ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ นิยาย บท 354

สรุปบท บทที่354: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

สรุปเนื้อหา บทที่354 – ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดย เหมยปาเหย

บท บทที่354 ของ ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เหมยปาเหย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่354

“เชี่ย! รองประธานสหพันธ์ธุรกิจของมณฑล!”

“รองประธานอีกแล้วเหรอ!”

“พระเจ้าช่วย นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว เขาคือฉุงโยวเวยนี่เอง!

หลงหลิงหลิงที่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจจึงกระซิบไปว่า “ท่านประธานคะ ต้องตัดไมค์รึเปล่าคะ?”

“ยังก่อน รอดูไปก่อนว่าเขาจะพูดอะไร” ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า

อีกด้านหนึ่ง ฉุงโยวเวยกระแอม “ที่ผมมาในวันนี้ เพราะเมื่อวานได้เกิดปัญหาขึ้นกับการประชุมที่สหพันธ์ธุรกิจรับผิดชอบ เหลือเรื่องเร่งด่วนหลายอย่างที่ต้องรีบจัดการ เพื่อการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นของเมืองเทียนเป่ย วันนี้ ผมจึงเป็นตัวแทนของทางสหพันธ์ธุรกิจจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย

พูดจบ เถาเยวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ยื่นเอกสารฉบับหนึ่งให้

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานผมก็พอรู้มาคร่าวๆ แล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ โหวจวี๋อย่างนั้นที่ร้ายกาจ ได้จัดการกับผู้ประกอบการทั้งยี่สิบแปดเจ้าไปแล้ว และผู้ประกอบการทั้งยี่สิบแปดเจ้านั้นก็ได้ทำผิดกฎไปจริงๆ จำเป็นต้องได้รับการจัดระเบียบใหม่”

“ต่อไป……”

“รอเดี๋ยว!”

จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

แล้วทุกคนก็ได้สติกลับมา เพราะมัวแต่ตะลึงกับฐานะของฉุงโยวเวยกันอยู่ หลังจากได้ยินคำว่าจัดระเบียบใหม่ ก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีอะไร แต่แล้วเสียงของไป๋ยี่เฟยก็เรียกสติทุกคนให้กลับมาอีกครั้ง

“คนของสหพันธ์จะมาแจกแจงทรัพยากรใหม่เหรอเหรอ?”

“น่าจะใช่นะ ไม่รู้ว่าจะมีของผมด้วยรึเปล่า?”

“ไม่รู้ว่าสหพันธ์ธุรกิจเขาจะจัดสรรยังไงนะ?”

ฉุงโยวเวยกำลังจ้องไปยังคนที่เพิ่งขัดจังหวะเขาไป แต่เขาก็ถามขึ้นด้วยความสุภาพว่า “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณมีปัญหาอะไรเหรอครับ?”

ไป๋ยี่เฟยเดินขึ้นเวทีไป พร้อมกับรับไมโครโฟนที่หลงหลิงหลิงยื่นให้ด้วยท่าทางที่เรียบเฉย “ผมชื่อไป๋ยี่เฟย เป็นประธานบริษัทของโหวจวี๋กรุ๊ปครับ”

ฉุงโยวเวยอึ้งไปแปบหนึ่ง จากนั้นก็ต้องสติได้ “ที่แท้ก็คุณนี่เอง! ดี ผมรู้แล้ว เชิญคุณลงไปก่อนนะครับ! ผมมีเรื่องต้องให้จัดการ ถ้ามีเรื่องอะไรค่อยว่ากันทีหลังนะครับ”

ถึงคำพูดจะฟังดูสุภาพมาก แต่เขากลับทำให้ไป๋ยี่เฟยกลายเป็นคนที่เข้ามารบกวนเวลาที่หัวหน้ากำลังทำงานอยู่เลย

สีหน้าของไป๋ยี่เฟยเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

แต่ฉุงโยวเวยกลับทำเป็นเมิน เขายกไมค์ขึ้นมาแล้วพูดต่อ “ผมนั่งจัดการแผนงานทั้งคืนเลย จากนี้ ผมจะประกาศแนวทางโดยรวมให้ฟัง”

“ก่อนอื่น……”

“รอเดี๋ยวครับ เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาจัดการเองก็ได้มั้งครับ?” ไป๋ยี่เฟยพูดขัดฉุงโยวเวย

ฉุงโยวเยวมองเขาอีกครั้ง “ทำไมผมถึงจะจัดการไม่ได้ล่ะครับ? ผมเป็นรองประธานของสหพันธ์ธุรกิจเลยนะครับ จะบอกว่าผมไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นเหรอ? หรือคุณคิดจะทำเอง? คุณมีอำนาจมากพอเหรอครับ?”

คำพูดที่แสนกดดันนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านล่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

รองประธานสหพันธ์ธุรกิจประจำมณฑล มีเรื่องด้วยไม่ได้หรอก เป็นผู้นำด้านผู้ประกอบการของเมืองเทียนเป่ย ถึงจะเพิ่งจัดการผู้ประกอบการยี่สิบแปดเจ้าก็ไม่ควรไปมีเรื่องด้วยนะ

ไป๋ยี่เฟยไม่แสดงสีหน้าอะไรทั้งสิ้น และไม่ได้ตอบคำถามไปแบบตรงๆ การบริหารผู้ประกอบการของเมืองเทียนเป่ยไม่จำเป็นต้องให้ถึงมือท่านรองประธานหรอกครับ อีกอย่างท่านรองประธานเองก็งานยุ่งทุกวัน มันจะหนักใจท่านเปล่าๆ!”

