บทที่ 564
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัวอย่างนิ่งๆ
แสงสว่างในแววตาของหยางเฉียวเริ่มดับลง
ต่อมา ไป๋ยี่เฟยก็พูดขึ้น“ถ้ามีโอกาส ฉันจะพาพวกเธอทั้งสองคนไปด้วยกัน”
พูดจบ แสงสว่างในสายตาของหยางเฉียวก็สว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ
เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ หยางเฉียวคุกเข่าลงทันที“ถ้าสามารถพาพวกเราสองพี่น้องไปได้จริงๆ ฉันก็ยอมทุกอย่างเพื่อคุณไป๋”
ไป๋ยี่เฟยรีบห้ามเธอไว้“ช่างมันเถอะๆ ไม่ต้องทำอะไรเพื่อฉัน ฉันแค่จะช่วยพวกเธอเท่าที่ฉันจะทำได้แค่นั้นแหละ อีกอย่างเพื่อนกันทั้งนั้นมาพูดแบบนี้มันดูห่างเหินเกินไปใช่ไหมล่ะ?”
“แถมฉันก็ไม่ใช่ว่าจะพาพวกเธอออกไปได้จริงๆสักหน่อย ฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วกัน แต่ถ้าไม่ได้ล่ะก็ ฉันก็จะออกไปก่อน จากนั้นก็ค่อยมารับพวกเธอ”
ขอแค่ไป๋ยี่เฟยออกจากที่นี่แล้วกลับไปถึงเทียนเป่ยแล้ว เชื่อว่าการที่จะกลับมารับพวกเธอออกมา ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรแน่นอน
แต่ว่า ทั้งสองพี่น้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มานานขนาดนี้ นึกว่าที่นี่คือนรก ข้างนอกคือสวรรค์ ไม่รู้อะไร ข้างนอกมันก็เป็นนรกดีๆอีกที่หนึ่งเหมือนกันนั่นแหละ
แต่แค่ที่หนึ่งเป็นนรกที่มองเห็น อีกที่เป็นนรกที่มองไม่เห็นก็เท่านั้น
ช่วงค่ำ ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ฝันแบบนั้นอีกแล้ว แล้วก็ยิ่งมั่นใจในการคาดเดาของตัวเองมากขึ้นด้วย แต่แค่ว่าหลังจากที่ตื่นมาแล้ว อาการบาดเจ็บมันไม่ได้หายเร็วขนาดนั้น
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าแปลกมากๆ หรือว่ายานอนหลับนั่นมันมีผลรักษาอาการบาดเจ็บเหมือนกัน?
หลังจากที่กินอาหารเช้าไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ให้หลินจื่อพาเขาไปดูเขตเหมืองหมายเลขสามสักหน่อย หลักๆแล้วคืออยากจะไปดูว่าคลังสินค้าอยู่ที่ไหน จะได้ขโมยน้ำมันสะดวก
“ปกติแล้วประชาชนชั้นล่าง จะเลือกมาขุดเหมือง ส่วนที่ขุดได้ก็จะส่งไปให้กับโรงงานเหมือง แล้วโรงงานก็จะเอาจำนวนที่คุณขุดมาได้ไปเทียบกับจำนวนส่วนประกอบของทองคำแล้วมาคิดคำนวณเป็นค่าจ้างให้กับคุณ”
หลินจื่อเดินไปพลางพูดกับไป๋ยี่เฟยไปพลาง“โชคดีที่พี่ของผมมีร้านอาหาร ไม่ต้องไปขุดเหมือง”
พูดขึ้นมาต่อ“เขตเหมืองใหญ่มากๆ ใหญ่ชนิดที่ว่าคุณคิดไม่ถึงเลย”
ไป๋ยี่เฟยเตรียมใจไว้แล้ว แต่ตอนที่เห็นเข้าจริงๆ เพิ่งจะรู้ว่า มันใหญ่จริงๆ ใหญ่ชนิดที่ว่าจินตนาการไม่ได้เลย
เขตเหมืองอยู่ขอบๆเมือง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนที่เว้าเข้าไป ภูเขาทั้งหมดตรงนั้นก็ใช่ทั้งหมด ทางเข้ามีประตูสูงตั้งตระหง่านอยู่ ตรงประตูมีคนถือปืนยืนเฝ้าอยู่โดยเฉพาะ
เข้าไปง่าย ใครก็สามารถเข้าไปได้ แต่ออกมาไม่ได้ง่ายเหมือนตอนเข้า ออกมาต้องผ่านการค้นตัวอย่างเข้มงวดเสียก่อน
หลังจากที่ทั้งสองคนเข้าไปด้วยกันแล้ว ก็เห็นรูเหมืองจำนวนนับไม่ถ้วน
มองออกไป เหมือนกับรังผึ้งดีๆนี่เอง
“เขตเหมืองหมายเลขสามแห่งนี้ อยู่ที่เมืองหลัน จัดอยู่แค่อันดับที่สามเท่านั้น” หลินจื่อพูดขึ้น
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกตกใจ เหมืองที่ใหญ่ขนาดนี้อยู่แค่อันดับที่สามเท่านั้นเองเหรอ ถ้าอย่างนั้นเหมืองอันดับที่หนึ่งจะใหญ่กว่าหมายเลขสามถึงสองเท่าเลยเหรอ?
แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาของไป๋ยี่เฟยเท่านั้น คงต้องไปดูเองกับตา
พวกเขาเดินๆดูรอบเหมือง แต่ไม่เห็นคนคุมงานเลย คนที่นี่มาขุดเหมืองก็มาด้วยความรู้สึกส่วนตัวของตนเองทั้งนั้น
เพราะว่าถ้าไม่ขุด ก็ไม่มีเงิน
ดังนั้นจึงเห็นคนมากมายจับกลุ่มคุยกัน
“จริงๆแล้วพวกเขาขุดทองอยู่ที่เป็นเวลาหนึ่งเดือน ถ้ากลับไปก็จะต้องกลายเป็นชนชั้นกลางอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าอาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดาย ส่วนใหญ่กลับไปไม่ได้”
ถ้าอยากกลับไปก็ต้องได้ทองหนึ่งร้อยกิโลกรัม ถึงจะซื้อตั๋วเรือได้หนึ่งใบ
ถ้าทองหนึ่งร้อยกิโลกรัมนี้อยู่ที่แผ่นดินใหญ่ล่ะก็ แน่นอนว่าจะไม่ใช่เป็นแค่ชนชั้นกลางอย่างแน่นอน อาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ
คุณภาพชีวิตของคนที่นี่ล้าหลังมาก แม้แต่อุปกรณ์สารสนเทศยังไม่มี
ถ้าเกิดมีเครื่องมือสารสนเทศ ไม่แน่ว่าอาจจะคิดหาวิธีออกจากที่นี่ไปแล้วก็ได้
แน่นอนว่า ยกเว้นพวกที่ยังมีความโลภอยู่ ถึงขนาดที่สหพันธ์ธุรกิจจงใจเก็บอุปกรณ์พวกเขาไป ทำให้พวกเขาไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้
หลังจากเดินวนหนึ่งรอบ ไป๋ยี่เฟยก็พบว่าที่นี่มีคลังสินค้าสามแห่ง แต่ละคลังล้วนแต่มีคนถือปืนคอยคุ้มกันอยู่ทั้งนั้น ถ้าคิดที่จะขโมยน้ำมัน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ขโมยน้ำมันได้จริงๆ ทางออกของที่นี่ทุกๆที่ก็มีคนเฝ้าไว้อยู่24ชั่วโมง จะขนออกไปก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน
ลำพังฝีมือของไป๋ยี่เฟยคนเดียวยังพอได้อยู่ แต่ถ้าเจอปืนเข้าไป ก็ช่างมันแล้วกัน!
สุดท้าย ไป๋ยี่เฟยทำได้แค่แอบจำตำแหน่งของคลังสินค้า แล้วก็จำนวนของรถบรรทุกเอาไว้ ก่อนจะออกไปจากเหมืองพร้อมกับหลินจื่อ
ทั้งสองคนเดินกลับไปพลางพูดคุยกัน พอกลับไปถึง ก็เห็นร้านอาหารเล็กๆ เละเทะไปหมด
นอกจากนี้แล้ว โต๊ะอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า หน้าต่างทั้งหมดถูกทำพังไปหมด
หลินจื่อเห็นแบบนี้ก็รีบวิ่งเข้าไปข้างใน“พี่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่