ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ นิยาย บท 600

สรุปบท บทที่ 600: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

สรุปตอน บทที่ 600 – จากเรื่อง ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดย เหมยปาเหย

ตอน บทที่ 600 ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดยนักเขียน เหมยปาเหย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 600

“หา?” หลงหลิงหลิงชะงักไป

เมื่อก่อนหลงหลิงหลิงได้รับความลำบากขนาดนั้น ก็ไม่เคยหักหลังไป๋ยี่เฟย แสดงว่าหลงหลิงหลิงซื่อสัตย์ต่อเขา ไป๋ยี่เฟยซาบซึ้งอยู่ในใจและวางใจอย่างมาก

โหวจวี๋กรุ๊ปเมื่อก่อนเป็นของตระกูลไป๋ แต่ตอนนี้ เป็นของไป๋ยี่เฟยเองแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องฟังเขา

ความสามารถของหลงหลิงหลิงไม่ด้อย ให้เธอมาดูแลโหวจวี๋กรุ๊ป เธอเองก็วางใจมากเช่นกัน

หลังหลงหลิงหลิงได้สติขึ้นมา ก็กล่าวอย่างลนลานว่า “ประธานคะ ฉัน......”

ไป๋ยี่เฟยตัดบทคำพูดของหลงหลิงหลิงทันที “ไปทำเถอะ ฉันเชื่อในฝีมือเธอ”

หลงหลิงหลิงนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นแสงแห่งความเด็ดเดี่ยวก็วาบผ่าน พยักหน้ากล่าวว่า “ค่ะ ท่านประธาน”

คนเราต่างหวังอยากให้ตัวเองได้เดินขึ้นไปอยู่ในที่สูงๆ เธอทำมาหลายปีขนาดนี้ จากผู้ช่วยจนถึงประธานในปัจจุบัน แล้วนี่จะไม่ให้ตื่นเต้นได้หรือ?

ไป๋ยี่เฟยอ่านสัญญาของชูริเวอร์รีสอร์ท กล่าวเสียงเรียบว่า “รีสอร์ทนี้ ให้ไอ้หัวล้านหลิวไปทำ”

หลงหลิงหลิงเบิกตากว้างอย่างแปลกใจ

ไอ้หัวล้านหลิวเป็นเพียงนักเลงข้างถนนคนหนึ่ง ไม่ใกล้เคียงกับเรื่องเหล่านี้เลย อีกทั้งยังไม่นับว่าเป็นคนของไป๋ยี่เฟยเสียทีเดียว งานนี้ให้เขาทำ หากว่า......

ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าหลงหลิงหลิงประหลาดใจมาก จึงกล่าวว่า “เธออย่าเพิ่งสนเรื่องนี้เลย ฉันจะไปบอกกับเขาเอง”

“ค่ะ”

......

หลังหลงหลิงหลิงจากไป หลี่เสว่ก็ถามอย่างกังวลใจอยู่บ้าง “สามี เย่ฮวนกำลังเตรียมการอยู่ พวกเราซื้อโหวจวี๋กรุ๊ปกับรีสอร์ทเข้ามาแล้ว ทางด้านเงินทุนจะไม่พอหรือเปล่าคะ?”

เย่ฮวนขายสองแห่งนี้ ก็คือการเอาทุนคืนไม่ใช่หรือ?

ส่วนพวกเขาซื้อเข้ามา ใช้เงินทุนที่แบ่งไว้ส่วนหนึ่งไปหมดแล้ว หลี่เสว่กังวลว่าถึงเวลาเงินทุนจะไม่พอ

ไป๋ยี่เฟยกลับยิ้มให้หลี่เสว่ “ภรรยาวางใจ โครงการนี้ จะต้องเป็นของพวกเรา”

