บทที่ 382
ไป๋ยี่เฟยไปที่เมืองเป่ยไห่ และได้นัดกับเย่ฮวนเพื่อเจรจา แต่เมื่อถึงเวลาเจรจา เขากลับดื่มเหล้าอยู่ที่บาร์ นี่มันไม่มีเหตุผลเอาสะเลย!
ถ้าอย่างนั้น ไป๋ยี่เฟยต้องการทําอะไรกันแน่?
ในครั้งนี้ แม้แต่ไป๋หยุนเผิงก็ยังไม่เข้าใจเลย
อู๋กุ้ยเซียงขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความร้อนรน "ตระกูลฉุงและตระกูลเย่ก็ได้ส่งยอดฝีมือไปแล้ว แล้วยี่เฟยตัวคนเดียวจะจัดการได้เหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้น..."
ไป๋หยุนเผิงพูดอย่างเย็นชาว่า "ข้างกายเขานอกจากไป๋หู่และจงเหลียนแล้ว ยังมีนักฆ่าในเมืองหลวงและอีกคนซึ่งไม่รู้จักฐานะด้วย บางทีเราอาจไม่เป็นฝ่ายที่ต้องเสียเปรียบก็ได้ ”
"แต่ยี่เฟยไม่ได้อยู่กับพวกเขานิ!" และนี่ก็คือเหตุผลที่อู๋กุ้ยเซียงร้อนรน "เจ้าเด็กตระกูลฉุงนั่นช่างกล้าหาญเสียจริง ถึงกับหาคนมาลงมือระหว่างที่ยี่เฟยเดินทางไปเป่ยไห่ ถ้าไม่ใช่เพราะโชคช่วยยี่เฟย ฉันคง..."
ไป๋หยุนเผิงลู่ตาลงแล้วพูดว่า "เรื่องนี้ อาจเป็นการพลิกสถานการณ์ และเรื่องที่ตระกูลฉุงกับตระกูลเย่ลงมือนั้น ทุกคนต่างรู้ดี ซึ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ทุกคนต่างก็จับตามอง แต่ทำไมเขายังต้องลงมืออีก คุณว่าพวกเราควรไปหาตระกูลฉุงเพื่อขอคําอธิบายหน่อยไหม? ”
อู๋กุ้ยเซียงหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง และก็เข้าใจได้ในทันที แต่ตอนนี้สิ่งที่หล่อนกังวลที่สุดก็คือไป๋ยี่เฟย "ส่วนเรื่องพวกนั้นเดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ก็ได้ ซึ่งสิ่งที่สําคัญที่สุดคือสถานการณ์ตอนนี้ของยี่เฟย คุณคิดว่าจะส่งคนไปช่วยเขาดีไหม? ”
หลังจากพูดจบ ไป๋หยุนเผิงก็ส่ายหน้าเล็กน้อย "ไม่ได้ ถ้าส่งคนไปตอนนี้ เขาอาจถูกมองว่าล้มเหลวในการตรวจสอบทันที คุณก็อยู่รู้ว่าการล้มเหลวในการตรวจสอบหมายความว่ายังไง ”
อู๋กุ้ยเซียงส่งเสียงเย็นชาอย่างไม่เต็มใจ "ล้มเหลวแล้วยังไง" ความล้มเหลวสามารถปฏิเสธได้ว่าเขาไม่ใช่ลูกชายของเราอย่างนั้นเหรอ? แล้วความสัมพันธ์ทางสายเลือดอยู่ที่ไหนกัน? ใครบ้างที่จะสามารถปฏิเสธมันได้? ”
"แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่ถูกลงบันทึก ไว้ และยังไม่ได้รับการยอมรับจากตระกูลไป๋" ไป๋หยุนเผิงพูดอย่างจนปัญญา
อู๋กุ้ยเซียงยิ้มอย่างขมขื่น "ลูกชายของเรายังต้องรับการยอมรับจากคนอื่นงั้นเหรอ?"
