บทที่584
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกโกรธมาก
ฉีฉีมีเหตุผลมากพอที่จะฆ่าเขา แต่สุดท้ายแล้ว ในตอนที่ฉีฉีลงมือ เขาก็ยังรู้สึกโกรธมากอยู่ดี
ถ้าไม่ใช่เพราะต้องช่วยฉีฉี เขาก็คงไม่ต้องลำบากแบบนี้ เขาคงสามารถหนีไปได้ตั้งนานแล้ว ไม่แน่ตอนนี้เขาอาจจะไปรวมตัวกับพี่น้องตระกูลหยางแล้วก็ได้
นี่มันอะไร? อุตส่าห์มีน้ำใจช่วยคนเอาไว้ แต่คนๆ นั้นกลับหันมาฆ่าตัวเองเนี่ยนะ?
ไป๋ยี่เฟยนั่งพิงต้นไม้ ใบหน้าขมวดจนจะเป็นก้อนแล้ว แถมยังหายใจหอบมากด้วย
ไป๋ยี่เฟยไม่กล้าดึงแผ่นไม้ที่ปักอยู่ตรงหัวไหลของเขาออกโดยพลการ เพราะยาที่เขาเอามาก็ใกล้จะหมดแล้ว ถ้าดึงมันออกมา แล้วมันเกิดแทงโดนหลอดเลือดแดงขึ้นมา เขาคงต้องเสียเลือดจนตายแน่ๆ
บวกกับแผลอื่นๆ ที่ยังไม่หายดี เขาจึงไม่กล้าทำอะไรอย่างวู่วามทั้งนั้น
ส่วนฉีฉีก็สาหัสไม่ต่างกัน พอถูกไป๋ยี่เฟยถีบไปแบบนี้ เธอก็ไม่มีแรงจะขยับต่อแล้วทั้งสองคนต่างก็ไม่มีแรงเหลือแล้วตอนนี้ได้แต่นั่งจ้องหน้ากันไปมาเท่านั้น
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ตอนนี้โอเคแล้วนี่ หนีออกมาได้แล้วแท้ๆ แม่งก็ยังต้องมาตายอยู่ดี!”
“รู้อย่างนี้ ฉันก็ไม่ช่วยเธอไว้ตั้งแต่แรกแล้ว”
ฉีฉีสะดุ้งเบาๆ แล้วพูดว่า “ความลับของที่แห่งนี้จะให้คนนอกรู้ไม่ได้เด็ดขาดขอแค่นายตาย ส่วนฉันจะตายไม่ตายก็ไม่สำคัญ”
ไป๋ยี่เฟยหายใจหนักยิ่งกว่าเดิม แล้วหันไปมองแผ่นไม้ที่เสียบอยู่บนตัวอีกครั้ง แล้วเขาก็ต้องตกใจ บางที ฉีฉีอาจจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าคงฆ่าเขาไม่ได้ ดังนั้น เธอจึงวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
เพราะผลลัพธ์ในตอนนี้ก็ไม่ต่างกับการฆ่าเขาตั้งแต่แรกเลย
ไป๋ยี่เฟยแอบพูดในใจ :ช่างเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์เหลือเกิน! โอกาสที่วันนี้เขาจะรอดไปได้นั้นน้อยมาก แต่ถ้าเขาสามารถรอดไปได้ละก็ ผู้หญิงคนนี้ต้องตายสถานเดียว!
ทันใดนั้นเอง ก็มีคนตะโกนขึ้นว่า
“ทางนั้นมีคน!”
พอได้ยินเสียงนั้น สีหน้าของไป๋ยี่เฟยกับฉีฉีก็ซีดลงทันที
สักพักก็ได้มีคนกลุ่มใหญ่วิ่งมาจากที่ไกลๆ พร้อมกับมีดสะปาต้าและกระบองครบมือ
คนประมาณสี่ห้าสิบคนได้ล้อมทั้งคู่เอาไว้
จากนั้น พวกเขาก็แหวกตรงกลางออกเป็นทาง ให้คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา
คนที่เป็นหัวหน้าก็คือ จ้าวเทียนนั่นเอง อีกคนก็คือไอ้หัวล้านที่ไป๋ยี่เฟยเคยสู้ด้วยก่อนหน้านี้ ส่วนอีกคนก็คือชายหนุ่มสุดหล่อที่มีผมสีทอง
เมื่อจ้าวเทียนเห็นไป๋ยี่เฟยกับฉีฉีที่อยู่ในสภาพใกล้ตาย เขาก็ดูอารมณ์ดีมาก แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่าฮ่า……หนีต่อไปสิพวกแก! ดูซิเจ็บหนักขนาดนี้แล้ว ยังคิดจะหนีอีก?”
