สรุปตอน บทที่ 265 – จากเรื่อง ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดย เหมยปาเหย
ตอน บทที่ 265 ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดยนักเขียน เหมยปาเหย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 265
เธอไม่ได้เห็นไป๋ยี่เฟยมาหลายวันแล้ว
ไป๋ยี่เฟยไม่ต้องการเธอแล้วใช่หรือไม่? เธอไม่อยากถูกทอดทิ้ง......
พอคิด ตาของหลี่เสว่ก็แดงขึ้นมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่
ตอนนี้หลงหลิงหลิงสีหน้าก็ไม่สู้ดีเช่นกัน ถลึงตามองเย่อ้ายอย่างไม่พอใจ
“เรื่องของประธานกรรมการ ยังไม่ถึงคราวที่พวกคุณจะมาพูด”
เย่อ้ายยิ้ม “แต่ที่ฉันพูดคือเรื่องจริง!”
ซุนฮุยพยักหน้าเห็นพ้อง “ใช่แล้ว พวกคุณปิดบังเรื่องที่ประธานกรรมการแหกคุกและทำผิดกฎหมายมาตลอด ทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับกรรมการท่านอื่นๆ เลย คุณดูสิตอนนี้โหวจวี๋ขาดทุนลงทุกวัน หากไม่มีกรรมการเหล่านี้คอยพยุงไว้ โหวจวี๋คงจบสิ้นไปนานแล้ว”
“ผมว่าพวกคุณคงจงใจสินะ? อยากให้กรรมการเหล่านี้มาแบกหายนะให้ประธานกรรมการของพวกคุณ!”
“เหลวไหล” หลงหลิงหลิงกล่าวอย่างโกรธๆ “พวกเราไม่ทำแบบนั้น!”
พวกกรรมการต่างโกรธกันมาก
“คุณนายประธานกรรมการ คุณพูดอะไรหน่อยสิ!”
แต่ตอนนี้ไหนเลยหลี่เสว่ยังจะพูดอะไรออกมาได้? เย่อ้ายเห็นดังนี้แววตาก็วาวโรจน์ “ฉันว่าพวกคุณถูกหลอกอีกแล้ว”
“อะไรนะ?”
พวกเขาไม่เข้าใจความหมาย
เย่อ้ายกวาดตามองไปที่ทุกคน พลางกล่าวว่า “คุณนายประธานกรรมการคนนี้ของพวกคุณ ภายนอกดูไม่มีอะไร แต่ความเป็นจริงนั้น......”
พอพูดมาถึงตรงนี้ เย่อ้ายก็หยุดชะงักไป
หัวใจของหลงหลิงหลิงพลันเต้นโลดมาถึงคอหอย เย่อ้ายรู้เรื่องของหลี่เสว่แล้ว!
“กรรมการเย่ ไม่ใช่จะมาพูดเรื่องรับซื้อโหวจวี๋หรือคะ?” หลงหลิงหลิงส่งเสียงห้ามไว้ทันที
เย่อ้ายยิ้มพลางกล่าวว่า “ผู้ช่วยหลง เรื่องนี้กับการรับซื้อโหวจวี๋มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก ฉันรู้สึกว่าจำเป็นต้องพูดออกมาให้ทุกคนรู้อย่างชัดเจน”
หลงหลิงหลิงร้อนใจอย่างมาก “กรรมการเย่......”
เย่อ้ายไม่ให้โอกาสหลงหลิงหลิงได้พูด เธอกล่าวว่า “คุณนายประธานกรรมการ หลี่เสว่ สติปัญญาตอนนี้ของเธอเท่ากับเด็กห้าถึงหกขวบเท่านั้น ล้วนเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่ง ไม่รู้ความอะไร!”
“พวกคุณทุกคนถูกพวกเธอหลอกแล้ว!”
“อะไรนะ?”
ทุกคนเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
หลงหลิงหลิงสีหน้าซีดขาว
ทั้งห้องเงียบกริบ หลังผ่านไปพริบตาเดียวก็ระเบิดเสียงเซ็งแซ่
“นี่มันคือเรื่องอะไรกัน?”
“ผู้ช่วยหลง คุณนายประธานกรรมการมีสติปัญญาเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งจริงๆ หรือ?”
“ผู้ช่วยหลง เรื่องสำคัญอย่างนี้ คุณถึงกับปิดบังพวกเรา แถมยังพาเธอมาแทนตำแหน่งประธานกรรมการอย่างออกนอกหน้าอีก คุณมีเจตนาอะไรกันแน่?”
