บทที่ 600
“หา?” หลงหลิงหลิงชะงักไป
เมื่อก่อนหลงหลิงหลิงได้รับความลำบากขนาดนั้น ก็ไม่เคยหักหลังไป๋ยี่เฟย แสดงว่าหลงหลิงหลิงซื่อสัตย์ต่อเขา ไป๋ยี่เฟยซาบซึ้งอยู่ในใจและวางใจอย่างมาก
โหวจวี๋กรุ๊ปเมื่อก่อนเป็นของตระกูลไป๋ แต่ตอนนี้ เป็นของไป๋ยี่เฟยเองแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องฟังเขา
ความสามารถของหลงหลิงหลิงไม่ด้อย ให้เธอมาดูแลโหวจวี๋กรุ๊ป เธอเองก็วางใจมากเช่นกัน
หลังหลงหลิงหลิงได้สติขึ้นมา ก็กล่าวอย่างลนลานว่า “ประธานคะ ฉัน......”
ไป๋ยี่เฟยตัดบทคำพูดของหลงหลิงหลิงทันที “ไปทำเถอะ ฉันเชื่อในฝีมือเธอ”
หลงหลิงหลิงนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นแสงแห่งความเด็ดเดี่ยวก็วาบผ่าน พยักหน้ากล่าวว่า “ค่ะ ท่านประธาน”
คนเราต่างหวังอยากให้ตัวเองได้เดินขึ้นไปอยู่ในที่สูงๆ เธอทำมาหลายปีขนาดนี้ จากผู้ช่วยจนถึงประธานในปัจจุบัน แล้วนี่จะไม่ให้ตื่นเต้นได้หรือ?
ไป๋ยี่เฟยอ่านสัญญาของชูริเวอร์รีสอร์ท กล่าวเสียงเรียบว่า “รีสอร์ทนี้ ให้ไอ้หัวล้านหลิวไปทำ”
หลงหลิงหลิงเบิกตากว้างอย่างแปลกใจ
ไอ้หัวล้านหลิวเป็นเพียงนักเลงข้างถนนคนหนึ่ง ไม่ใกล้เคียงกับเรื่องเหล่านี้เลย อีกทั้งยังไม่นับว่าเป็นคนของไป๋ยี่เฟยเสียทีเดียว งานนี้ให้เขาทำ หากว่า......
ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าหลงหลิงหลิงประหลาดใจมาก จึงกล่าวว่า “เธออย่าเพิ่งสนเรื่องนี้เลย ฉันจะไปบอกกับเขาเอง”
“ค่ะ”
......
หลังหลงหลิงหลิงจากไป หลี่เสว่ก็ถามอย่างกังวลใจอยู่บ้าง “สามี เย่ฮวนกำลังเตรียมการอยู่ พวกเราซื้อโหวจวี๋กรุ๊ปกับรีสอร์ทเข้ามาแล้ว ทางด้านเงินทุนจะไม่พอหรือเปล่าคะ?”
เย่ฮวนขายสองแห่งนี้ ก็คือการเอาทุนคืนไม่ใช่หรือ?
ส่วนพวกเขาซื้อเข้ามา ใช้เงินทุนที่แบ่งไว้ส่วนหนึ่งไปหมดแล้ว หลี่เสว่กังวลว่าถึงเวลาเงินทุนจะไม่พอ
ไป๋ยี่เฟยกลับยิ้มให้หลี่เสว่ “ภรรยาวางใจ โครงการนี้ จะต้องเป็นของพวกเรา”
เวลาแข่งประมูลเป็นอีกครึ่งเดือนให้หลัง พวกไป๋ยี่เฟยไม่คุ้นกับเมืองหัวซ่าง เพราะอย่างไรโหวจวี๋กรุ๊ปก็มีที่ดินหลันโปกั่งอยู่ที่เมืองหัวซ่างคนของพวกเขารู้แล้วว่าที่ดินผืนนี้ทุกคนเรียกกันว่าหลี่จู้ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเถ้าแก่ของอสังหาริมทรัพย์วั่นเจีย เวลานั้นจึงทุ่มเงินทุนไปทั้งหมด ซื้อที่ดินที่ห่างไกลผืนนี้ไว้ เตรียมจะสร้างสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเป่ยไห่
แต่ไม่รู้เพราะอะไร โครงการนี้จู่ๆ ก็ถูกระงับไป
เริ่มจากปี08 ทั้งประเทศที่พักอาศัยราคาพุ่งสูงขึ้น ราคาที่ดินก็สูงตามไปด้วย อีกทั้ง การพัฒนาที่ผ่านมาสิบกว่าปี ที่ดินห่างไกลบางส่วนได้พัฒนากลายเป็นที่ดินที่ค่อนข้างเจริญไปแล้ว
ตอนนี้ที่ดินผืนนี้จะแข่งประมูล ต่อให้หยิบออกมาขายอย่างเดียว นั่นก็มีแต่กำไรไม่ขาดทุน
หากไป๋ยี่เฟยคว้าที่ดินผืนนี้มาได้ อย่างนั้นเมื่ออยู่ที่เมืองเป่ยไห่ ไป๋ยี่เฟยก็สามารถทัดเทียมกับเย่ซื่อกรุ๊ปได้
ไป๋ยี่เฟยส่งยิ้มอย่างมั่นใจให้หลี่เสว่ “เวลาครึ่งเดือน เพียงพอให้กลับไปกลับมาที่เมืองหลันแล้ว
“คุณยังจะไปที่นั่นทำอะไรอีก?” ขณะที่หลี่เสว่รู้สึกแปลกใจ ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวไปด้วยในคราวเดียวกัน
ไป๋ยี่เฟยกล่าวเสียงเรียบ “แน่นอนว่าไปเอาเงิน”
“แต่ ก่อนหน้านั้น ผมยังมีเรื่องต้องทำ”
......
ในช่วงบ่ายของวันต่อมา ไป๋ยี่เฟย หลี่เสว่และสวีลั่งนั่งเบนซ์ขับไปยังเมืองเป่ยไห่
บาดแผลบนตัวหลี่เสว่ยังไม่หายดีทั้งหมด แต่พอรู้ว่าไป๋ยี่เฟยจะไปเมืองเป่ยไห่ เธอก็วางใจไม่ลง จึงติดตามมาด้วย
เวลาบ่ายสามโมง รถเบนซ์ก็มาจอดตรงหน้าร้านอาหารจิงฉูของเมืองเป่ยไห่
สวีลั่งกล่าวเสียงเรียบ “ที่นี่แหละ”
ไป๋ยี่เฟยมองร้านอาหาร เพราะไม่ใช่เวลาทานอาหาร ดังนั้นจึงแทบจะไม่มีคน
จู่ๆ สีหน้าไป๋ยี่เฟยก็ขรึมลง
สีหน้าสวีลั่งเองก็เคร่งเครียดขึ้นมาเช่นกัน เขายื่นมือ เตรียมเปิดประตูรถ
จู่ๆ ไป๋ยี่เฟยก็ร้องเรียก “พี่ลั่ง”
สวีลั่งนิ่งไป ถอนมือกลับมา “ทำไมหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยถามยิ้มๆ “นายกับหยางเฉียวเป็นยังไงบ้าง?”
สวีลั่งได้ยิน ก็หน้าแดงขึ้นมาทันที “ก็......อย่างนั้นแหละ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่