บทที่ 394
"ไม่ต้อง” ฉุงเฉ่าเจว๋พูดอย่างเยือกเย็น "แค่ส่งคนคอยจับตาดูก็พอแล้ว ”
"ทางสถานีตํารวจก็กำลังจับตาดูฉันอยู่ด้วย" ฉุงเฉ่าเจว๋พูดสั่งอีกประโยคหนึ่ง
ผู้หญิงผิวสีเข้มก้มหัวลงตอบ
ฉุงเฉ่าเจว๋ออกไปข้างนอก เขาไม่ได้ใส่ใจในคำพูดที่ไป๋ยี่เฟยพูดไปเมื่อเช้านี้เลย เพราะเขาคิดว่ามันเป็นเพียงการต่อสู้ที่กำลังจะตายของไป๋ยี่เฟยเท่านั้น
หลังจากที่มาถึงสถานีตำรวจเมืองเทียนเป่ยแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ถูกนำตัวไปที่ห้องสอบสวน ซึ่งเขาก็ถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวในนั้น
ไป๋ยี่เฟยลงจากรถ แล้วเดินมาตลอดทาง ซึ่งในระหว่างนั้นเขากัดฟันกรอดด้วยความเจ็บปวด เมื่อเห็นว่าตํารวจพวกนี้กําลังจะจากไป เขาก็เลยรีบถามขึ้นว่า "จะสอบปากคําเมื่อไหร่ครับ" ”
“ขอยาแก้ปวดหน่อยให้ผมได้ไหมครับ”
ตำรวจหญิงหันกลับมา และจ้องไปที่ไป๋ยี่เฟย “ เรื่องมากจริง!”
ตํารวจหญิงคนนั้นก็ตามคนอื่นๆออกไป ไม่นานพวกเขาก็กลับมาถึง พร้อมกับนำยาที่ไป๋ยี่เฟยสั่งกลับมาด้วย
"เอาไปกินสะ" นอกจากยาแล้ว ยังนำน้ำต้มสุกมาแก้วหนึ่งมาด้วย
หลังจากกินยาแล้ว ตำรวจหญิงคนนั้นก็หยิบแก้วน้ำขึ้นมาและพูดว่า "เราจะต้องรอสักพักก่อนค่อยมีการสอบสวน นายอยู่คนเดียวไปก่อนแล้วกัน !”
พอพูดจบ เขาก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ไป๋ยี่เฟยนอนคว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะ เพื่อผ่อนคลายร่างกาย ถ้าคิดตามความเป็นจริงแล้ว ทําไมยังต้องรอก่อนค่อยสอบปากคําล่ะ? หรือว่าพวกเขาต้องพักผ่อนก่อน?
ด้านนอกห้องสอบสวน ตํารวจหญิงได้พบกับกู่หรงเหมือนเขากำลังจะออกไปข้างนอก ดูท่าทางรีบๆยังไงอย่างนั้น "หัวหน้า เป็นอะไรไปเหรอคะ? ”
"ในเมืองหลวงมีคนใหญ่คนโตกําลังมา เขาจะเข้ามานั่งฟังการสอบสวนด้วย" กู่หรงตอบกลับ "คาดว่าใกล้จะมาถึงแล้ว ผมต้องขอตัวไปจัดการก่อน ”
ตำรวจหญิงรู้สึกแปลกใจมาก “ มาจากเมืองหลวงงั้นเหรอ?”
กู่หรงไม่ได้อธิบายอะไรมาก "บนโต๊ะมีข้อมูลของไป๋ยี่เฟยอยู่ คุณช่วยจัดให้ก่อน แล้วค่อยศึกษาอีกที เดี๋ยวผมกลับมา"
“ได้ค่ะ หัวหน้า” ตำรวจหญิงพยักหน้า พร้อมกับหันหลังแล้วเดินไปที่สำนักงาน
หลังจากกลับไปที่สำนักงานแล้ว ตำรวจหญิงคนนั้นก็หยิบข้อมูลบนโต๊ะขึ้นมาและบ่นขึ้นว่า "ก็เห็นด้วยตาตัวเองแล้วนิ อีกอย่างก็รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากพอสมควร แล้วยังต้องดูอะไรอีกล่ะ!"
พูดก็พูดไปอย่างนั้น แต่เขาก็ยังเชื่อฟังและเปิดอ่านข้อมูลจนหมด
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟย อายุ 27 ปี
เขาไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ต่อมาเขาก็เรียนจบด้วยเกียรตินิยม และได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนเป่ย
หลังเรียนจบเขาก็ทำงานได้ช่วงหนึ่ง ชีวิตก็ขึ้นๆลงๆไม่มีอะไรดีขึ้น เมื่ออายุ 24 ปี เขาก็ได้ย้ายมาอยู่กับครอบครัวตระกูลหลี่ และแต่งงานกับหลี่เสว่
เมื่อครึ่งปีก่อน จู่ๆเขาก็กลายเป็นประธานของโหวจวี๋กรุ๊ป เขาค่อยๆสร้างตําแหน่งที่มั่นคงขึ้นมา และทํากําไรได้มากมายจากความ ฉลาดหลักแหลมของเขา
ทั้งหลิ่วซื่อกรุ๊ป และ จู้ติ่งกรุ๊ปต่างก็พ่ายแพ้และล้มละลายโดย ไป๋ยี่เฟย
คุณหนูใหญ่ของเย่ซื่อกรุ๊ปได้ร่วมมือกับบริษัทกว่า 20 แห่งเพื่อรับมือกับโหวจวี๋กรุ๊ป แต่ผลสุดท้ายก็ยังแพ้อยู่ดี ไม่เพียงแค่นั้น หลายบริษัทก็ถูกกุมตัวไปที่สถานีตํารวจ
เมื่อไม่นานมานี้ วิสาหกิจในเมืองเทียนเป่ยได้รวมเข้าด้วยกัน และกลายเป็นผู้นำรายใหญ่ของวิสาหกิจในเมืองเทียนเป่ย
ต่อมา เป็นเรื่องราวเหตุการณ์ทางคดีอาญา
สี่วันที่ผ่านมาในคืนวันแต่งงานของฉินหัว เขาถูกโจมตีระหว่างทางกลับบ้าน โดยเมื่อฉินหัวปรากฏตัวขึ้นนั้น เหตุการณ์ระเบิดก็ได้เกิดขึ้นทันที ซึ่งในเหตุการณ์นั้นมีผู้เสียชีวิตสามคน ส่วนฉินหัวได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส
และในเมื่อวานนี้เอง ไป๋ยี่เฟยเป็นผู้วางแผนการแก้แค้นทั้งหมด และในที่สุดก็ถูกตำรวจจับตัวได้
หลังจากอ่านข้อมูลเหล่านี้จบ ตํารวจหญิงก็ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
นี่คือ ทายาทเศรษฐีจริงๆงั้นเหรอ?
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านั้นที่ไป๋ยี่เฟยเคยพูดบนรถอีกครั้ง หล่อนรู้สึกว่าเหมือนหล่อนกำลังเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่