ฉุงโยวเวยหัวเราะออกมา “มันเป็นเรื่องที่สหพันธ์ธุรกิจควรทำอยู่แล้ว ไม่หนักใจเลยสักนิด”

ยังไม่ทันที่ไป๋ยี่เฟยจะได้พูดอะไรต่อ ฉุงโยวเวยก็เริ่มประกาศแผนงานของเขาต่อ “หลังจากที่ประชุมกันแล้ว เราก็ตกลงกันว่าผู้ประกอบการทั้งยี่สิบแปดเจ้านั้นจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ โดยเราได้แบ่งตามความเหมาะสมของผู้ประกอบการนั้นๆ”

“ส่วนหลังจากที่แบ่งกันเสร็จ พวกคุณจะซื้อขายหรือร่วมหุ้นกัน พวกคุณก็ตัดสินใจกันเองได้เลยครับ”

“ก่อนอื่นก็ หงลี่กรุ๊ป……”

เสียงไมโครโฟนของฉุงโยวเวยดังไปทั่วบริเวณ

“คุณคิดว่าการที่ตัวเองเป็นผู้นำด้านธุรกิจของเมืองเทียนเป่ยแล้วก็ทำตัวกร่างได้แล้วอย่างนั้นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ ถ้าผมสั่ง โหวจวี๋กรุ๊ปก็จะล่มจมไปทันที!”

แล้วไป๋ยี่เฟยก็ทำหน้าประมาณว่าอย่างนี้นี่เอง “ที่แท้สหพันธ์ธุรกิจก็จนมากนี่เอง แม้แต่ประกาศการจัดสรรผลประโยชน์ของผู้ประกอบการแบบนี้ก็ไม่มีปัญญาไปเช่าห้องประชุม จนต้องมาแย่งโรงแรมที่โหวจวี๋ของผมเหมาไว”

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็ใจกว้างพร้อมที่จะเช่าห้องและประชุมให้ทางสหพันธ์โดยเฉพาะเลยก็ได้ ถ้ามีเรื่องอะไรเราค่อยไปคุยกันในที่ประชุม ส่วนวันนี้ มันเป็นงานฉลองวันครบรอบของโหวจวี๋กรุ๊ป”

“รู้รึเปล่าครับว่างานฉลองมันเป็นยังไง? มันก็คือการมาสังสรรค์กัน ไม่ได้มีไว้ให้ทางสหพันธ์อย่างพวกคุณมาฉวยโอกาสนะ!”

“นี่คุณ!” ฉุงโยวเวยกัดฟันแน่น จากนั่นก็กดเสียงต่ำ “ไป๋ยี่เฟย แกการที่แกฆ่าหวังไห่ไปแกคงรอดได้อีกไม่นานหรอกฉันของเตือนให้แกอย่างมาหาเรื่องฉันดีกว่า!”

ไป๋ยี่เฟยตอบด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “ใครๆ ต่างก็บอกให้ผมอย่าไปหาเรื่องเขา สุดท้าย แม่งก็สู้ผมไม่ได้สักคน!”

ฉุงโยวเวยหรี่ตาลง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไป๋ยี่เฟยคนนี้ค่อนข้างมีความสามารถ แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าเขามันก็เท่านั้นแหละ

“ผมลืมบอกคุณไป ผมไม่ได้เป็นแค่รองประธานของสหพันธ์ธุรกิจเท่านั้น ผมยังเป็นสมาชิกของตระกูลฉุงในเมืองหลวงอีกด้วย!”

ไป๋ยี่เฟยรู้เรื่องนี้มานานแล้ว เขาจึงไม่มีการตอบสนองใดๆ

ฉุงโยวเวยชะงักไปแปบหนึ่ง จากนั่นก็ยิ้มออกมา “คนที่ผ่านโลกมาน้อยไม่รู้จักแม้กระทั่งตระกูลฉุง! ผมว่าคุณนี่มันหลงตัวเองเกินไปแล้ว!”

ส่วนคนที่อยู่ข้างล่างพอได้ยินอย่างนั้นก็ตื่นตะลึงกันหมด

“ตระกูลฉุงในเมืองหลวงเหรอ?”

“ใช่ตระกูลฉุงที่ผมรู้จักรึเปล่านะ?”

“แม่งในเมืองหลวงจะมีตระกูลฉุงอยู่กี่ตระกูลกัน? มันก็ต้องใช่อยู่แล้ว!”

“ไม่นึกเลยว่าเขาจะเป็นคนของตระกูลฉุงในเมืองหลวง ดูแล้วตำแหน่งน่าจะสูงอยู่นะ แล้วใครจะกล้าไปมีเรื่องด้วยล่ะแบบนี้?”

“……”

แต่ไป๋ยยี่เฟยกลับขำออกมา “ตระกูลฉุงของเมืองหลวงเหรอ แล้วมันยังไง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่