อ่านสรุป บทที่ 2108 ดอกไม้ดอกเล็ก ๆ จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 2108 ดอกไม้ดอกเล็ก ๆ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
หรือจะกล่าวได้ว่า พวกเขาไม่ได้อยู่ที่ทะเลทรายอีกต่อไปแล้ว
พวกเขาหยุด แล้วเซียวเฉวียนก็พูดเบา ๆ ว่า “พวกเราพักกันที่นี่เถอะ”
เมื่อกี้นี้ ในช่วงที่วิกฤตนั้น เซียวหมิงชิวกางม่านพลังเพื่อต้านแรงปะทะของย่าเหยียน แต่ด้วยระยะเวลาที่จำกัด ทำให้เซียวหมิงชิวไม่สามารถที่จะกางม่านพลังครอบคลุมทุกคนได้ และพลังมันก็ระเบิด
แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำอันตรายอะไรพวกเขา แต่การระเบิดที่ดังนั้น ก็ทำให้หูพวกเขาอื้อไป
สองมือของย่าเหยียนนั้นมันเร็วเกินไป พวกเขาที่พยายามหลบระเบิด ไม่มีเวลาที่จะมาป้องกันหูของตัวเอง
หยุดพักซักหน่อย ให้หูกลับมาเป็นปกติก่อน
เซียวเฉวียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ เซียวหมิงชิวและชิงหลงได้ยินไม่ชัดเจน ชิงหลงจึงถามกลับไปว่า "ใต้เท้าเซียว ท่านพูดว่าอะไรนะ?”
เสียงของชิงหลงไม่ได้ดังสำหรับเขา แต่จริง ๆ แล้วมันดังกว่าปกติมาก
เซียวเฉวียนอาจมีพลังงานภายในลึก ๆ เมื่อหยุดและกระตุ้นพลังภายในของเขาเล็กน้อย เสียงดังหึ่ง ๆ ในหูของเขาก็ไม่อื้ออีกต่อไป ดังนั้น เสียงของชิงหลงจึงดูดังไปซักหน่อย
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ผ่อนคลายลง จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นว่า “ข้าบอกว่า หยุดพักที่นี่กันเถอะ”
คราวนี้ชิงหลงได้ยินชัดเจนแล้ว จึงตอบว่า “ตกลง”
ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้แล้วพูดออกมาว่า “ใต้เท้าเซียว อาการบาดเจ็บของท่านดีขึ้นแล้วหรอ?”
เซียวเฉวียนพยักหน้าแล้วพูดตอบว่า “ก็ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงมาก”
แต่เซียวเฉวียนยังไม่สามารถพูดได้ว่าความแข็งแกร่งภายในของชาวคุนหลุนสามารถทำให้อาการบาดเจ็บของเขาหายเร็วขึ้น
การพูดเช่นนี้ ก็เหมือนกับบอกกับชิงหลงว่า เซียวเฉวียนมาจากคุนหลุน
เซียวเฉวียนเป็นชนพื้นเมืองของฮวาเซี่ย ถือได้ว่าเป็นคนต้าเว่ย ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นชาวคุนหลุน
นอกจากที่ย่าเหยียนพูดที่ชายขอบอารามป่าแล้ว คิดว่าชิงหลงก็คงจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วเหมือนกัน
หากมีการเปิดเผยอาการบาดเจ็บ ชิงหลงรวมกับสิ่งที่ย่าเหยียนพูดแล้ว คิดว่าความรู้เดิมของชิงหลงเองคงเดาได้อย่างแน่นอนว่า ผนึกจูเสินอาจจะอยู่ในร่างของเซียวเฉวียน
ท้ายที่สุดแล้วก็อย่างที่รู้กันดีว่า เจี้ยนจงสามารถครอบครองร่างของเว่ยหยูได้
และชิงหลงก็รู้ดีว่าผนึกจูเสิน เดิมทีนั้นเคยเป็นร่างเดียวกันเมื่อหลายพันทีก่อน ดังนั้นจึงไม่น่าจะใช่เรื่องงยากที่จะคิดว่าได้ว่ามันจะต้องมีหน้าที่ครอบงำคนผู้นั้นด้วย
ตราบใดที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป เซียวเฉวียนจะไม่สามารถซ่อนความลับในการครอบครองผนึกจูเสินต่อหน้าชิงหลงได้อีก
เมื่อได้ยินว่าอาการบาดเจ็บของเซียวเฉวียนนั้นหายเร็วมาก ดวงตาของชิงหลงก็ฉายแววออกมาด้วยความประหลาดใจ แต่มันก็หายไปโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
ในขณะเดียวกัน ชิงหลงที่เต็มไปด้วยความสงสัย ย่าเหยียนก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน เพราะอะไรการฟื้นฟูตัวถึงได้แตกต่างจากครั้งก่อนมากขนาดนี้?