เวลาแข่งประมูลเป็นอีกครึ่งเดือนให้หลัง พวกไป๋ยี่เฟยไม่คุ้นกับเมืองหัวซ่าง เพราะอย่างไรโหวจวี๋กรุ๊ปก็มีที่ดินหลันโปกั่งอยู่ที่เมืองหัวซ่างคนของพวกเขารู้แล้วว่าที่ดินผืนนี้ทุกคนเรียกกันว่าหลี่จู้ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเถ้าแก่ของอสังหาริมทรัพย์วั่นเจีย เวลานั้นจึงทุ่มเงินทุนไปทั้งหมด ซื้อที่ดินที่ห่างไกลผืนนี้ไว้ เตรียมจะสร้างสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเป่ยไห่

แต่ไม่รู้เพราะอะไร โครงการนี้จู่ๆ ก็ถูกระงับไป

เริ่มจากปี08 ทั้งประเทศที่พักอาศัยราคาพุ่งสูงขึ้น ราคาที่ดินก็สูงตามไปด้วย อีกทั้ง การพัฒนาที่ผ่านมาสิบกว่าปี ที่ดินห่างไกลบางส่วนได้พัฒนากลายเป็นที่ดินที่ค่อนข้างเจริญไปแล้ว

ตอนนี้ที่ดินผืนนี้จะแข่งประมูล ต่อให้หยิบออกมาขายอย่างเดียว นั่นก็มีแต่กำไรไม่ขาดทุน

หากไป๋ยี่เฟยคว้าที่ดินผืนนี้มาได้ อย่างนั้นเมื่ออยู่ที่เมืองเป่ยไห่ ไป๋ยี่เฟยก็สามารถทัดเทียมกับเย่ซื่อกรุ๊ปได้

ไป๋ยี่เฟยส่งยิ้มอย่างมั่นใจให้หลี่เสว่ “เวลาครึ่งเดือน เพียงพอให้กลับไปกลับมาที่เมืองหลันแล้ว

“คุณยังจะไปที่นั่นทำอะไรอีก?” ขณะที่หลี่เสว่รู้สึกแปลกใจ ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวไปด้วยในคราวเดียวกัน

ไป๋ยี่เฟยกล่าวเสียงเรียบ “แน่นอนว่าไปเอาเงิน”

“แต่ ก่อนหน้านั้น ผมยังมีเรื่องต้องทำ”

......

ในช่วงบ่ายของวันต่อมา ไป๋ยี่เฟย หลี่เสว่และสวีลั่งนั่งเบนซ์ขับไปยังเมืองเป่ยไห่

บาดแผลบนตัวหลี่เสว่ยังไม่หายดีทั้งหมด แต่พอรู้ว่าไป๋ยี่เฟยจะไปเมืองเป่ยไห่ เธอก็วางใจไม่ลง จึงติดตามมาด้วย

เวลาบ่ายสามโมง รถเบนซ์ก็มาจอดตรงหน้าร้านอาหารจิงฉูของเมืองเป่ยไห่

สวีลั่งกล่าวเสียงเรียบ “ที่นี่แหละ”

ไป๋ยี่เฟยมองร้านอาหาร เพราะไม่ใช่เวลาทานอาหาร ดังนั้นจึงแทบจะไม่มีคน

จู่ๆ สีหน้าไป๋ยี่เฟยก็ขรึมลง

สีหน้าสวีลั่งเองก็เคร่งเครียดขึ้นมาเช่นกัน เขายื่นมือ เตรียมเปิดประตูรถ

จู่ๆ ไป๋ยี่เฟยก็ร้องเรียก “พี่ลั่ง”

สวีลั่งนิ่งไป ถอนมือกลับมา “ทำไมหรือ?”

ไป๋ยี่เฟยถามยิ้มๆ “นายกับหยางเฉียวเป็นยังไงบ้าง?”

