บทที่462 – ตอนที่ต้องอ่านของ ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่
ตอนนี้ของ ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดย เหมยปาเหย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่462 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่462
สุดท้ายสวีลั่งก็ไม่ได้ตามไป๋ยี่เฟยไปด้วย ความสามารถของไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเลย ปกป้องตัวเองได้สบายอยู่แล้ว และมันก็เป็นอย่างที่ไป๋ยี่เฟยพูดจริงๆ กลางดึกแบบนี้เป็นช่วงลดความระวังลง คงไม่ถูกพบเจอได้ง่ายๆ หรอก
ไป๋ยี่เฟยขับรถมาถึงแถวๆ คอนโดชิงย่วน เขารู้ดีว่าดึกดื่นแบบนี้ถ้าให้เข้าไปทางประตูหน้าละก็ หนึ่งคือมันจะเป็นที่ผิดสังเกต สองคือน่าจะเข้าไปไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจขับไปที่ข้างๆ ของวิลล่า
ด้านข้างเป็นรั้วเหล็กที่ล้อมรอบเอาไว้ โดยบนยอดไปเหล็กแหลม ถ้าเกิดไม่ระวังก็อาจจะถูกแทงเอาได้
ไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้นแล้ว พอหาตำแหน่งที่จะขึ้นได้แล้ว มันเป็นจุดอับที่กล้องส่องไม่ถึง จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปเกาะรั้วไว้สองต้น แล้วเอาเท้าเหยียบไว้ตรงกลางและส่งแรงถีบตัวเองเข้าไปข้างใน
เขามาถึงที่วิลล่าหลังที่28อย่างรวดเร็ว ด้านนอกตอนนี้นอกจากไฟข้างทางแล้วก็ไม่มีแสงสว่างจากที่อื่นเลย มันง่ายต่อการพรางตัวของไป๋ยี่เฟยมาก
การที่ไป๋ยี่เฟยอยากจะเห็นหน้าหลี่เสว่ เขาจะเข้ามาจากทางปกติไม่ได้ เขาจึงต้องแอบเข้ามาแบบนี้
ว่าแล้วไป๋ยี่เฟยก็กลั้นใจวิ่งวนไปรอบหนึ่ง ก่อนจะเห็นหน้าต่างบานหนึ่ง แล้วเริ่มปีนตามท่อขึ้นไป
ไม่กี่นาทีต่อมา ไป๋ยี่เฟยก็ปีนมาจนถึงที่หน้าต่าง เขาแอบมองเข้าไปแล้วเห็นคนๆ หนึ่งกำลังนอนอยู่ในนั้น แต่เขาเห็นไม่ถนัดว่าเป็นใคร เขาจึงจำเป็นต้องปีนเข้าห้องไป
พอเข้าไปในห้องแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ต้องดีใจเมื่อรู้ว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงก็คือหลี่เสว่นั่นเอง!