“......”
จางหรงไม่ได้เข้าร่วมซักถามกับพวกเขา ทำเพียงแค่มองหลี่เสว่อย่างตกตะลึง เมื่อวานไม่ได้สังเกต ตอนนี้พอมองดูก็มีปัญหาจริงๆ ด้วย หลี่เสว่ไม่กล้าพูดอะไรโดยสิ้นเชิง ดวงตาก็แดงก่ำ
หากไม่ใช่เย่อ้ายพูดออกมา บางทีพวกเขาอาจจะไม่มีทางรู้ก็ได้
อารมณ์ของจางหรงสับสนอย่างมาก
เย่อ้ายโค้งมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ทุกท่านสงบลงก่อน”
ตามหลักแล้ว ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป ประธานกรรมการคือผู้ที่ถือหุ้นมากที่สุด แต่ตอนที่กำลังประชุมกรรมการ ผู้ที่ถือหุ้นน้อยจะต้องฟังมากกว่าพูด เว้นเสียแต่ว่าจะถือหุ้นมากกว่าประธานกรรมการห้าสิบเปอร์เซ็นต์
พอพวกกรรมการของโหวจวี๋ได้ยินก็หลบสายตาอย่างกระอักกระอ่วนใจอยู่บ้าง
หลงหลิงหลิงกล่าวอย่างราบเรียบว่า “พวกกรรมการทุกคนที่อยู่ที่นี่เมื่อนำหุ้นมารวมกันแล้วยังได้แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงตัดสินใจในเรื่องของโหวจวี๋ไม่ได้โดยสิ้นเชิง”
ซุนฮุยไม่เข้าใจการแบ่งหุ้นในโหวจวี๋มากเท่าไหร่นัก หลังฟังมาถึงตรงนี้ จึงยากที่จะเชื่อ
แสดงว่าไป๋ยี่เฟยคนเดียวถือหุ้นของโหวจวี๋ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์?
นี่......จะเป็นไปได้อย่างไร?
เย่อ้ายกลับไม่ได้สนใจ คราวก่อนตอนที่ให้หลี่ฝานมาเขาก็รู้แล้ว อีกอย่างหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์นั่นไม่ได้อยู่ภายใต้ชื่อของไป๋ยี่เฟยด้วยซ้ำ
ครั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องอย่างคราวก่อน เธอจึงตั้งใจพากลุ่มนักกฎหมายฝีมือฉกาจมาที่นี่โดยเฉพาะ ขอเพียงเซ็นแล้ว ก็สามารถพูดดำให้กลายเป็นขาวได้
“เช่นนั้นแล้วอย่างไร? เพราะไป๋ยี่เฟยไม่มีหุ้นแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว”
สิ้นคำ ซุนฮุยชะงักไปอีกครั้ง
ไม่มีหุ้น นี่มันอะไรกัน?
เย่อ้ายกล่าวอีกครั้ง “แต่ ไป๋ยี่เฟยเป็นประธานกรรมการ ควรจะให้เขาเป็นผู้ตัดสินใจจริงๆ แต่สำคัญตรงที่ตอนนี้เขาแหกคุกออกมาแล้ว ต่อไปไม่แน่ว่าอาจจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว”
พอพูดถึงตรงนี้ ซุนฮุยก็ไม่สนใจเรื่องเหล่านั้นแล้วเช่นกัน กล่าวรับคำว่า “กรรมการเย่พูดถูก คนที่แหกคุกมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อไปจะได้กลับมาหรือไม่ก็ยังคงเป็นปัญหา ไม่แน่ว่าวันไหนอาจจะตายอยู่ข้างนอกด้วยสาเหตุอะไรก็ยังไม่รู้
“กรรมการซุน คุณหมายความว่ายังไง?” หลงหลิวหลิงมองซุนฮุยอย่างโกรธเคือง
ซุนฮุยเลิกคิ้ว “ที่ผมพูดมาคือเรื่องจริง ปกติแล้วชีวิตของนักโทษหลบหนีไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างพวกคุณจะจินตนาการได้ ยิ่งกว่านั้น ต่อให้เขาไม่ตายอยู่ข้างนอก ถูกจับกลับมาก็ต้องถูกตัดสินโทษอยู่ดี!”
“แหกคุก ถือเป็นโทษร้ายแรง!”
หลงหลิงหลิงกำมือตัวเองแน่น คำพูดนี้ เธอโต้แย้งไม่ได้โดยสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่