สรุปตอน บทที่ 530 – จากเรื่อง ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดย เหมยปาเหย
ตอน บทที่ 530 ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดยนักเขียน เหมยปาเหย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 530
เมื่อเห็นฉากนี้ ไป๋ยี่เฟยก็ตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก
ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 10 โมงเท่านั้น คนเหล่านี้จะขึ้นมาอย่างโจ่งแจ้งอย่างนี้ทำไม และทำไมไม่รอจนถึงช่วงเช้ามืดก่อนค่อยลงมือล่ะ แสดงว่าพวกเขาต้องมีกำลังอยู่อย่างแน่นอน!
ภายในสิบวินาทีคนกลุ่มแรกก็ได้ปีนตามเชือกขึ้นมา
คนเหล่านี้แต่ละคนล้วนสวมเสื้อกั๊กสีดำ พร้อมกับอาวุธมีด และปืน ทันทีที่พวกเขาขึ้นมาถึงก็ตะโกนกับทุกคนว่า "หมอบลงทั้งหมด!"
ทุกคนตกใจกลัว และพากันหมอบลงตามคำเรียกร้องของคนเหล่านี้ ไป๋ยี่เฟยก็หมอบลงตามทุกคนเช่นกัน
คนที่เป็นผู้นำเป็นชายร่างสูงใหญ่ บนใบหน้าไว้หนวดเคราและจอนผมตื้นๆ เขาถือปืนขึ้นมาและชี้ไปที่ทุกคนพร้อมกับถามว่า "ใครคือไป๋ยี่เฟย? ไป๋ยี่เฟยจึงยืนขึ้นด้วยตัวเอง!"
ไป๋ยี่เฟยเหรอ?
หลังจากทุกคนได้ยินดังนั้น ก็มองไปรอบๆ
ไม่กี่คนข้างๆไป๋ยี่เฟยก็มองมาที่เขาและจำเขาได้อย่างชัดเจน
ในสองวันที่ผ่านมานี้ชื่อเสียงของไป๋ยี่เฟยมีไม่น้อยเลย
ประการแรกคือในการเลือกตั้งรอบแรกที่ปะทะกันกับหลิ่วจาวเฟิง และหวังโหลวก็ได้โอนคริสตัลกรุ๊ปไปให้ไป๋ยี่เฟยโดยตรง และอีกครั้งคือในงานประมูลของคืนนี้ ที่เขากดหัวเย่ฮวนไปถึงสามครั้ง และทำให้ทุกคนประทับใจในตัวเขา
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองไปที่ไม่กี่คนนั้นอย่างกล่าวเตือนว่า “หุบปากของแกสะ อย่าก่อเรื่องอะไรมาก!”
ไม่กี่คนนั้นตกใจกับพลังของไป๋ยี่เฟยและพากันพยักหน้า
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาก็มีคนหลายคนชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟยพร้อมกัน "เขาคือไป๋ยี่เฟย!"
"เชี้ย!" ไป๋ยี่เฟยส่งเสียงฮึ่มเบาๆ
ผู้นำชายคนนั้นหันไปมองทันที และเล็งปืนไปที่ไป๋ยี่เฟย “แกคือไป๋ยี่เฟยเองงั้นเหรอ? คือเสี่ยใหญ่ของตระกูลไป๋สินะ?”
ไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นยืนอย่างทำอะไรไม่ถูก พร้อมกับจัดเสื้อผ้าของตัวเอง “ใช่ ผมเอง”
ชายคนนั้นมองกวาดไปรอบๆตัวไป๋ยี่เฟยและส่งเสียงยิ้มเยาะไปทีหนึ่ง "มานี่!"
ไป๋ยี่เฟยยืนนิ่ง "ไม่ทราบว่าพวกคุณตามหาผมทำอะไร?"
"แน่นอนว่ามาจับแกแหละ!" ชายคนนั้นตะคอกอย่างเย็นชา
ไป๋ยี่เฟยถามขึ้นว่า "เป็นหรือตาย?"
ชายคนนั้นตอบอย่างเฉยชาว่า "จะพยายามจับเป็น"
"แน่นอนว่าถ้าฝ่ายตรงข้ามกล่าวคำสาบานว่าแม้จะตายก็จะต่อต้านแล้ว แม้จะต้องจับตายก็อาจเป็นไปได้" ชายคนนั้นพูดเสริม
ไป๋ยี่เฟยแปลกใจเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าจับตายโดยตรงหรอกเหรอ?
ชายคนนั้นเหลือบมองเขาอย่างอดไม่ได้ “น้องชายจะเป็นหรือตาย ก็อยู่ที่ตัวเองแล้วล่ะ”
ไป๋ยี่เฟย“ ... ”
“งั้นขอเวลาให้ผมสักสองนาทีหน่อยได้ไหม?" ไป๋ยี่เฟยถามอย่างเฉยชา
ชายคนนั้นเหลือบมองไปที่ทุกคน และค่อนข้างมั่นใจในคนของตัวเอง เขาจึงพยักหน้าและพูดว่า "ได้"
เมื่อพูดจบ ชายคนนั้นก็คิดว่าไป๋ยี่เฟยกำลังจะอธิบายเรื่องราวให้กับหวังโหลวที่อยู่ข้างๆเขา แต่คิดไม่ถึงว่าไป๋ยี่เฟยเพียงแค่ยิ้มให้ หวังโหลว จากนั้นก็ร้องตะโกนอย่างเสียงดังออกไปที่ประตูห้องโถง
"สหพันธ์ธุรกิจ มีกลุ่มโจรจำนวนมากขึ้นมาบนเรือ พวกคุณไม่ออกมาดูหน่อยเหรอ? ถ้ายังไม่ออกมา ก็จะเกิดเรื่องกับคนบนเรือแล้วนะ?!"