เขานี่ก็ดวงดีไม่เบาเลย คนแรกที่มาเจอก็เป็นหลี่เสว่แล้ว
ไป๋ยี่เฟยนั่งลงข้างเตียงอย่างมีความสุข แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะส่งเสียงเลยแม้แต่น้อย เพราะเขากลัวจะไปรบกวนการพักผ่อนของหลี่เสว่เข้า และกลัวจะทำให้คนที่คอยดูแลความปลอดภัยของวิลล่าตื่นมาเจอเขาเข้า
ตอนนี้หลี่เสว่กำลังนอนหลับอย่างสบายมาก ใบหน้าของเธอยังคงงดงามไม่เปลี่ยนแปลง
มองไปมองมา ไป๋ยี่เฟยก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นไปจูบเธอ แต่สุดท้ายเขาก็ยังต้องฝืนทนมันเอาไว้
เขาจะแตะต้องตัวเธอไม่ได้ เพราะถ้าเขาได้สัมผัสกับเธอแล้ว ความรู้สึกแบบนี้ทันมันก็ไม่อาจเก็บคืนมาได้แล้ว
ไป๋ยี่เฟยทำได้แค่นั่งมองหลี่เสว่อยู่ข้างเตียงเท่านั้น ถึงหลี่เสว่จะหลับไปแล้ว แต่ไป๋ยี่เฟยก็คิดว่าเขาสามารถนั่งมองเธอได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
แต่เขาก็ไม่มีเวลามากพอให้ทำแบบนั้น หลังจากนั่งจ้องเธอไปครึ่งชั่วโมง เขาก็ต้องจำใจลุกขึ้น
เนื่องจากนั่งมานานเกินไป ทำให้ตอนที่ลุกขึ้นขาของเขาก็ชาไปจนเกือบล้มลงบนที่นอน โชคยังดีที่ไป๋ยี่เฟยสามารถอดทนกับความเจ็บนั้นจนตั้งหลักได้ และไม่ได้ล้มลงไป
ไป๋ยี่เฟยอาศัยช่วงเวลาที่รอให้ประสาทสัมผัสนั้นกลับมา มองดูหลี่เสว่มากเข้าไปอีกนิด พอขากลับมาเป็นปกติเขาถึงได้เดินจากไป
แต่ทันทีที่เขาหันหลังไป ด้านหลังก็มีเสียงที่แสนเกียจคร้านดังขึ้นด้วยความแปลกใจ “ไป๋ยี่เฟย?”
ไป๋ยี่เฟยชะงักไป เขาไม่ค่อยกล้าขยับตัว เขาไม่รู้ว่าควรหันหลังหรือกระโดดหน้าต่างดี
หลี่เสว่เธอตื่นขึ้นมาเอง เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงตื่นขึ้นมาแบบนี้ บางทีอาจเป็นเพราะสัมผัสถึงการมาของไป๋ยี่เฟยก็ได้
พอหลี่เสว่เห็นเขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เธอก็เปิดผ้าห่มออก ลุกขึ้น จากนั้นก็เอ่ยเบาๆ จากด้านหลังของเขาว่า “ที่รักคะ……”
ในห้วงเวลานี้ ไป๋ยี่เฟยนั้นไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว เขาหันหลังไปแล้วดึงหลี่เสว่มากอดไว้ “ที่รัก……”
หลี่เสว่ก็กอดเขากลับเช่นกัน พอได้รับไออุ่นจากร่างกายของไป๋ยี่เฟยแล้ว มันก็ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก
ทั้งคู่กอดกันอย่างเงียบๆ โดยไม่มีใครพูดอะไรเลย
ผ่านไปเนิ่นนาน ไป๋ยี่เฟยถึงยอมปล่อยหลี่เสว่ออก “ผมต้องไปแล้วครับ”
“คุณกำลังตกอยู่ในอันตรายใช่มั้ยค่ะ?”
ตอนที่เธอถึงนำตัวมาขังไว้ที่นี่อย่างน่าประหลาด เธอก็คาดการณ์ไว้แล้วว่าไป๋ยี่เฟยต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นๆ แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาเธอมาขังไว้ เธอจึงไม่สามารถเตือนไป๋ยี่เฟยได้
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พยักหน้า เขาแค่ตอบมาว่า “เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย มีปัญหาเล็กน้อย เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
“วันนี้คุณมาช่วยฉันออกไปใช่มั้ยคะ?” พอหลี่เสว่ถามเสร็จเธอก็เริ่มสงสัย เพราะท่าทางของไป๋ยี่เฟยเมื่อกี้เหมือนเขาจะจากไปคนเดียวและไม่มีทีท่าว่าจะพาเธอไปด้วยเลย
ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ “เสว่เอ๋อ การที่คุณอยู่ที่นี่มันจะปลอดภัยกว่าไปกับผมมาก”
มันเป็นความจริง ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าหวังโหลวเป็นคนจับหลี่เสว่มา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่นี่มันปลอดภัยมาก ไม่มีใครรู้ว่าหลี่เสว่อยู่ที่นี่ และเขาก็ไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องนี้ด้วย
พอคิดมาถึงตรงนี้ ไป๋ยี่เฟยก็คิดไม่ตก เรื่องที่หวังโหลวมาเทคโอเวอร์โหวจวี๋นั้นเป็นความจริง การที่เขาร่วมมือกับหลิ่วจาวเฟิงเพื่อเล่นงานตัวเองก็เป็นเรื่องจริง แล้วทำไมเขาถึงยังต้องทำแบบนี้ด้วย?
