บทที่ 2 มีเรื่อง
บดินทร์กัดฟันกรอด ท่าทางเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเมื่อครู่ก็ได้ยินสิ่งที่เธออุทานออกมาชัดเจน บดินทร์วางกีตาร์ตัวโปรดลงแล้วเดินตรงมาหาแป้งปั้น
"ว่าใคร!" เสียงห้วนจัดเอ่ยถามเด็กสาวแต่ไม่ทันจะได้รับคำตอบบอดี้การ์ดของแป้งปั้นก็เข้ามาล็อกแขนเขาไว้ทั้งสองข้าง เหตุการณ์เริ่มบานปลายไปเรื่อยๆ แป้งปั้นหน้าถอดสีกับการกระทำอุกอาจของบอดี้การ์ด "ปล่อยกู!" บดินทร์ตะเบ็งเสียงดังลั่นพร้อมสะบัดตัวจนหลุดออกจากพันธนาการ
"ถอยไป" การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทางเอาจริงในขณะที่บดินทร์เองก็มองด้วยสายตาดุดันเอาเรื่องเหมือนกัน
"อยากให้ถอยก็บอกคนของมึงขอโทษกูก่อนสิ" บดินทร์ใช้คำหยาบแล้วตวัดสายตาดุดันมองแป้งปั้น เขาไม่จำเป็นต้องถอยเพราะไม่ได้ก่อเรื่องก่อนสักหน่อย หากเธอไม่ด่าเขาคนปากหมาก่อน บดินทร์ปรี่เข้าไปหาแป้งปั้นพร้อมกับคว้าแขนเธอไว้แน่น "ขอโทษมาดิ"
"คุณ!" บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่ผลักอกแกร่งออกจนบดินทร์เสียหลักล้มลงกับพื้น เขากัดฟันแน่นแล้วลุกขึ้นมาง้างหมัดต่อยหน้าบอดี้การ์ดแป้งปั้นหนักๆ จนหน้าหันไป แป้งปั้นกรีดร้องเสียงหลงยิ่งทำให้เป็นที่สนใจของผู้คนที่มาเดินตลาดจับจ่ายซื้อของ
ชายฉกรรจ์สามคนกำลังกอดรัดกันและต่างปล่อยหมัดใส่กันนัว แป้งปั้นวิ่งไปทางซ้ายทีทางขวาทีเพื่อที่จะห้ามปรามแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีคนฟังเธอเลย
"หยุด! หยุดนะ!" เด็กสาวร้องห้ามเสียงหลงเมื่อเห็นบอดี้การ์ดตัวเองกำลังได้เปรียบแต่คนที่เสียเปรียบคือบดินทร์ เขาล้มลงกับพื้น ริมฝีปากเขาเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดแม้จะเสียเปรียบแต่เขาก็ไม่ยอมถอย "ยะ..หยุดนะคะ!" เด็กสาวตัดสินใจวิ่งเข้ามาขวางทางไว้ในจังหวะที่บดินทร์ปล่อยหมัดมาพอดี เขายั้งมือไว้ทันก่อนจะสะบัดมือลงข้างตัวแล้วใช้มืออีกข้างเช็ดเลือดออก
"ถุย! หมาหมู่รึไงวะ" บดินทร์ขบกรามแน่นก่อนจะหมุนตัวกลับไปสะพายเอากระเป๋ากีตาร์ตัวโปรดแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันที แป้งปั้นทำตาปริบๆด้วยความรู้สึกผิดอย่างมาก สภาพลูกน้องตัวเองกับบดินทร์ไม่ต่างกันเลย
"เฮ้อ~ ทำไมไม่ฟังกันเลยคะ ทำเรื่องจนได้นะ" เด็กสาวหันมาเอ็ดลูกน้องเสียงหน่ายแล้วเดินตึงตังไปที่รถยนต์คันหรู ในขณะที่ลูกน้องทั้งสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้วพยุงกันเดินตามเจ้านายตัวน้อยไป
สองรุมหนึ่งก็จริงแต่แรงบดินทร์ก็เยอะเหมือนกันเล่นงานพวกเขาสองคนแทบกระอักเลือด "แล้วจะตอบคุณพ่อว่ายังไงดีคะ ปกติไม่มีเรื่องก็ไม่อยากให้แป้งไปไหนคนเดียวอยู่แล้ว แต่นี่..เฮ้อ~" เด็กสาวเบะปากคว่ำพลางทำหน้าหมดอารมณ์
