“หลานเข้าใจอะไรไหมเนี่ย?”
คุณย่าอย่างเธอมีความหมายแฝงต่างหาก
สกายเข้าใจแล้ว ยิ้มแล้วพูดขึ้น “คุณย่า คุณย่าจะแกล้งพี่ผมอีกแล้วเหรอ?”
คุณย่าเหลือบมองเขา “ถ้าถามอีกคำ จะแกล้งหลานด้วย”
สกายจึงเงียบกริบทันใด
ถึงแม้เขาจะเห็นอกเห็นใจพี่ แต่เพื่อให้ตัวเองสงบสุข ก็ไม่พูดอะไรมาก ฆ่าพี่ดีกว่าฆ่าตัวเอง
คุณย่าคือคนแก่ดื้อ หัวใจกลับเป็นเด็กอีกครั้ง ชอบเอาหลานๆ อย่างพวกเขามาฝึกซ้อมฝีมือมากที่สุด
อีกด้านหนึ่ง ดอกหญ้าปิดประตูร้านหนังสือ หยิบหมวกกันน็อคจากในมือเพื่อนสนิทมา แล้วหยิบกุญแจรถอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้น “ฉันขับเอง!”
แก้วตานั่งอยู่ด้านหลังเป็นอย่างดี โอบกอดเอวดอกหญ้าอย่างเป็นธรรมชาติมาก แล้วพูดขึ้น “ดอกหญ้า ถ้าเธอเป็นผู้ชายจะดีแค่ไหนนะ ฉันจะแต่งงานกับเธอ ไม่ต้องถูกแม่ฉันเร่งเร้าให้แต่งงานทุกวัน”
“ทำตัวดีๆ หน่อย อย่าลูบซี้ซั้ว ระวังฉันจะโยนเธอลงจากรถ!”
ดอกหญ้าเตือนเพื่อนสนิทหนึ่งคำ ก่อนจะสตาร์ทรถจักรยานยนต์
ไมล์ล่า คอฟฟี่ ดอกหญ้าผ่านทางอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยเข้าไปบริโภคมาก่อน เพียงเพราะเธอไม่ชอบดื่มกาแฟ เธอชอบดื่มชากุหลาบไม่ก็ชาเก๊กฮวย
มาถึงไมล์ล่า คอฟฟี่แล้ว ฝ่ายชายรออยู่ อาจจะเพราะให้ความประทับใจอันดีงามแก่ฝ่ายหญิงล่ะมั้ง ฝ่ายชายสวมชุดสูทรองเท้าหนัง สวมเนกไทสีแดงสลับขาวด้วย ในมือถือดอกกุหลาบช่อหนึ่งรออยู่ตรงประตู
แก้วตาดึงเพื่อนสนิทแล้วเดินไปหาเขา
“ไม่ทราบว่าใช่คุณพิพัฒน์ไหมคะ?”
คุณพิพัฒน์มองสำรวจแก้วตากับดอกหญ้าหนึ่งรอบ ไม่รู้ไปพักหนึ่งว่าคนไหนคือคนที่นัดบอดกับเขาในคืนนี้
ผู้ที่แนะนำเคยให้เขาดูรูปแล้ว เขาเหลือบมองตามใจชอบ รู้ว่าอีกฝ่ายหน้าตาสวยมาก แต่เขาจำลักษณะของคุณแก้วตาไม่ได้จริงๆ ผู้ที่แนะนำให้เขาถือช่อดอกกุหลาบไปรอที่ประตู คุณแก้วตาจะจำเขาได้เอง
“คุณคือคุณแก้วตา?”
