CRAZY GUY คลั่งรักร้าย นายเย็นชา นิยาย บท 59

EP59

สนามกอล์ฟ

"นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้มาตีกอล์ฟด้วยกันนานขนาดนี้" เสียงของปรเวทเพื่อนสนิทอีกคนของเดชาเอ่ยถามขึ้นในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งอยู่ภายในร่มของสนามกอลืฟแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหลวง ปรเวทเป็นตระกูลเชื้อเจ้าตั้งแต่รุ่นทวดมาจนถึงปัจจุบันเขาเป็นพ่อของภาคิณและตระกูลของเขาก็มีอำนาจในการตัดสินอะไรหลายเรื่องหรือแม้แต่กระทั่งเงินทองและของเก่าแก่มากมาย

"ต่างคนต่างมีภารกิจที่ต้องทำเลยหาโอกาสเจอกันยากหน่อย" เดชาตอบเขานั่งอยู่บนเปลสีขาวโดยมีดนุและบอดีการ์ดรวมถึงคนบริการของสนามกอล์ฟคอยยืนอยู่รอบบริเวณ

"เรื่องที่ขอให้ช่วยทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดีแล้วนะ"

"ขอบคุณที่ยอมช่วย เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับอนาคตของเมฆาถ้าหากชีวิตตัวเองต้องพังลงคนเดียวฉันจะไม่ขอให้นายช่วยเลย"

"ลูกของนายก็เหมือนลูกชายฉัน อีกอย่างนายเคยช่วยอะไรฉันไว้ยังจำได้รึเปล่า" ปรเวทหันไปถามคนข้างกาย ในอดีตเดชาเคยช่วยพ่อของเขาเอาไว้ซึ่งตอนนี้ท่านก็เสียชีวิตไปแล้ว เดชายอมปิดปากเงียบเรื่องฉาวของตระกูลจนทำให้ตระกกูลของเขายังขาวใสสะอาดมาจนถึงทุกวันนี้แล้วเพราะอะไรถึงคราวที่เขาขอความช่วยเหลือบ้างปรเวทจะไม่ยอมช่วยแม้มันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีก็ตามถือว่าทั้งสองเก็บความลับของกันและกันไว้

"จำได้สิ"

"ไม่คิดเลยนะว่าคนที่นายไว้ใจจะคิดหักหลังกันแบบนี้"

"คงเป็นเรื่องพลาดอีกเรื่องในชีวิตที่ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้"

"มาถึงตอนนี้ก็ถือว่าเป็นบทเรียนก็แล้วกัน ว่าคนเรามันไว้ใจกันไม่ได้หรอก"

"จะหาคนไว้ใจมันก็ยาก แต่ฉันเชื่อว่าฉันไว้ใจนายได้นะ" เดชาหันไปมองคนข้างกาย

"ฉันไม่คิดจะหักหลังใครก่อนอยู่แล้วโดยเฉพาะคนที่มีพระคุณต่อตระกูลของฉันอย่างนาย" ปรเวทตอบออกมาด้วยความมั่นใจ เรื่องที่เดชาขอก็คือเรื่องของกวี เดชากำลังเล่นงานกวีกลับอย่างเงียบๆด้วยวิธีการล้วงข้อมูลผิดกฎหมายหลายอย่างของเขาเพื่อเปิดโปงในวันหมั้นที่จะมาถึงส่วนหลักฐานของตนเองที่กวีมีจะถูกทำลายลงอย่างเงียบๆเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น ทุกอย่างจะดำเนินผ่านองกรค์ลับของตระกูลซึ่งสามารถเจาะลึกได้ทุกหน่วยภายในประเทศ มันง่ายต่อการเล่นงานกวีกลับอย่างเนียนที่สุด

"ฉันก็คิดแบบนั้น คนอย่างนายกับมันต่างกันสิ้นดีเลย"

