ตอน บทที่ 143 จาก ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 143 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ที่เขียนโดย เหมยปาเหย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 143
“นั่นสิครับ!ท่านประธาน พวกเขาเห็นพวกเราตอนนี้พูดง่ายหรือว่ายังไงกัน กล้าลงมือกับพวกเราโหวจวี๋!”
“ท่านประธาน ขอเพียงแค่ประโยคเดียวของคุณ พวกเราจะกดอุตสาหกรรมที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเหล่านั้นถูลงกับพื้นในทันที!”
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้ตกใจจนทุกคนหุบปาก
“ในเมื่อพวกคุณรู้ว่าโหวจวี๋คือการมีอยู่แบบไหน พูดอยู่ที่นี่มีประโยชน์อะไร? สู้ไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ว่าใครกันแน่ที่ลงมือกับโหวจวี๋ยังจะดีกว่า!”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ออกนอกห้องประชุมไปในทันที
เพิ่งจะเตรียมตัวกลับห้องทำงาน ก็ได้รับสายโทรศัพท์จากเฉินห้าว
“บอส โทรศัพท์มือถือผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ด้านในมีรูปภาพเยอะมาก ผมคิดว่าทางที่ดีที่สุดบอสมาที่นี่สักรอบ ผมกำลัง...” น้ำเสียงของเฉินห้าวเคร่งเครียดเป็นอย่างยิ่ง
ไป๋ยี่เฟยวางสายโทรศัพท์ลงขับรถไปหาเฉินห้าวในทันที
ทั้งสองคนสมทบกันที่ร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่ง
“บอสครับ คุณดู” เฉินห้าวนำโทรศัพท์มือถือส่งให้กับไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยหยิบโทรศัพท์มือถือมาเลื่อนเปิดดูอยู่ครู่หนึ่ง ยิ่งดูตาก็ยิ่งเบิกโตขึ้น
บนรูปภาพ ผู้หญิงสามคนที่ร่างกายเปลือยเปล่านั่งล้อมรอบอยู่ข้างร่างกายของไป๋ยี่เฟย ทั้งจูบทั้งโอบกอดเขา และไป๋ยี่เฟยเผยให้เห็นใบหน้าเพียงแค่ครึ่งเดียว เดิมทีควรจะเป็นการหมดสติ กลับกลายเป็นสีหน้าที่เพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่ง
รูปภาพแทบจะพอๆกันหมด เพียงแต่ท่าทางของผู้หญิงทั้งสามคนไม่เหมือนกันก็เท่านั้นเอง
“แม่งเอ๊ย!” ไป๋ยี่เฟยโยนโทรศัพท์มือถือทิ้งลงบนโต๊ะ
เฉินห้าวกลืนน้ำลายเล็กน้อย ผู้หญิงสามคนนั้นหน้าตาสวย รูปร่างก็ดี ยังไม่สวมใส่อะไรอีก
ไป๋ยี่เฟยตอนนี้เป็นห่วงหลี่เสว่มากเป็นพิเศษ หากรูปภาพแบบนี้ถูกหลี่เสว่เห็นเข้า นั่นต่อให้เขากระโดดลงแม่น้ำเหลืองก็ชำระล้างไม่สะอาด ยิ่งถึงขั้นหลี่เสว่ยังจะได้รับแรงกระตุ้งทางอารมณ์เพราะเรื่องนี้ ทำให้พิษยาลุกลามเร็วขึ้นไปอีก
เพียงแต่เย่อ้ายถ่ายรูปเหล่านี้ของตนเองเพื่ออะไรกัน? จะจัดการเขา?
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วคิดไตร่ตรองอยู่พักใหญ่ๆ จากนั้นเอ่ยขึ้นกับเฉินห้าวว่า “เก็บรูปภาพเหล่านี้เอาไว้ แต่ว่าฉันต้องการให้นายหาคนช่วยฉันจัดการกับรูปภาพเหล่านี้สักหน่อย”
“ไม่มีปัญหาครับ” เฉินห้าวพยักหน้า หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับเอ่ย “เมื่อครู่นี้ผมเปิดดูบันทึกของเธอ รูปภาพเหล่านี้มีเพียงแค่ชุดนี้ชุดเดียว ตอนนี้เธอยังไม่ได้ส่งให้กับคนอื่น”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า เป็นสัญญาณว่ารับรู้แล้ว
ออกคำสั่งอีกไม่กี่ประโยค จากนั้นทั้งสองคนก็ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกัน
...
ภายในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง เย่อ้ายวางโทรศัพท์มือถือที่ซื้อมาใหม่ลง ในสายตาเต็มไปด้วยความโมโห “ไอ้ขโมยบ้า!”
“รูปภาพด้านในถ่ายฟรีหมดเลย!”
เพื่อรับประกันความปลอดภัย เย่อ้ายเพียงแค่นำรูปภาพจัดเก็บเอาไว้ในอัลบั้มของโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ดังนั้นพอโทรศัพท์ถูกขโมยไป งั้นก็เท่ากับว่ารูปภาพเหล่านั้นหายไปแล้ว
“กริ๊งๆๆ...”