“ใช่ค่ะ”
คุณพิพัฒน์ยิ้มแล้วเชิญทั้งสองเข้าไป เขาจองที่ริมหน้าต่างไว้เรียบร้อยแล้ว สามารถเห็นวิวถนนด้านนอกได้
หลังจากนั่งลง คุณพิพัฒน์เหลือบมองดอกหญ้าหลายครั้ง แก้วตาแนะนำเพื่อนสนิทหนึ่งรอบ รู้ว่าดอกหญ้าแต่งงานแล้ว คุณพิพัฒน์ก็รู้สึกเสียดายในใจ เขาคิดว่าบุคลิกของดอกหญ้าดีกว่าแก้วตา เมื่อครู่นี้เพียงแวบเดียวเขาก็ถูกใจดอกหญ้าเลย นึกว่าดอกหญ้าคือคนที่นัดบอดกับตนเสียอีก
ผลสุดท้าย เธอก็มีเจ้าของแล้ว
แก้วตามานัดบอด หนึ่งเพราะทนการบ่นของคุณแม่ไม่ไหว สองคือนี่เป็นคนที่ป้าแท้ๆ ของเธอแนะนำมา ต้องไว้หน้าคุณป้าตัวเองสักหน่อย
เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณพิพัฒน์ ได้คุยเล่นกันนิดหน่อย แก้วตายิ่งไม่ชอบคุณพิพัฒน์เลย คุณพิพัฒน์ทำงานอยู่ที่ไชยราชกรุ๊ป เป็นผู้นำในบริษัท คิดว่าตัวเองเป็นบุคคลยอดเยี่ยมที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ถึงแม้จะรู้ว่าตระกูลศรีอัมไพไม่ยากจน แต่คิดว่าตระกูลศรีอัมไพเป็นพวกนายทุนกากๆ รวยมาจากบารมีเก่า
จึงรู้สึกดูถูกแก้วตาเป็นอย่างมาก
เขามักแสดงความรู้สึกที่เหนือกว่า แถมยังบอกอีกว่าหลังแต่งงานอยากหารกันคนละครึ่ง พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ ดอกหญ้าก็เตะเพื่อนสนิทเบาๆ ใต้โต๊ะ เตือนเพื่อนสนิทว่าผู้ชายคนนี้ใช้ไม่ได้
“คุณพิพัฒน์ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่งค่ะ”
แก้วตาขัดจังหวะการพูดฉะฉานของคุณพิพัฒน์ เอ่ยขอโทษเขาหนึ่งครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป
เธอโทรหาป้าตัวเองในห้องน้ำ บ่นพึมพำกับป้าตัวเองไปหนึ่งยก แล้วโทรหาแม่อีกครั้ง บอกแม่เธอว่าต่อไปนี้ถ้าบังคับเธอไปนัดบอดกับหมาแมวที่ไหนอีก เธอจะโกนผมตัวเองไปบวชชี
แค่ทำงานที่ไชยราชกรุ๊ปไม่ใช่หรือไง ยังหยิ่งแบบนั้น ไม่ใช่ประธานไชยราชกรุ๊ปสักหน่อย
ไม่แน่ว่าประธานสมปองของเขาก็คงไม่ยโสโอหังมองไม่เห็นหัวคนอื่นแบบนี้
ดอกหญ้าก็ไม่รู้สึกดีกับคุณพิพัฒน์เช่นกัน หลังจากเพื่อนสนิทไปเข้าห้องน้ำ เธอก็มองไปนอกหน้าต่าง ไม่อยากพูดคุยกับคุณพิพัฒน์
สีครามก็เข้ามาในเวลานี้
เขามาถึงก็มองไปรอบๆ ทุกที่ด้วยความเคยชิน คราวนี้ก็เช่นกัน ไม่คิดเลยว่าจะเห็นภรรยาเขากำลังนั่งดื่มกาแฟกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่
นี่เธอกำลังสวมเขาเขาเหรอ?
เมื่อคืนให้เธอเซ็นสัญญาไปแล้ว เธอคิดว่าอยู่กับเขาประโยชน์ที่ต้องได้รับมันจำกัดมาก ก็เลยรีบร้อนอยากหาครอบครัวใหม่ จากนั้นก็นั่งรอเขาเอ่ยขอหย่ากับเธอ?
สีครามกำลังคิดว่าจะเดินไป แก้วตาก็ออกมาจากห้องน้ำ จากนั้นเขาก็เห็นแก้วตาพูดอะไรบางอย่างกับชายคนนั้น แล้วทำท่าจะดึงภรรยาเขาเดินออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดอกหญ้าสีคราม