"เอาเถอะ...มาฉลองให้กับความชนะของนายที่ใกล้จะมาถึงกัันดีกว่า" ปรเวทหยิบแก้วกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจิบก่อนจะวางมันไว้ที่เดิม เจ้าของร่างสูง ผิวพรรณสะอาดสะอ้านโครงหน้าชัดเจน แม้อายุจะอยู่ในช่วงกลางคนแล้วยังบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหน้าตาของเขามันหล่อเหลาขนาดไหนเมื่อตอนเป็นหนุ่ม ตอนนี้ก็ไม่สามารถบดบังเค้าโครงรูปหน้าของเขาได้เลย

"ไปสิ...รออะไรล่ะ" ว่าแล้วเดชาก็หยัดกายลุกขึ้นจากเปลสีขาวแล้วเดินนำปรเวทไปยังข้ามสนามพร้อมกับรับอุปกรณ์จากพนักงานสาวเพื่อจะเริ่มตีกอล์ฟ

...

อู่ซ่อม

บรื้นนน บรื้นนน

เสียงของรถยนต์ดังกระหึ่มหน้าอู่ซ่อมของภูผาละความสนใจให้เขามองไปข้างหน้าก็พบกับร่างของใครบางคนก้าวขาลงมาจากรถพร้อมกับควันที่พ่นออกจากท้ายรถ เจนนี่เดินมุ่งตรงเข้ามาหาภูผาแล้วยืนอยู่ตรงหน้าเขา

"รถมันพังอ่ะ นายช่วยดูให้หน่อยได้มั้ย"

"พังตอนอยู่หน้าอู่ฉันพอดีหน่ะหรอ" ชายหนุ่มถามกลับโดยที่ไม่ได้ละสายตามองเจ้าของนํ้าเสียงนั้นเลยแม้แต่นิดดเดียว

"ก็รถมันพัง เป็นช่างซ่อมก็ช่วยซ่อมหน่อยสิ" เจนนี่พูดพรางเอนหลังพิงกับรถยนต์คันเก่าที่จอดพังอยู่ไม่ไกลนัก

"เดี๋ยวช่วยดูให้ก็แล้วกัน"

"ดี"

"..." ภูผาไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเขาละสายตาจากรถจักรยานยนตร์ที่ซ่อมอยู่แล้วเดินหิ้วอุปกรณ์การซ่อมเดินไปที่รถของเจนนี่ก่อนจะวางมันไว้กับพื้นแล้วตรวจดูสภาพของรถ

"ไปทำอะไรมาล่ะ รถถึงได้พังแบบนี้"

"ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆมัันก็พังที่อู่นายพอดี"

"แต่ดูเหมือนว่าเธอจะตั้งใจให้มันพังมากกว่านะ"

"ก็บอกว่าไม่ใช่ไง" เจนนี่กอดอกมอง

"มีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า อย่าอ้อมค้อมเลย"

"โดนจับได้แล้วสินะ" เธอถอนหายใจแล้วส่ายหัวไปมากับการรู้ทันของภูผา

"ทำอะไร?"

"ฉันก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้นหรอกแต่มันจำเป็น"

ผลั๊วะ...

พูดยังไม่ทันขาดคำเจนนี่ก็ใช้กำปั้นทุบท้ายทอยภูผาจนเขาล้มลงบนพื้น เธอไม่รอช้าใช้เท้าเตะเข้าที่คอของภูผาซํ้าอีกรอบจนทำให้ครั้งนี้เขาไร้สติไปแล้ว

"เอามันขึ้นรถ" เธอเอ่ยสั่งเสียงนิ่งแล้วใช้มือเสยผมหน้าขึ้น ก่อนที่การ์ดสวมชุดดำสองคนจะเดินลงมาจากรถตู้สีขาวที่จอดอยู่ไม่ไกลนักแล้วพาร่างของภูผาขึ้นไปยังรถตู้ เธอจัดการปิดอู่ซ่อมของภูผาให้ปิดมิดชิดแล้วเดินตามลูกน้องเข้าไปบนรถ พอขึ้นมาถึงก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาใครบางคน รอไม่นานปลายสายก็กดรับ

( เป็นไง ) ปลายสายกรอกผ่านเครื่องมือสื่อสาร

"เรียบร้อยดีค่ะ"

( ดูแลให้ดีด้วย อย่าปล่อยออกมา )

"ได้ค่ะ"

ตี้ดดดด...