สวีลั่งได้ยิน ก็หน้าแดงขึ้นมาทันที “ก็......อย่างนั้นแหละ”

รอยยิ้มของหญิงสาวแข็งค้าง มองไพ่ไม่กี่ใบที่อยู่ในมือพวกเขา ได้แต่อดทน

“เครื่องบิน!” พ่อครัวร่างอ้วนเปิดเครื่องบินต่อหน้าคนพวกนั้น ไพ่ในมือไม่มีแล้ว

พ่อครัวร่างอ้วนเห็นเช่นนี้ก็ไม่เล่นอีก โยนไพ่ในมือลงบนโต๊ะ ตะคอกใส่พ่อครัวที่อยู่ด้านข้าง “ฉันว่ายังไงก็ไม่มีระเบิด? หากมีระเบิด เจ้าหมอนี่ยังจะออกได้อีกเหรอ?”

พ่อครัวคนนั้นรู้สึกไม่เป็นธรรมอย่างมาก “แต่ฉันไม่มีระเบิดนะ”

พ่อครัวอีกคนเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มตาหยีกล่าว “เอาล่ะๆ เปิดหมดแล้ว พูดแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ เอาเงินมาๆ ......”

พ่อครัวร่างอ้วนเห็นเช่นนี้ก็แค่นเสียงอย่างไม่ยอมแพ้ “ไม่ได้ มาเล่นกันอีกตา”

หญิงสาวได้ยินประโยคนี้พลันอดทนไม่ไหว เอ่ยปากอีกครั้งว่า “พ่อครัว คุณว่าใกล้จะได้เวลาแล้ว เกือบจะหกโมงแล้วนะ”

พ่อครัวร่างอ้วนยังคงไม่เงยหน้า ในมือกำลังล้างไพ่ “กลัวอะไร? ยังไม่มีคนไม่ใช่เหรอ? รอคนมาก็ยังไม่สาย”

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเริ่มเล่นใหม่อีกตา

พ่อครัวคนอื่นๆ และพนักงานที่อยู่รอบๆ ต่างแอบมองอยู่ทางนี้ แต่ละคนทำสีหน้าแปลกประหลาด

หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกอีกครั้ง ครั้งนี้ เธอระงับความโกรธของตนเองไม่ได้อีก คว้าไพ่ที่เหลืออยู่บนโต๊ะ โยนทิ้งลงพื้นทันที “พอแล้ว! ที่นี่คือที่ทำงาน!”

พ่อครัวร่างอ้วนกับคนอื่นๆ ต่างชะงักไปกันหมด

จากนั้นพ่อครัวร่างอ้วนก็ยิ้มเยาะ ลุกขึ้นยืน มองไปทางหญิงสาว กล่าวอย่างเหยียดหยาม “เถ้าแก่กำลังชักสีหน้าใส่พวกเราหรือ?”

หญิงสาวโกรธจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง กล่าวเสียงเย็นชา “นายยังรู้ด้วยหรือว่าฉันเป็นเถ้าแก่ร้านนี้?”

พ่อครัวร่างอ้วนได้ยินก็กล่าวอย่างไม่แยแส “คุณหมายความว่ายังไง? พูดมาตรงๆ เลยเถอะ”

หญิงสาวแค่นเสียงเย็นชา จ้องพ่อครัวร่างอ้วนอย่างเอาเป็นเอาตาย “ฉันจะบอกนายให้นะ ฉันทนนายมานานแล้ว อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ นายเอาวัตถุดิบในครัวกลับไปบ้านตัวเอง เนื้อวัวร้อยชั่ง นายเอากลับไปบ้านห้าสิบชั่ง!”

“เพื่อนนายมากินข้าวที่นี่ นายให้ฉันไม่ต้องคิดบิลให้พวกเขาฉันไม่ว่า นายยังจะให้พวกเขากินของแพงอีก!”

“อ้อ ยังมีอีก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าที่ตลาดเนื้อวัวราคา58หยวน นายกลับเมคราคาขึ้นเป็น88 นายเห็นฉันเป็นคนโง่เหรอ?”

“ฉันไม่ใช่ไม่รู้ เพียงแต่อดทนมาตลอด ไม่พูดเท่านั้นเอง ก็เลยทำให้นายคิดว่าฉันรังแกง่ายใช่ไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่