บทที่ 212
ในขณะนี้ หลิวจื่อหยุนก็ถามขึ้นมาต่อ“พ่อ ตอนนี้ที่บ้านมีแค่พ่ออยู่คนเดียวใช่ไหม? ถ้าเป็นแบบนี้ หรือว่าพ่อจะ……”
พูดยังไม่ทันจบ จู่ๆหลี่เฉียงตงก็พูดตัดขึ้นมาก่อน“ต้องซื้ออาหารไหม? ตอนค่ำกินอะไร?”
หลิวจื่อหยุนหยุดไป จ้องหลี่เฉียงตงอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
นายท่านหลี่ถอนหายใจเล็กน้อย
ทุกสิ่งทุกอย่างตัวเองเป็นคนทำตัวเองก็ต้องรับ!จะไปโทษใครได้ล่ะ?
ระหว่างทาง ไม่มีใครพูดอะไรต่อ
หลี่เสว่รู้สึกว่าหดหู่ไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ได้ถามขึ้นมาอย่างเชื่อฟัง ทำเพียงแค่กอดโจวฉวี่เอ๋อไว้แน่น ให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงบ้าน หลี่เฉียงตงส่งนายท่านหลี่ถึงประตูทางเข้า ก่อนจะกลับ
รอจนหลี่เฉียงตงกลับแล้ว หลิวจื่อหยุนก็จ้องเขาพร้อมกับพูดขึ้น“คุณเป็นอะไร? ไม่อยากให้พ่ออยู่ด้วยกันกับพวกเราเหรอ?”
“เขาอยู่ที่บ้านสบายดีมากอยู่แล้ว”หลี่เฉียงตงตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ
“ดีกับผีน่ะสิ!คุณดูสภาพพ่อตอนนี้สิ อย่าบอกฉันนะว่าคุณไม่รู้ เขาไปจ่ายค่าไฟด้วยตัวคนเดียว แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าปกติเขาใช้ชีวิตยังไง!”
หลี่เฉียงตงยิ้มอมทุกข์อย่างหมดหนทาง“จริงๆแล้ว นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ถ้าให้เขามาอยู่กับพวกเรา กลับจะยิ่งทำให้ในใจของเขารับไม่ได้ขึ้นไปอีก”
“รับไม่ได้?”หลิวจื่อหยุนถามเสียงสูง“เขาสภาพแบบนี้แล้ว ยังมีอะไรที่รับไม่ได้อีก? หน้าตาสำคัญกว่า หรือว่าชีวิตสำคัญกว่า? พ่ออายุเจ็ดสิบแล้ว อยู่คนเดียวที่บ้าน ถ้าเกิดวันไหนเป็นอะไรไป ก็จะไม่มีใครรู้เลยสักคน!”
“เอ่อ……”หลี่เฉียงตงรู้สึกลังเลไม่น้อย
“เอ่ออะไร?”หลิวจื่อหยุนจ้องเขม็ง“ฉันว่า ควรจะให้พ่อมาอยู่ด้วยกันกับพวกเรา ถึงยังไง นั่นก็เป็นพ่อของคุณนะ”
ประโยคสุดท้าย ทำให้หลี่เฉียงตงอึ้งตะลึงไป ถอนหายใจออกมาทันที“ใช่ คุณพูดถูก เขาเป็นพ่อของผม”
ในขณะนี้ หลี่เฉียงตงเหมือนจะปล่อยวางความเคียดแค้นหลายสิบปีลง ให้เป็นฝุ่นไปทั้งหมด
ความกตัญญูความแค้นหลายสิบปี ทุกคนต่างก็เหนื่อยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะนายท่านหลี่ สำหรับเขา หน้าตามันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ยังมีอะไรที่ไม่สามารถรับได้อีก?
……
ไป๋ยี่เฟยหลับเต็มอิ่ม
ชายสวมแว่นเกิดแล้วก็หายเองไปตามธรรมชาติ หลิ่วอู๋ฉงก็จัดการแล้ว ต่อไป ขอแค่พัฒนาโหวจวี๋ให้ราบรื่นไปได้ด้วยดีก็พอ เสร็จแล้วก็แก้พิษของตัวเอง ส่วนหลี่เสว่ ที่เป็นในตอนนี้ก็ดีมากเหมือนกัน
ถึงเวลาเลิกงานแล้ว
พอคิดถึงหลี่เสว่ ไป๋ยี่เฟยก็ตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ค่อยมาดูเอกสารที่ยังดูไม่เสร็จพวกนี้แล้วกัน
หลังจากออกจากห้องทำงาน ไป๋ยี่เฟยก็บังเอิญเห็นหลิวเสี่ยวอิงที่ออกมาจากห้องทำงานของหลงหลิงหลิงพอดี
ทั้งสองคนออกจากบริษัทด้วยกัน ไป๋ยี่เฟยขับรถถึงบริเวณมหาลัยที่ไป๋ยี่เฟยเคยเรียนเมื่อสมัยก่อน ที่นี่มีตลาดกลางคืนอยู่หนึ่งแห่ง มีร้านอาหารมากมาย ตอนค่ำก็คึกคักมาก
หลงหลิงหลิงเนื่องจากยังมีงานอีก ก็เลยไม่ได้มาด้วยกัน
หลังจากถึงแล้ว หลิวเสี่ยวอิงก็มองไป๋ยี่เฟยด้วยความแปลกใจ“คิดไม่ถึงว่าคุณจะมากินข้าวในสถานที่แบบนี้ ดูไม่ออกจริงๆนะเนี่ย!”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มๆ“ดูไม่ออกอะไร? ตอนที่เรียนอยู่มหาลัย ก็มากินข้าวที่นี่อยู่บ่อยๆ”
พูดตามตรง ตอนที่เรียนมหาลัย น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีงามที่สุดของชีวิตแล้ว ไม่มีการเล่นแง่วางอุบายกันทางธุรกิจ แล้วก็ไม่มีการวัดระดับความจนความรวยอะไรด้วย มิตรภาพถือว่าบริสุทธิ์ที่สุดแล้ว
เหมือนกับตอนนี้ที่ไหน? คนที่อยู่รอบข้างมีไม่กี่คนที่พอจะเชื่อใจและไว้วางใจได้ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นคนที่คอยคิดจะหาแผนการเอาชนะเขาทั้งนั้น ถึงขนาดที่ มีคนคิดจะเอาชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่