ว่าแล้วเมฆาก็กดตัดสายทิ้ง เขาสั่งให้เจนนี่ดูแลความปลอดภัยของภูผาเพราะเขามั่นใจว่าทั้งของขวัญและคนรอบตัวของเธอตอนนี้คงไม่ปลอดภัย ส่วนเขาจะพาของขวัญมาอยู่ด้วยเพื่อให้อยู่ในสายตา ด้านเจนนี่ก็ต้องทำหน้าที่คอยประสานงานเพื่อบอกเรื่องราวทั้งหมดให้ภูผาฟังจนกว่าเรื่องทุกอย่างจะสำเร็จอย่างที่แผนวางไว้

...

18:00 น.

ในขณะที่ของขวัญกำลังเดินกลับอู่ซ่อมเพียงลำพังหลังจากเรียนเสร็จในสมองของเธอก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งคนตัวเล็กหยุดอยู่ที่สะพานข้ามแม่นํ้าที่เคยมากับเบตองเมื่อคราวก่อนหญิงสาวยืนรับอากาศบริสุทธิ์แล้วทอดสายตามองไปยังวิวทิวทัศน์ตรงหน้า ไม่ได้คิดมากเรื่องของเมฆาแล้วเพราะเธอมั่นใจว่าเขามีเหตุผลจำเป็นเพียงแต่กำลังคิดถึงเรื่องในอดีตเท่นั้นเอง

Lien..

ท่ามกลางความเงียบบริเวณรอบตัวมีเพียงเสียงรถวิ่งอยู่บนท้องถนนที่ห่างออกไปทำให้เธอละความสนใจจากสิ่งตรงหน้าแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูว่าใครส่งข้อความเข้ามา

? : ผู้หญิงทุกคนชอบคนเลวแบบนั้นหรอ?

? : ทำไมคนที่ทำดีถึงไม่เคยได้รับความรักเลยล่ะ

ของขวัญได้แต่มึนงงกับคำถามของเขาจากแอคเค้าท์ปริศนาที่ส่งเข้ามาในไลน์ของเธอ หญิงสาวคิดว่าคงมีใครสักคนกำลังกลั้นแกล้งตนเองอยู่แน่ๆจึงเลือกที่จะเก็บโทรศัพท์มือถือเอาไว้ในกระเป๋าสะพาย แต่ยังไม่ทันได้เก็บก็มีข้อความเด้งเข้ามาอีกครั้ง

? : ลองเลวดูหน่อยจะเป็นอะไรไหมนะ

: คุณเป็นใคร

: ต้องการอะไรกันแน่

ข้อความไร้การตอบกลับใดๆกลับมาของขวัญได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยอาการหวาดหวั่นเล็กน้อยดวงตากลมโตกวาดมองทั่วบริเวณรอบข้างก่อนจะตัดสินใจเดินหนีออกมาจากตรงนั้นเพราะรู้สึกเหมือนมีสายตาของใครบางคนคอยจับจ้องอยู่ พอเดินมาได้ไม่ไกลมากนักหางตาก็บังเอิญเห็นเงาของร่างใครบางคนเป็นผู้ชายคุ้นตา ด้วยความสงสัยขาเรียวจึงก้้้าวเดินตามเพื่อไปดูให้แน่ชัดว่าเป็นใคร