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
เย่อ้ายรับสาย “พี่อ้าย มีคนใช้โทรศัพท์มือถือของพี่โทรมาหาผมที่นี่ บอกว่าเก็บโทรศัพท์มือถือของพี่ได้ ถามว่าต้องการให้ส่งไปให้พี่ไหม?”
“จริงหรอ? ต้องการ เธอนัดสถานที่หนึ่ง ให้เขานำโทรศัพท์มือถือให้กับเธอ เธอค่อยส่งมาให้ฉัน”
“ได้ค่ะ พี่อ้าย。”
วางสายโทรศัพท์ลง เย่อ้ายก็ยิ้มขึ้นมา “สวรรค์กำลังช่วยฉันจริงๆ แม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะหาย ก็ยังหากลับมาได้”
“แต่ว่า โทรศัพท์มือถือของฉันคือหายงั้นหรอ? ไม่ได้ถูกขโมย? แต่ฉันก็ดูเหมือนไม่ได้มีนิสัยวางโทรศัพท์มือถือมั่วซั่ว...”
...
เย่อ้ายเลิกคิ้วเล็กน้อย “หลิ่วอู๋ฉง? ไม่เคยได้ยิน ไม่รู้จัก”
หลิ่วอู๋ฉงไม่ได้มีความเก้อเขินใดๆ แต่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “ก่อนหน้านี้ไม่รู้จัก แต่ว่าตอนนี้พวกเราไม่ใช่รู้จักกันแล้วหรอกหรอครับ?”
“คิดว่าคุณน่าจะรู้แล้ว ว่าผมมาหาคุณเย่เพื่อร่วมงานกัน”
“ร่วมงาน?” เย่อ้ายหัวเราะขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ไม่ทราบว่านายหลิ่วอยากจะร่วมงานโปรเจกต์อะไรคะ?”
หลิ่วอู๋ฉงยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ทำลายโหวจวี๋กรุ๊ป ไม่ทราบว่าโปรเจกต์นี้คุณเย่สนใจหรือเปล่า?”
เย่อ้ายหยุดชะงักไปชั่วขณะ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย “นายหลิ่วกำลังล้อเล่นอยู่หรอคะ? โหวจวี๋กรุ๊ปน่ะเป็นถึงหัวมังกรของเมืองเทียนเป่ย นายหลิ่วนำความมั่นใจมาจากไหนกัน?”
“คุณเย่ ผมรู้ เย่ซื่อกรุ๊ปอยู่ที่เป่ยไห่กำลังแข็งแกร่ง แต่ที่เมืองเทียนเป่ย โหวจวี๋กรุ๊ปถึงจะเป็นพี่ใหญ่ ดังคำกล่าวที่ว่ามังกรที่แข็งแกร่งไม่สามารถเอาชนะงูเจ้าถิ่นได้ คาดว่าจะแตะต้องโหวจวี๋ ก็ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่ง”
หลิ่วอู๋ฉงพูดได้ถูกมาก แต่ว่าในใจของเย่อ้ายยังคงมีข้อสงสัย “ถ้างั้นฉันขอถามสักหน่อยได้ไหมคะ ว่าทำไมนายหลิ่วต้องการจัดการกับโหวจวี๋?”
สีหน้าของหลิ่วอู๋ฉงหนักอึ้งลงมา เรื่องนี้แค่ค้นหาเอาลวกๆก็สามารถหาได้ ดังนั้นจึงไม่ได้ปิดบังอะไร “เพราะว่าไป๋ยี่เฟยส่งพวกผมทั้งบ้านเข้าคุก”
ในใจของเย่อ้ายได้มีคำตอบแล้ว “ถ้างั้นเชิญนำเอาความจริงใจของคุณออกมาค่ะ”
หลิ่วอู๋ฉงหัวเราะขึ้น พร้อมกับเอ่ย “สองหมัดยากจะสู้สี่มือ บริษัทเดียวไปจัดการกับโหวจวี๋ ก็ต้องสู้ไม่ได้เป็นธรรมดา แต่หากเป็นห้าหกบริษัท ถึงขั้นสิบกว่าบริษัทล่ะครับ?”
...
ทัณฑสถานเมืองเทียนเป่ย
หลิ่วจาวเฟิงมองหลิ่วเซียวเหยาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามผ่านกระจก
หลิ่วเซียวเหยาอยู่ในคุกเป็นเวลาแค่นี้ ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนโดยสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่คุณชายสองหลิ่วซื่อกรุ๊ปที่กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาคนนั้นอีกต่อไป แต่เป็นนักโทษที่สวมเครื่องแบบนักโทษ หนวดรกรุงรังคนหนึ่ง
“พี่สอง พี่ใหญ่กลับมาแล้ว”
ดวงตาทั้งสองข้างที่ไม่มีชีวิตชีวาของหลิ่วเซียวเหยาหลังจากได้ยินประโยคนี้ก็เปล่งประกายขึ้นมาในทันที “พี่ใหญ่กลับมาแล้ว? กลับมาตั้งแต่เมื่อไร? เขาสามารถนำพวกเราออกไปได้ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่