บทที่ 593
“ชีวิตที่คนในครอบครัวรักใคร่ปรองดองไม่สั่นคลอน พี่น้องไร้ห่วงไร้กังวล” สวีลั่งตอบเสียงราบเรียบ
หลังกัปตันเรือฟังจบ ก็แปลกใจอย่างยิ่ง “หมดแล้ว?”
“หมดแล้ว” สวีลั่งทอดสายตาไปในอากาศ ไม่รู้ว่ามองไปที่ไหน
หมดแล้วจริงๆ นี่ก็คือสิ่งที่ไป๋ยี่เฟยต้องการ
เรื่องนี้สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว อาจไม่นับว่าเป็นความฝัน และไม่นับว่าเป็นเป้าหมายอะไร เพราะว่าคนส่วนใหญ่ต่างก็ทำมันได้
แต่ เรื่องนี้สำหรับไป๋ยี่เฟยแล้ว เป็นความเพ้อฝันอย่างหนึ่ง
ทว่า สวีลั่งกลับรู้สึกว่าตนเองยิ่งน่ารันทดกว่าเดิม “อย่างน้อยก็มีเป้าหมาย ทั้งยัง ไม่รู้ว่าควรทำอะไร?”
การบอกว่าตามหาน้องสาวคือเป้าหมาย ใช่ นี่คือเป้าหมายของเขามาตลอด แต่ผ่านมานานหลายปีขนาดนี้ ก็ยังหาตัวน้องสาวไม่พบ ในใจเขารู้รางๆ แล้วว่าน้องสาวอาจตายไปนานแล้ว
กัปตันเรือเห็นเช่นนี้ก็ถามว่า “เมื่อก่อนคุณทำอาชีพอะไรล่ะ?”
“ฆ่าคน” สวีลั่งตอบ
กัปตันเรือ “......”
สวีลั่งกล่าวเสียงเรียบ “ก็คืองานแบบนั้นที่เหมือนอย่างในละครทีวี นักฆ่า นั่นแหละงานผม”
กัปตันเรือหัวเราะ “เจ้าหนุ่มช่างมีอารมณ์ขันจริงๆ”
แต่ กัปตันเรือพูดจบไม่นานนัก ก็หัวเราะไม่ออก เพราะเหตุการณ์ในสองวันมานี้ ทำให้เขาตกตะลึงจริงๆ และรู้ว่า คนคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้กำลังล้อเล่นอยู่
ต่อมากัปตันเรือจึงหมดคำพูด
เงียบอยู่นาน กัปตันเรือก็ถอนหายใจพลางกล่าว “เรื่องของพวกคุณผมไม่เข้าใจมากนัก และก็ไม่อยากจะไปเข้าใจด้วย แต่ผมเห็นว่า ตอนที่คุณพูดถึงเจ้าหนุ่มคนนั้น สายตาคุณมีประกาย”
“ผมว่านะ ที่จริงคุณรู้ว่าตัวเองควรทำอะไร คุณเหมือนกับเขา พวกคุณเป็นคนแบบเดียวกัน”
“เขาต้องการชีวิตที่ปรองดองรักใคร่ไร้กังวล ส่วนคุณ ก็ต้องการช่วยเขาทำเป้าหมายนี้ให้สำเร็จ”
สิ้นคำ สวีลั่งก็นิ่งไป จ้องกัปตันเรือพลางอ้าปาก เหมือนคิดจะโต้แย้ง กลับโต้แย้งไม่ออก สุดท้ายจึงแค่นเสียงเบา “หน้าเขาใหญ่ขนาดนั้นที่ไหนกัน?”
กัปตันเรือเห็นเช่นนี้ก็ส่ายหน้าแล้วเผลอยิ้มออกมา “อย่างนั้นคุณมาที่นี่แทนเขาทำไมล่ะ?”
คำพูดต่อจากนี้ กัปตันเรือไม่ได้พูดแล้ว กลัวว่าจะทำให้สวีลั่งรู้สึกเก้อเขิน
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง เรือได้แล่นออกมาไกลมากแล้ว
สวีลั่งมองดูเวลา แล้วกล่าวว่า “ใกล้แล้ว ปล่อยเรือกู้ชีพ พวกเราจะสละเรือ”
กัปตันเรือพยักหน้า ไปที่จุดปล่อยเรือกู้ชีพพร้อมกับสวีลั่ง จากนั้นก็ปล่อยเรือกู้ชีพลงในทะเล
สวีลั่งกระโดดขึ้นไปบนเรือกู้ชีพก่อน จากนั้นก็ยื่นมือไปรับกัปตันเรือ
ทว่า จู่ๆ กัปตันเรือได้ตัดเชือกที่ผูกเรือกู้ชีพทิ้ง
สวีลั่งชะงักไป จากนั้นก็ตะโกนว่า “คุณทำอะไร? รีบลงมาเร็ว!”
กัปตันเรือเพียงแค่ส่ายหน้า แล้วมองไปที่เรือสำราญ กล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าหนุ่ม รบกวนช่วยอะไรสักเรื่องสิ นำของสิ่งนี้ไปมอบให้กับเมียฉันที เธออยู่ที่หมู่บ้านคอนโดหวนเจียงปี่สุยวันที่เป่ยไห่ บนของสิ่งนี้มีที่อยู่เขียนไว้แล้ว”
พูดจบ กัปตันเรือก็โยนกระเป๋าหนังใบหนึ่งให้สวีลั่ง
สวีลั่งรับไว้ แต่ร้อนใจอย่างมาก “อย่าพูดเหลวไหล คุณลงมา เอากลับไปให้เองสิ!”
กัปตันเรือยังคงส่ายหน้า “ไม่ล่ะ ผมขับเรือมาสามสิบปี มีความผูกพันกับมัน ทิ้งไม่ลง”
“เรือไม่มีแล้วก็ซื้อใหม่ได้ แต่คนตายแล้ว ยังจะมีความผูกพันบ้าบออะไรอีก รีบลงมาเร็ว!” สวีลั่งร้อนใจมาก
กัปตันเรือยิ้ม “คุณดูกระเป๋าใบนั้นก็จะรู้เอง รีบไปเถอะ นี่คือจุดจบที่ดีที่สุดของผม”
สิ้นคำ ก็มีเสียง “หึ่งๆ” ของเฮลิคอปเตอร์ขบวนหนึ่งดังเข้ามา ปรากฏจุดสีดำหลายจุดอยู่ไกลๆ
สวีลั่งพลันตระหนกวาบ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
......
เกาะโขดหินเกาะนั้น อยู่ตำแหน่งทางใต้สุด มีเนื้อที่เล็กๆ เท่ากับ0.4ตารางกิโลเมตร
ตรงนี้เป็นจุดที่เรือสำราญมาถึงก่อนเป็นที่แรก และเป็นจุดที่คนกลุ่มแรกลงจากเรือ
หลี่เสว่ก็เป็นคนกลุ่มแรกที่ลงจากเรือ ไป๋ยี่เฟยในเวลานั้น ยังอยู่ที่ห้องบังคับเรือ
หลี่เสว่รู้ว่าไป๋ยี่เฟยไม่มีทางให้ตัวเองลงจากเรือก่อน ดังนั้นเธอจึงเลือกกลุ่มแรก ก็เพราะไม่อยากให้ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าตนเองได้รับบาดเจ็บ
หากไป๋ยี่เฟยรู้เข้า ด้วยนิสัยของเขา เกรงว่าคงจะรีบร้อนกลับไป ฆ่าอีกหนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่