ร่างที่เห็นเพียงแผ่นหลังสวมฮู้ดสีดำ มือล้วงถุงกางเกงเดินไม่รีรอไปยังอีกด้านของสะพานที่เป็นแสงสลัวแล้วเขาก็หยุดยืนที่ราวกั้น ขาเหมือนกำลังจะยกขึ้นเพื่อเหยียบแล้วกระโดดลงไปในแม่นํ้านั้นทำให้เธอต้องรีบวิ่งเข้าไปห้ามเอาไว้ซะก่อน

"คุณ...เดี๋ยวค่ะ" ร่างเล็กในชุดนักศึกษาวิ่งเข้าไปรั้งแขนของเขาเอาไว้ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าของร่างนั้นคือใคร

"..."

"อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ การคิดสั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย คุณอย่าทำอะไรแบบนี้เลยนะคะ"

"..." ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเขาเพียงค่อยๆหันหน้ากลับมามองคนข้างกายอย่างช้าๆแล้วยกมือจับหมวกออก

"พี่เบ..." พอได้เห็นใบหน้าของผู้ชายปริศนาที่ได้เห็นตอนแรกเธอก็แอบตกใจเล็กน้อย ที่แก้มข้างซ้ายของเบตองเหมือนมีรอยบาดจากของคมอะไรสักอย่างคล้ายกับว่าแผลยังไม่ได้ผ่านมานานหลายวัน

"บังเอิญจังเลย" เขาเอ่ยทักด้วยนํ้าเสียงเรียบนิ่ง ของขวัญจึงค่อยๆผละมืออกจากแขนแกร่งแล้วถอยห่างออกมาจากเขาพอสมควร ที่ก้มหน้าหลบสายตาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะคือเบตองที่พึ่งเลิกกันได้ไม่นานมานี้

"พี่เบไม่ได้จะทำแบบนั้นใช่ไหมคะ"

"ทำแบบไหน" เบตองเอ่ยถามด้วยนํ้าเสียงเรียบนิ่ง แววตาของเขาที่เคยมองของขวัญด้วยความรักตอนนี้กลับแปรเปลี่ยน เหมือนซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในดวงตาคู่นั้นมากกว่าความรัก

"พี่กำลังจะทำเหมือนสิ่งที่หนูเคยทำแต่ก่อน"

"ฆ่าตัวตายแบบนั้นหรอ"

"ค่ะ อย่าทำแบบนั้นเลยนะคะ ถ้าพี่ทำแบบนั้นหนูคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต"

"ทำไมต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะ ฉันไม่ได้จะทำอะไรแบบนั้นสักหน่อย" พูดจบมือหนาก็ล้วงหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบ

"ก็หนูเห็นพี่กำลังจะทำแบบนั้น"

"ต่อให้ฉันตายไปจริงๆเธอก็คงไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว"

"ทำไมพี่เบถึงพูดแบบนั้นละคะ เราควรจบกันด้วยดีนะแล้วมันก็เป็นทางเลือกของพี่ด้วย หนูขอโทษอีกครั้งนะคะ"

"ใช่ มันเป็นทางเลือกของฉัน" ชายหนุ่มเอ่ยตอบแล้วพ่นควันบุหรี่ออกมาจากริมฝีปากหยัก ก่อนจะปรายตาหันกลับมามองคนข้างกายอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป

"..."

"แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าตัวเองเลือกผิดทาง"

"พี่เบหมายความว่ายังไงคะ"

"บางทีฉันก็อยากลองเห็นแก่ตัวดูบ้างนะ เธอชอบคนเลวไม่ใช่หรอ?"

...

เบตองนายมีแผนอะไรรรรรร

เบตองนางอกหักจากความรักทำดีไม่เคยได้หััวใจเลยทำให้นางเปลี่ยนความคิดบวกกับโดนเป่าหู ยังไงก็มาลุ้นด้วยกันนะคะว่าจุดจบของแต่ละตัวละครจะเป็นยังไงงง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: CRAZY GUY คลั่งรักร้าย นายเย็นชา