที่ยิงโจมตีออกไปน่าจะเหมาะสมกว่า

บนสังเวียน แววตาของเซียวหยุนหลงลึกล้ำดุจสายน้ำ เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ รัศมีที่แผ่ซ่านออกจากตัวของเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ราวกับอสูรยักษ์ในตำนานที่จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นจากการหลับใหล และยิ่งดูเหมือนการกลับมาของราชาปีศาจ ร่างกายของเขาดูราวกับเต็มไปด้วยพลังเวทและเจตนาฆ่าที่รุนแรง

เซียวหยุนหลงขยับร่างกาย และกระโดดลงจากสังเวียน และตรงเข้าไปหาหวู่เถิงที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น แววตาของเขาฉาบไปด้วยประกายอำมหิต

หวู่เจี้ยนส่งคนเข้าไปหาหวู่เถิงแล้ว เมื่อเห็นเซียวหยุนหลงกระโจนเข้ามา เขาก็มีสีหน้าตกใจทันที และรีบตะโกนออกมาว่า : “นายคิดจะทำอะไร ?”

“หลีกไป !”

เซียวหยุนหลงตะคอกเสียงดัง เจตนาฆ่าอันรุนแรงพุ่งเป้าไปที่หวู่เถิง รัศมีที่เปล่งประกายออกมาจากตัวเขาเป็นความน่าสะพรึงกลัวที่ไร้ขอบเขต รัศมีนั้นปกคลุมไปทั่วบริเวณโดยรอบ ราวกับราชาปีศาจยักษ์ใหญ่ที่ยืนตระหง่านอยู่ และกวาดสายตามองไปโดยรอบ โดยไม่มีใครสามารถสั่นคลอนอำนาจของเขาได้

ความสามารถของหวู่เจี้ยนไม่นับว่าอ่อนแอ ถึงแม้เขายังไม่บรรลุถึงขั้นปรมาจารย์ แต่ก็นับว่ามีชื่อเสียงด้านความสามารถเป็นที่น่านับถือในเมืองเจียงห่าย

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเซียวหยุนหลง ม่านตาของหวู่เจี้ยนกลับหดลงในทันที เกิดความกลัวที่สามารถบรรยายได้ แพร่กระจายไปทั่วร่างของเขา เขาสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเซียวหยุนหลง ดูราวกับการโจมตีที่พุ่งตรงออกมาจากกองซากศพและทะเลเลือด ทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นใจอย่างยิ่ง

“หยุนหลง ใจเย็นก่อน”

เซียวว่านจวินเดินเข้ามา แล้วยื่นมือไปฉุดแขนของเซียวหยุนหลงเอาไว้

เซียวว่านจวินสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเซียวหยุนหลง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปขวาง อย่างไรเสีย นี่นับว่าเป็นการต่อสู้เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้บนสังเวียน ไม่ควรลงมือจนถึงแก่ชีวิต นี่เป็นกฎเกณฑ์ข้อหนึ่งของตระกูลนักสู้ ที่สืบทอดกันมาหลายปี

อีกอย่าง หากหวู่เถิงเสียชีวิตลงที่ตระกูลเซียว เรื่องนี้คงทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาไม่น้อย

เซียวว่านจวินไม่ต้องการให้ลูกชายของตนเองที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึง ต้องพลั้งมือสังหารคน และถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรฆ่าคนตาย

เซียวหยุนหลงสูดหายใจเข้าเต็มปอด จากนั้นจึงค่อย ๆ พ่นลมหายใจออกมา และระงับอารมณ์โกรธในจิตใจลง แววตาของเขามืดมน จ้องเขม็งไปที่หวู่เจี้ยน แล้วค่อย ๆ พูดออกมาทีละคำ ๆ : “พาคนของพวกนายไสหัวออกไปให้หมด ! หากกล้าเข้ามาเหยียบตระกูลเซียวแม้เพียงครึ่งก้าวอีก จะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี !”

นี่ถือว่าเป็นคำเตือนอย่างหนึ่ง และนับเป็นการลั่นวาจาว่าพูดจริงทำจริง

หากเหยียบเข้ามาในตระกูลเซียวอีก จะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี !

เซียวหยุนหลงพูดจริงทำจริง เพราะคำมีความสามารถเพียงพอ

หากไม่ใช่เพราะอยู่ในลานบู๊ของเรือนบูรพาในตระกูลเซียว หากไม่ใช่เพราะเบื้องหน้ามีคนมากมายขนาดนั้น ตอนนี้หวู่เถิงคงจะกลายเป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้ว

แม่ของเขาเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เขาหวังว่าแม่ของเขาจะได้พักผ่อนอย่างสงบสุขอยู่บนสวรรค์ หากมีใครกล้าพูดจาดูถูก เขาจะไม่ปรานีเด็ดขาด

ถึงแม้เซียวหยุนหลงจะยอมรามือเช่นนี้ แต่หวู่เถิงที่ถูกเขาเตะ หากไม่ตายก็คงต้องกลายเป็นผู้พิการอย่างสมบูรณ์

หวู่เจี้ยนสีหน้าหมองหม่น ดูราวกับสายน้ำที่หยุดนิ่ง เขาขยับปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่เมื่อมองเห็นแววตาที่ลึกล้ำของเซียวหยุนหลง เขาก็รู้สึกกลัวจนเสียวสันหลัง จึงตะโกนสั่งให้ศิษย์คนอื่น ๆ ที่ติดตามมา ค่อย ๆ แบกหวู่เถิงออกจากตระกูลเซียวไป

“ไชโย--”

จนถึงตอนนี้ คนในตระกูลเซียวราวกับตื่นขึ้นจากความฝัน ส่งเสียงตะโกนโห่ร้องเสียงดังขึ้นมา พวกเขาทั้งตื่นเต้นยินดี บางคนถึงขนาดอดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงดังออกมา

เพราะตลอดหลายปีมานี้ ตระกูลเซียวถูกข่มเหงอย่างหนัก จนกระทั่งพวกเขาต้องคอยเก็บงำความแค้นนี้เอาไว้ในใจ

โดยเฉพาะศิษย์นอกสายเลือดจำนวนหนึ่งของสำนักศิลปะการต่อสู้ของตระกูลเซียว ที่คอยติดตามเซียวว่านจวิน ต่างก็รู้สึกยินดีและตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด พวกเขาหันมองเซียวหยุนหลงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกชื่นชมและนับถือ

ผู้ที่ฝึกยุทธ์จะให้ความเคารพกับผู้แข็งแกร่ง

เซียวหยุนหลงไม่เพียงเป็นลูกชายของเซียวหยุนหลงเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย ทำให้พวกเขารู้สึกเคารพนับถือจริง ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์ครูฝึก