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
แป้งปั้นเดินก้มหน้าเข้ามาในบ้าน เลี่ยงที่จะเจอหน้าพ่อแต่สิ่งที่เธอกลัวก็เกิดขึ้น เบิร์ดเดินอาดๆ เข้ามาหาลูกสาวโดยที่ไม่รู้ว่าแป้งปั่นเพิ่งเจออะไรมา
"ไปเที่ยวไหนมา ทำไมกลับมาป่านนี้หืม" ฝ่ามือหนาวางลงบนศีรษะลูกสาว รอยยิ้มเอ็นดูปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาผู้เป็นพ่อทำให้แป้งปั้นกล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพ่อตรงๆ แล้วเอ่ยตอบ
"ไปเที่ยวตลาดมาค่ะพ่อ"
"ตลาด ที่ไหนทำไมต้องไปที่ที่คนพลุกพล่านแบบนั้นด้วย"
"พี่เบิร์ด.." เสียงหวานใสของป๋อมแป๋มดังขึ้นทางด้านหลังสามี แป้งปั้นที่เห็นแม่กำลังเดินมาก็รีบเดินเข้าไปกอดไว้หลวมๆ ทำตาแป๋วออดอ้อนด้วย "ทำไมทำหน้าอ้อนแบบนี้คะ" เธอถามลูกสาวตัวน้อยขณะที่แป้งปั้นทำหน้าเศร้า ริมฝีปากเธอเบะคว่ำอ้อนเหมือนกำลังจะฟ้องอะไร
"อย่าให้ท้ายกันได้ไหม แป้งปั้นหนูไปเที่ยวตลาดมา พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่อยากให้ไปน่ะ"
"แต่หนูแค่ไปเดินเล่นนะคะ ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ"
"แล้วลูกน้องพ่อมันไปถูกหมาที่ไหนฟัดมา!" สิ้นเสียงผู้เป็นพ่อลูกน้องที่ติดตามเธอไปที่ตลาดเมื่อครู่ก็ถูกพาตัวเข้ามาในบ้าน แป้งปั้นเสมองไปทางอื่นแล้วซบหน้าลงกับหน้าท้องแม่เป็นการหนีหน้าพ่อ "อธิบายมาก่อน ไม่งั้นพ่อโกรธนะแป้ง"
"คือ…คือเราแค่..มีเรื่องกันนิดหน่อยค่ะ"
"กับใคร!"
"เอ่อ…ไม่รู้ค่ะ ไม่รู้จริงๆนะคะ" เธอหันมาย้ำคำตอบกับพ่อแล้วหันไปมองลูกน้องที่ยืนก้มหน้าสำนึกผิดอยู่ตรงหน้าเบิร์ดแล้วพ่นลมหายใจออกเบาๆ "แป้งขอตัวก่อนนะคะ" ว่าจบเธอก็รีบคลายอ้อมกอดจากแม่แล้ววิ่งขึ้นไปชั้นสอง พอมาถึงหน้าห้องก็รีบย่อเข่านั่งลง คลานไปส่องดูพ่อกับแม่ผ่านช่องราวบันได 'ดีนะที่คุณแม่มาทันเวลา ไม่งั้นคุณพ่อต้องเค้นเอาคำตอบจากเราแน่ๆ' เมื่อคิดแบบนั้นแล้วแป้งปั้นจึงรีบเข้ามาในห้องนอนส่วนตัว แต่ก็มีอีกเรื่องที่เธอคิดไม่ตก..
วันต่อมา
แป้งปั้นยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำภายในโรงเรียน เธอพ่นลมหายใจออกนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะหันไปมองกระเป๋านักเรียนที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ
"นี่!"
"อ๊ะ!" เด็กสาวสะดุ้งตกใจกับที่พริกแกงโผล่มาจ๊ะเอ๋ด้านหลัง "พริกเล่นอะไรเนี่ย แป้งตกใจนะ" เธอเอ็ดเพื่อนเสียงเบาพลางยู่ปากเข้าหากัน
"ก็เห็นใจลอยอยู่อะ ไม่คิดว่าจะตกใจขนาดนี้แล้วนี่คิดอะไรอยู่เหรอ พริกเห็นยืนอยู่หน้ากระจกนานสองนานแล้วนะ"
"คิดว่าควรจะไปขอโทษพี่เขาดีไหม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจอันธพาล NC25+