ชายคนนั้น "...... "
คนอื่นๆเห็นดังนั้นก็ตกใจกลัวกันอย่างมาก
แม่งเอ๊ยนี่มันกำลังร้องขอความช่วยเหลือนี่!
แต่ไป๋ยี่เฟยก็ทำถูกแล้ว เพราะนี่เป็นเรือสำราญของสหพันธ์ธุรกิจ และครั้งนี้ก็เป็นการจัดตั้งการแข่งขันการเลือกตั้งของสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวง เช่นนั้นพวกเขาควรรับผิดชอบต่อแขกทุกคนบนเรือสำราญลำนี้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนบนเรือสำราญก็เป็นแค่ของแตกแต่งด้วยงั้นเหรอ
ชายคนนั้นจ้องไปที่ไป๋ยี่เฟย และพูดขึ้นอย่างหัวเราะเยาะว่า “อย่าเล่นอะไรพิเรนทร์เลย!”
ไป๋ยี่เฟยยักไหล่ จากนั้นก็รออย่างเงียบๆ
หลังจากรอไปแล้วสองนาที คนของสหพันธ์ธุรกิจก็ยังไม่มา และไม่มีการตอบสนองใดๆ งั้นก็แสดงว่าพวกเขาควบคุมคนของสหพันธ์ธุรกิจไว้แล้ว
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างช่วยไม่ได้ "พวกแกเก่งมาก"
"ครับ!"
ทั้งสี่คนตอบกลับ และรีบหาชุดดำน้ำบนเรือสปีดโบ๊ทที่พวกเขาได้เตรียมมา "โครม" เพียงไม่กี่ครั้ง ทั้งหมดก็กระโดดลงไป
มีชุดดำน้ำ บวกกับไฟฉาย ทั้งสี่คนค้นหาในก้นทะเลอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามหลังจากค้นหาไปหลายรอบ นอกจากน้ำทะเลที่ดำมืดแล้ว ก็ไม่มีอะไรเลย
“เกิดอะไรขึ้น?”
ทั้งสี่คนงุนงง ทั้งทั้งที่เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าไป๋ยี่เฟย กระโดดลงมาแล้ว ทำไมถึงหาคนไม่เจอเลย?
ในขณะเดียวกันก็มีแสงจางๆอยู่ไม่ไกล จึงทำให้ทั้งสี่คนหาทิศทางไปได้
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเข้าใกล้ แสงนั้นก็กลับหายไปทันที
พวกเขาทั้งสี่หยุดไปชั่วขณะหนึ่ง และกำลังจะแลกเปลี่ยนสายตากัน แต่กลับปรากฏขึ้นแหล่งกำเนิดแสงนั่นปรากฏขึ้นอีกแล้ว
เรื่องที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ทำให้ทั้งสี่คนรู้สึกหวาดกลัวในใจเล็กน้อย และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่กล้าเดินหน้าค้นหาต่อไปแล้ว
แต่จากนั้นไม่นาน หนึ่งในนั้นก็ถือไฟฉายขึ้นส่องอีกสามคน ให้สัญญาณว่าพวกเขารีบขึ้นไปอย่างรวดเร็วเพราะพวกเขาไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งของพี่ใหญ่ได้
สัญญาณลับการอยู่ด้วยกันตลอดทั้งปีทำให้พวกเขาทุกคนเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร เมื่อนึกถึงพี่ใหญ่ พวกเขาทั้งสี่ก็ไม่กล้าที่จะต่อต้าน ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ว่ายน้ำไปยังที่นั่นต่อไป
ในเวลาเดียวกัน ในทะเลก็เงียบสงบ ชายบนเรือสำราญก็ไม่เห็นคนเหล่านั้นพาไป๋ยี่เฟยขึ้นมา เขาจึงขมวดคิ้วขึ้นทันที “ลงไปช่วยหาอีก 10 คน”
พอพูดจบ ก็มีสิบคนลงไปยังเรือเรือสปีดโบ๊ท อย่างรวดเร็ว เมื่อสวมชุดดำน้ำเสร็จ ก็ลงน้ำไปทีละคน
คนบนเรือต่างพากันดู แต่กลับไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
และ หวังโหลวในฝูงชน เมื่อเห็นว่ามีคน 10 คนกำลังลงไป จึงพูดกับตัวเองว่า "ยังมีอีก 20 คน"
"และ ปืนอีกสามกระบอก"
ในขณะนั้นเอง บนท้องฟ้าก็ปรากฏพระจันทร์เสี้ยวขึ้นมา และส่องสว่างขึ้นชั่วครู่ในพื้นที่ซึ่งมืดมนนั้น
หวังโหลวมองขึ้นไปบนท้องฟ้า และดวงตากะพริบเล็กน้อย เขายังจำได้ว่าในงานประมูล หวังโหลว พูดกับไป๋ยี่เฟยว่า "ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงมือ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่