“อะไรนะ?” หลินขวางลุกพรวดขึ้นมา “เลขาคนสวยเหรอ? หลงหลิงหลิงเหรอ? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?”
หลินขวางได้นึกถึงหลงหลิงหลิงเลขาของไป๋ยี่เฟยขึ้นมา เขาเองก็รู้ว่าหลงหลิงหลิงได้มีเงินติดตัวไปด้วยก้อนใหญ่ แต่เขาคิดว่าหลงหลิงหลิงแค่เอาเงินไปแค่นั้นจริงๆ โดยที่ไม่ได้คิดลึกไปกว่านั้นเลย
ไป๋เซี่ยวยักไหล่ “การที่เธอเอาเงินเยอะขนาดนั้นหนีไปด้วย ถ้าเป็นคุณ คุณคิดว่าคุณจะไปหาเธอรึเปล่าล่ะ?”
“คุณจะบอกว่าเธอถูกคนหาเจอแล้วอย่างนั้นเหรอ?” หลินขวางขมวดคิ้ว
ไป๋เซี่ยวทำเสียงเห็นด้วย “คุณยังไม่ถือว่าโง่นัก”
หลินขวางทำหน้าไม่พอใจ “ต่อไปอย่ามาหาผมอีก ผมขอตัวก่อน”
“จะไปทั้งอย่างนี้เหรอ? ไม่กินข้าวเช้ากันก่อนเหรอ?” ไป๋เซี่ยวพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจอะไร
หลินขวางเองก็ไม่ได้หันกลับมามอง “ถ้ายังไม่ไป เดี๋ยวจะไม่ทัน”
ไป๋เซี่ยวยักไหล่ เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจ เขารู้ดีว่าหลินขวางต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกไป๋ยี่เฟยแน่นอน และมันก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการอยู่แล้ว
……
ตอนแปดโมงกว่า ไป๋ยี่เฟยที่ยังไม่ตื่นถูกเสียงกริ่งเสียงหนึ่งปลุกขึ้น
“ใครครับ? เช้าขนาดนี้มีธุระอะไร?” ไป๋ยี่เฟยรู้สึกง่วงมาก จนถึงตอนนี้เขาได้นอนไปแค่สามชั่วโมงเท่านั้น
“ฮัลโหล พี่ไป๋ครับ รีบไปช่วยเลขาของคุณเร็ว เธอถูกคนหาเจอแล้ว” เสียงที่ร้อนรนของหลินขวางดังออกมาจากมือถือ
ไป๋ยี่เฟยได้สติและลุกขึ้นนั่งทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับ?”
หลินขวางเล่าเรื่องที่ไป๋เซี่ยวบอกเขาคร่าวๆ จากนั้นก็พูดด้วยความร้อนรนว่า “ตอนนี้พี่รีบส่งคนไปหาเธอทันทีเลย ไม่อย่างนั้นเธออาจจะไม่รอดก็ได้”
“ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากครับ” พูดจบไป๋ยี่เฟยก็วางสายไป
หลังวางสาย ไป๋ยี่เฟยก็ต่อสายหาจางหัวปิน ให้เขาเพิ่มกำลังคนในการตามหามากขึ้น เวลาเดียวกันก็ยังสั่งให้ทรัพยากรที่พอขยับได้ช่วยตามหาอีกแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่