“พวกแกนี่มันก็ดวงแข็งไม่เบาเลยนะ ทั้งไฟเผา ระเบิดถ้ำก็ยังรอดตายกันมาได้ หนีเก่งกันจริงๆ!”
พูดจบ จ้าวเทียนก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของไป๋ยี่เฟย แล้วเตะใส่ลำตัวของไป๋ยี่เฟย พร้อมกับพูดออกมาว่า “หนีต่อไปสิ? แกกระทืบฉันได้อย่างสะใจเลยไม่ใช่รึไง?”
“แถมยังอยากฆ่าฉันด้วยไม่ใช่เหรอ? ไหนตอนนี้แกลองฆ่าให้ฉันดูหน่อยสิ?”
“เอื๊อ……”
ลูกเตะของจ้าวเทียนครั้งนี้ทำเอาไป๋ยี่เฟยเจ็บจนทนไม่ไหว จนเขาต้องส่งเสียงร้องออกมา ร่างกายก็เริ่มสั่นขึ้นมา
จ้าวเทียนยิ่งพูดยิ่งรู้สึกโกรธ “ตั้งแต่เล็กจนโตฉันยังไม่เคยถูกใครกระทืบมาก่อนเลย แล้วแกยังคิดจะมากระทืบฉัน! คอยดูว่าฉันจะกระทืบแกจนตายให้ดู!”
พูดจบ จ้าวเทียนก็ใช้ขาถีบไป๋ยี่เฟยครั้งแล้วครั้งเล่า
ไป๋ยี่เฟยถูกถีบจนลงไปนอนกับพื้นแล้ว ความเจ็บปวดจากบาดแผลทำให้เขาเหงื่อออกไปทั้งตัว สติของเขาก็เริ่มเลือนรางเข้าไปทุกที
แต่ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้หมดสติไปซะทีเดียว แถมเขายังพูดออกมาอีกว่า “แม่งเอ๊ย! แกอย่าได้ตกมาอยู่ในกำมือของฉันเชียวนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาแกให้ตายเลย!”
พอ จ้าวเทียนได้ยินอย่างนั้น เขาก็กระทืบไปอีกรอบ “จะเอาฉันให้ตายเหรอ? แกฝันอยู่รึไง? ฉันต่างหากล่ะที่เป็นพระเจ้าของเกาะนี้ ถ้าแกยังอยู่บนเกาะนี้แม้แต่วันเดียว แกก็ต้องทำตามที่ฉันสั่ง!”
ไป๋ยี่เฟยไม่พูดอะไรอีกแล้ว เพราะเขาแทบคงสติไว้ไม่ได้แล้ว
พอเหนื่อยแล้ว จ้าวเทียนถึงได้ปล่อยไป๋ยี่เฟยไป จากนั้นก็เดินไปหาฉีฉี นั่งลง แล้วใช้มือบีบคางของฉีฉีเอาไว้ ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “สาวน้อยคนนี้หน้าตาไม่เลวเลย ฉันยังไม่เคยได้ลองแบบนี้มาก่อนเลย พามันกลับไปให้ฉันด้วย”
แต่ไอ้หัวล้านกลับไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ของ จ้าวเทียน
ถึงไป๋ยี่เฟยใกล้จะหมดสติเต็มทน แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ว่า จ้าวเทียนกับไอ้หัวล้านจะไม่ถูกกันเท่าไหร่
ไอ้หัวล้านพูดว่า “ผู้หญิงคนนี้จำเป็นต้องตาย ส่วนผู้ชายจะต่อยไม่ตายก็ไม่เป็นไร”
แต่จ้าวเทียนกลับสวนไปว่า “ไม่ได้ ฉันถูกพวกชั้นต่ำนี่ทรมานมามาก ถ้าปล่อยให้พวกมันตายไปง่ายๆ แบบนี้ มันดูจะสบายไปหน่อย ผู้หญิงคนนี้เก็บไว้ให้ฉันได้สนุกก่อน จากนั้นค่อยฆ่าทิ้งก็ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่