ไป๋หยุนเผิงถอนหายใจ แล้วส่ายหน้าอย่างเงียบเงียบ
ที่พูดก็ใช่ ทั้งทั้งที่เป็นลูกชายของตัวเอง แต่ยังต้องให้คนมาอื่นยอมรับ มันก็เป็นเหมือนเรื่องตลกขบขันเรื่องหนึ่ง ที่ทําให้คนรู้สึกตลก
ส่วนไป๋หยุนเผิงเอง เขาเคยเห็นไป๋ยี่เฟยแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น เขาช่างไม่สมควรเป็นพ่อคนเลยจริงจริง ต่อให้คิดจะชดเชย แต่ก็เพราะเหตุผลแบบนี้ จึงไม่สามารถลงมือได้
อู๋กุ้ยเซียงนั่งอยู่ข้างกายไป๋หย่นเผิง แต่หล่อนกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความร้อนรน ซึ่งในหัวของหล่อนในตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยภาพที่เรื่องราวมากมายกำลังจะเกิดขึ้นกับไป๋ยี่เฟย
......
ที่ไนต์คลับ เวลาก็ผ่านอีกหนึงชั่วโมง และเย่ฮวนก็หมดความอดทนในที่สุด "ไปที่บาร์ ไปหาไป๋ยี่เฟยมาให้ฉัน! ”
มีคนรีบออกไป และมุ่งหน้าไปยังบาร์ที่ไป๋ยี่เฟยอยู่
ครึ่งชั่วโมงต่อมา คนก็กลับมา และวิ่งมาด้วยความโกรธ "แย่แล้ว ท่านประธาน ไป๋ยี่เฟยไม่ได้อยู่ที่บาร์ ห้องพิเศษของเขาก็ว่างเปล่า! ”
"อะไรนะ?" เย่ฮวนตกใจจนลุกขึ้นยืน "ไม่มีใครเห็นเขาออกไปเลยงั้นเหรอ? ”
ชายคนนั้นพยักหน้า "ผมไม่เห็นเขาออกมาเลย"
ไป๋ยี่เฟยทําอะไรอยู่กันแน่?
เรียกเขามาเจรจา แต่ตัวเองดันไปที่บาร์ จากนั้นก็คอยถ่วงเวลา แล้วตัวเองก็กลับไม่อยู่ที่บาร์อีก…….
ทันใดนั้น เย่ฮวนก็เบิกตาโพลง และตะโกนออกมาว่า "จางเถ่หลิน รีบกลับไปเร็วเข้า! ตอนแรกพวกเราคิดว่าเขาจะมาหาฉัน แต่ความจริงแล้ว เขาไปหาคุณชายของตระกูลคุณ ที่เขาตั้งใจถ่วงเวลานานขนาดนี้ บางที เขาอาจจะไปถึงประตูบ้านคุณแล้ว! ”
"ไป๋ยี่เฟยตัวคนเดียวจะไปทําอะไรได้?" จางเถ่หลินถามด้วยความงุนงง
ใช่แล้ว ยอดฝีมือของไป๋ยี่เฟยต่างก็อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว และเขาก็ไปแค่ตัวคนเดียว หรือต่อให้เขาพาอีกสองคนไปกับเขาด้วย มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะว่าสองคนนั้นไม่มีกำลังต่อสู้อะไรเลย ดังนั้นมันไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวหรอก
คนสามคนที่ไม่มีกำลังต่อสู้อะไรเลยแต่กลับกล้าไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉุงอีก ไม่ใช่ว่ากำลังรนหาที่ตายอยู่เหรอ?
เย่ฮวนขมวดคิ้ว "ผมไม่รู้ แต่คุณควรรีบกลับไปโดยด่วน เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ”
จางเถ่หลินได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าทันที พร้อมกับรีบแสดงความเคารพและเดินตรงออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่