บทที่ 4 ลูกชายเดียว
บดินทร์เดินอาดๆ ออกมาจากมหาวิทยาลัย เขาตรงไปที่ลานจอดรถ แต่จังหวะนั้นกลับมีรุ่นน้องคนหนึ่งเดินมาชนเขาเต็มๆ จนทำให้กระเป๋ากีต้าร์โปร่งสุดที่รักหล่นลงพื้นอย่างแรง
"เดินยังไงวะ ไม่ดูคนเดินสวนมาเลยรึไง"
"ขะ..ขอโทษค่ะพี่บดินทร์ หนูขอโทษนะคะ"
"เล่นโทรศัพท์จนไม่มองทาง มันน่า.." เขากำหมัดแน่นแล้วยกกระเป๋ากีต้าร์โปร่งขึ้นมาและได้พบว่าคอกีตาร์หักเสียแล้ว บดินทร์ยืนอึ้งกินกับสิ่งที่เห็น
"นะ..หนูจะชดใช้ให้นะคะ"
"ใสหัวไป ก่อนที่ฉันจะเอากีตาร์ปาดหน้าเธอ" เขากำหมัดแน่นอย่างเดือดดาล หลังจากที่บดินทร์พูดประโยคนั้นออกมารุ่นน้องสาวรีบวิ่งหนีตายทันที
"อะ..อ้าวเฮ้ย ทำไมเป็นงี้วะเนี่ย" ขุนเขาที่เดินตามเพื่อนมาเอารถมอเตอร์ไซค์เห็นสภาพกีตาร์ที่บดินทร์ถืออยู่ถึงกับหน้าเหวอไปทันที ในขณะที่บดินทร์ยืนนิ่ง "มึงโอเคไหมวะ"
"แล้วมึงคิดว่ากูโอเคไหม" บดินทร์ตอบเพื่อนเสียงเรียบก่อนจะพ่นลมหายใจออกหนักๆ "กีตาร์ตัวโปรดที่พ่อกูซื้อให้ก่อนตาย แต่วันนี้มันพังแล้ว" บดินทร์ตัดพ้อเสียงอ่อน เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"มึงให้กูเอาไปซ้อมให้ไหม ทางผ่านไปบ้านกูพอดีเลยอะ ร้านนั้นซ่อมดีด้วยนะ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูซ่อมเอง" ว่าจบบดินทร์ก็ล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบก์คู่ใจ แล้วขับออกมาจากลานจอดรถ ใบหน้าหล่อเหลาแดงซ่านจากความโกรธ ไอความร้อนจากลมหายใจขึ้นเป็นฝ้าบนหน้ากากบังลมหมวกกันน็อก
รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบก์คันสีดำขับเข้ามาจอดในบ้านทรงไทยที่ทำด้วยไม้ทั้งหมดหลังหนึ่ง ทันทีที่บดินทร์ดับเครื่องยนต์เสียงหวานใสของหญิงสาววัยกลางคนก็ดังแทรกขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงทันที
"วันนี้ทำไมกลับบ้านเร็วจัง ไปมีเรื่องที่ไหนมาอีกรึเปล่าลูก" สายป่านเอ่ยถามลูกชายคนเดียวอย่างเป็นห่วง เธอไม่ได้เอ่ยถามเพียงอย่างเดียวแต่ยังถือโอกาสที่บดินทร์กำลังวุ่นอยู่กับกระเป๋ากีต้าร์โปร่ง สำรวจร่างกายและใบหน้าลูกด้วย
"เปล่า วันนี้ไม่มีเรียนตอนเย็น" บดินทร์ตอบแม่เสียงเรียบแล้วเดินทำหน้านิ่งเข้ามาในบ้าน สายป่านจับแขนลูกชายไว้แน่นจนบดินทร์ต้องหยุดแล้วหันมามอง
"เย็นนี้กินอะไรดีลูก"
"เดี๋ยวผมทำเองก็ได้ ไม่ต้องเหนื่อยทำหรอก" ว่าจบก็ปลีกตัวขึ้นมาบนห้องนอนส่วนตัว บดินทร์ขมวดคิ้วยุ่งกับสภาพห้องที่มันไม่เหมือนเดิม เขาวางกระเป๋าลงแล้วลงมาหาแม่หน้าบ้าน "ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเข้าไปวุ่นวายในห้อง"
"แม่แค่เก็บผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มมาซักแค่นั้น และเก็บของนิดหน่อย"
"ผมบอกแล้วไงว่าให้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวก็เหนื่อยอีก" บดินทร์กำหมัดแน่น พยายามทำใจให้เย็นลง ที่เขาไม่อยากให้แม่ทำงานหนักเพราะแม่กำลังป่วยเป็นภูมิแพ้ หากทำงานหนักจนเกินไปก็จะหายใจไม่ออก และอากาศข้างนอกก็ไม่ค่อยดีทำให้บดินทร์เกิดความเป็นห่วงแต่เขาไม่เคยจะบอกแม่ตรงๆ เพียงแต่ใช้การกระทำสื่อให้แม่รู้เท่านั้น
"แม่ขอโทษ ก็อยู่บ้านเฉยๆมันเบื่อนิลูก เรื่องเล็กๆ น้อยๆแบบนี้แม่ทำได้"
"…" บดินทร์ปิดปากเงียบ เขาหันหลังเดินตึงตังขึ้นมาบนห้องนอนเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง หางตาก็เหลือบเห็นกระเป๋ากีตาร์ยิ่งทำให้รู้สึกหดหู่ "จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหมนะ" ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเสียงเบา แล้วเอากีตาร์ออกมาซ่อม
เขานั่งทำอยู่นานสองนานจนถึงตีสามของวันใหม่ บดินทร์อ้าปากหาวหวอดๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปเอนตัวลงนอนบนเตียงขนาดสามจุดห้าฟุต
"เฮ้อ~" เสียงพ่นลมหายใจออกดังขึ้นภายในห้องนอนที่ตอนนี้ปกคลุมด้วยไอความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศบวกด้วยวันนี้ฝนตกเพิ่งหยุด อากาศเลยเย็นลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจอันธพาล NC25+