แม้ว่าชิงหลงจะไม่ได้แสดงท่าทีหรือถามเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก แต่เซียวเฉวียนก็รู้ว่า ใคร ๆ ก็คงมีความสงสัยอยู่ในใจ
เซียวเฉวียนหาข้อแก้ตัวที่จะหลอกชิงหลงได้แล้วว่า “อาจเป็นเพราะว่าข้าถูกเข็มพิษของเธอโจมตีครั้งสุดท้าย ร่างกายข้าก็เลยเปลี่ยนไป”
หากครั้งที่แล้วเซียวเฉวียนไม่โดนเข็มพิษของเธอ อาการบาดเจ็บของเซียวเฉวียนก็คงไม่หายเร็วขนาดนี้
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ทันใดนั้นเองเซียวเฉวียนก็จำได้ว่าเขาเตือนชิงหลงในป่า ว่าให้ระวังย่าเหยียนทำร้าย หากชิงหลงคิดว่าอย่างถี่ถ้วนอีกซักหน่อยก็จะจับสังเกตได้
เพื่อที่จะเติมเต็มข้อบกพร่องตรงนี้ เซียวเฉวียนโกหกอีกครั้งว่า “ครั้งสุดท้ายที่ข้าบาดเจ็บจากเธอ มันใช้เวลาในการรักษานานากว่านี้”
ด้วยเหตุนี้ เซียวเฉวียนจึงได้เตือนชิงหลง
เอาเจี้ยงจงมาเป็นโล่ ไม่ว่าชิงหลงจะสงสัยขนาดไหน มันก็จะหายไปในทันที
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชิงหลงก็ตอบอย่างไม่ได้สงสัยอะไรอีกว่า “นั่นสินะ”
แต่ชิงหลงกลับมีข้อสงสัยอีกเรื่องหนึ่งว่า “ใต้เท้าเซียว ข้าเพิ่งเห็นว่ามือของเธอถูกท่านดึงไว้ข้างหนึ่ง มันเกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?”
เขาเห็นชัดว่าย่าเหยียนพยายามดึงมือของเธอออก แต่มันก็ล้มเหลว
หากม่านพลังของเธอกางได้ไม่ทันเวลา พวกเขาคงจะถูกโจมตี จินตนาการถึงอาการบาดเจ็บไม่ออกเลยจริง ๆ
หญิงชราคนนี้มีวิธีการมากมาย ถ้าเธอเอาชนะพวกเขาไม่ได้เธอก็แค่ระเบิดมันซะ!
น่ารังเกียจ!
ถ้าครั้งต่อไปเซียวหมิงชิวเจอเธออีก เซียวหมิงชิวจะทำให้เธอกินไม่หมด แอบห่อพากลับซะเลย!
หลังจากที่ได้ยินคำต่อว่าของเธอ เซียวเฉวียนก็ยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า “เพราะอย่างงี้เธอต้องพยายามพัฒนาตัวเองอย่างหนักเลยหล่ะ”
จากการต่อสู้ครั้งนี้ เราได้รู้ว่าความแข็งแกร่งของย่าเหยียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือเธอไม่ได้ออกไปไหนเลยแต่เห็นได้ชัดเลยว่าเธอรับมือยากขึ้นกว่าเดิม
เซียวหมิงชิวก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เธอพ่นลมหายใจออกมาแล้วพูดว่า “นั่นมันเรื่องปกติ”
เธอต้องการที่จะปกป้องเซียวเฉวียนและกลายเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังกับเซียวเฉวียน และเธอก็อยากพัฒนาความแข็งแกร่งของเธออย่างต่อเนื่องอกี
เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่พวกนี้ พลังภายในของเธอยังคงอ่อนแออยู่
ตราบใดที่เธอยังคงพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองต่อไป ปัญหาพวกนี้ก็จะได้รับการแก้ไข
เธอมีความมั่นใจที่จะชนะย่าเหยียนได้
การได้ยินของชิงหลงก็กลับมาเป็นปกติแล้วเช่นกัน เขาเหลือบมองที่เซียวหมิงชิวด้วยดวงตาที่อ่อนโยนแล้วพูดว่า “ใต้เท้าเซียว หมิงชิวเก่งอยู่แล้ว ท่านไม่ต้องเข้มงวดกับเธอมากนักหรอก"
หลังจากที่พูดเช่นนั้น เขาก็หันไปที่เซียวเฉวียนแล้วพูดว่า “ใต้เท้าเซียว หมิงซิวยังเด็กอยู่ ดังนั้นท่านไม่จำเป็นต้องคาดหวังกับเธอไว้สูงขนาดนั้นหรอกใช่ไหม?”
ยิ่งกว่านั้นคือเธอก็เป็นเหมือนดอกไม้ดอกเล็ก ๆ
เซียวเฉวียนพูดบ่อย ๆ ว่า ไม่ใช่ว่าครอบครัวของเด็กผู้หญิงควรที่จะได้รับการปกป้อง และอยู่ห่างจากเรื่องทะเลาะวิวาทหรอกหรือ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...